“สายป่าน” ขึ้นศาล ฟ้องครูสอนดำน้ำใส่ร้ายธุรกิจ เสียหาย 10 ล้าน เรียกค่าเสียหาย 5 ล้าน เผยหลังแถลงไม่ติดต่อ ส่อให้เห็นเจตนา เดินหน้าฟ้องให้เป็นกรณีตัวอย่าง ลั่นต้องกู้ชื่อเสียงและความเชื่อมั่นจากลูกค้ากลับมา ยืนยันไม่ได้มีเจตนาหลอกขายของไม่ดี
หลังจากก่อนหน้านี้นักแสดงสาว “สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข” ตั้งโต๊ะแถลงข่าวประกาศจะฟ้องหมิ่นประมาทครูสอนดำน้ำรายหนึ่ง ที่โพสต์เฟซบุ๊กใส่ร้ายธุรกิจขายอุปกรณ์ดำน้ำที่เจ้าตัวนำเข้ามาจากประเทศกรีซ จนเกิดความเสียหาย โดยคู่กรณีโจมตีสินค้าทำนองว่าอยู่ในสภาพชำรุดซื้อมาแล้วมีปัญหา ทั้งยังเขียนข้อความบิดเบือนความจริง ทำให้คนเข้าใจผิดว่าสายป่านหลอกขายของ ส่งผลกระทบทำให้ยอดขายตก ลูกค้ายกเลิกสั่งซื้อสินค้า สูญเงินนับ 10 ล้าน ร้อนถึงสายป่านต้องออกมาชี้แจงเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของตนเอง
ล่าสุด เวลา 10.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.63) นักแสดงสาวได้เดินทางมายังศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พร้อม “นายเกรียงชัย วิศิษฏ์สรอรรถ”ทนายความส่วนตัว เพื่อนำหลักฐานเข้ายื่นฟ้อง “นายวรพันธ์ อุดมพงษ์” ครูสอนดำน้ำคู่กรณี เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา พร้อมเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 5 ล้านบาท โดยศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องครั้งแรก วันที่ 18 ม.ค.2564 เวลา 09.00 น. ลั่นจะทำให้เป็นคดีตัวอย่าง
ทนาย : “วันนี้ก็มาดำเนินการฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาเหมือนที่แถลงข่าวไปคราวก่อนนะครับ”
สายป่าน : “วันนี้มายื่นฟ้องที่ป่านได้แถลงข่าวไปนะคะ วันนี้ชื่อคนที่ป่านมายื่นฟ้องก็คือนายวรพันธ์ อุดมพงษ์ค่ะ เป็นครูสอนว่ายน้ำคนนึงที่หมิ่นประมาทผ่านแอปพลิเคชั่นและเฟซบุ๊กค่ะ”
ทนาย : “ก็มีคนเข้าใจผิดค่อนข้างมาก จริงๆ ป่านก็ไม่ได้อยากจะเป็นคนที่ค้าความหรืออะไร ก็เอาตัวที่เป็นต้นเรื่อง ที่ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ครับ ในส่วนของค่าเสียหายจริงๆ พอมาตรวจดูแล้วมีมูลค่าน่าจะเป็น 10 ล้านเลย แต่ว่าตัวป่านเองไม่ได้ตั้งใจค้าความ แต่ตั้งใจให้คดีนี้เป็นตัวอย่าง ก็เลยเรียกที่มันสมควร ก็คือประมาณ 5 ล้านครับ ตอนนี้มีแค่คดีเดียวครับ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณาครับ แต่เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องอาญาครับ”
สายป่าน : “ถามว่าก่อนหน้านี้เขาเข้ามาเจรจาไหม เท่าที่ทราบยังไม่มี แต่เหมือนเพื่อนๆ บอกอยู่เหมือนกันค่ะว่ามีการพูดคุยกับเขา แต่เขาก็ยังไม่ได้เข้ามาขอโทษหรือเข้ามาเจรจาอะไรค่ะ และหลังจากที่เป็นข่าวเขาก็ยังไม่ได้มีการติดต่อมา ยังไม่เห็นเจตนาตรงนั้นของเขานะคะ ยังไม่มี และถึงจะโพสต์ขอโทษตอนนี้ก็คิดว่าไม่ทันแล้วค่ะ เพราะความเสียหายมันเกิดขึ้นไปแล้ว”
ทนาย : “เรื่องนี้มันเสียหายถึงขั้นว่าตัวต้นสังกัดป่านที่ต่างประเทศก็ทราบเรื่องแล้วด้วย ตอนนี้ทางเราก็ได้เรียกเขามาอยู่ในทีมพยานด้วยครับ แต่ยังไงก็ต้องว่ากันอีกทีในชั้นศาล ถามว่าทางต่างประเทศเขาจะเอาเรื่องเพิ่มไหม ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการพูดคุยกันอยู่ครับ แต่ทางนั้นเขาทราบเรื่องแล้ว เพราะตอนแรกป่านมีออเดอร์ยอดของเยอะ และมันมียอดในส่วนที่มันไม่สามารถขายได้เลยอย่างที่แจ้งไป ก็เลยต้องมีการชี้แจงตรงนี้กันด้วย”
สายป่าน : “ถามว่าถ้าหลังจากนี้เขาเข้ามาขอโทษ คือ ณ ตอนนี้คุยกับป่านต้องเป็นตามกระบวนการยุติธรรมแล้วค่ะ”
ทนาย : “ก็คงต้องมาคุยในศาล เพราะความเสียหายมันเกิดขึ้นค่อนข้างมากและเป็นวงกว้างจริงๆ”
เผยเตรียมนัดไต่สวนและไกลเกลี่ยช่วงเดือนมกราคมปีหน้า
ทนาย : “นัดครั้งแรกจะเป็นช่วงมกราคมปีหน้าครับ ขั้นตอนหลังจากนี้ก็คือศาลคงมีนัดไกล่เกลี่ยครับ แต่จะมีนัดไต่สวนกันช่วงมกราคมที่บอกไป ก็คงนัดมาเจอกันที่ศาลครับ ถามว่าเบื้องต้นจะไม่ยอมความใช่ไหม ก็คงต้องมาดูเจตนาที่เขาจะแสดงเจตนาก่อนครับ ก็ต้องมาขอโทษ มารับสารภาพผิดอะไรต่างๆ”
สายป่าน : “จริงๆ แล้วอยากให้เป็นกรณีตัวอย่างค่ะ เพราะป่านรู้สึกว่าเราเองเป็นคนของประชาชน เป็นบุคคลสาธารณะ ดังนั้นการที่เราทำเรื่องนี้ให้มันเป็นกรณีตัวอย่าง ป่านคิดว่ามันน่าจะเป็นกรณีที่ดีในอนาคตต่อๆ ไปค่ะ”
ทนาย : “ผมว่าการโพสต์หรือการพิมพ์แค่แปีบเดียว เสี้ยววินาทีมันสร้างความเสียหายไปในวงกว้างขนาดนี้เลยครับ ก็คงต้องแสดงเจตนาอะไรต่างๆ ด้วย”
สายป่าน : “ใช่ค่ะ แล้วการโพสต์ตั้งหัวข้อขึ้นมามันเปิดสาธารณะแบบนี้ มันทำให้คนอื่นเข้ามามีส่วนร่วมในการคอมเมนต์ด้วย ยิ่งเป็นเรื่องราวใหญ่โตที่เราจะต้องใช้สามัญสำนึกนิดนึงในการโพสต์และคอมเมนต์ต่างๆ ค่ะ และในส่วนของคนที่โพสต์คอมเมนต์เราจะดำเนินการด้วยไหม อันนั้นเดี๋ยวต้องดูอีกทีนึงค่ะ ต้องเรียกเข้ามาดูว่าเจตนาหรือเปล่า อย่างที่พี่ทนายบอกไปค่ะ”
ทนาย : “เจตนาหลักของป่านไม่มีตั้งใจจะค้าความ ก็เอาคนที่เป็นตัวต้นเรื่องที่ทำให้เกิดความเสียหาย และทำให้บุคคลภายนอกหลงเชื่อเข้าใจผิด ตัวป่านเองก็เสียหายในด้านของกิจการการค้าอย่างที่บอกไป และตรงที่ป่านเป็นดาราก็เสื่อมเสียด้วย เพราะมีคนเอาไปทำเป็นวิดีโอล้อออกมาว่าโดนสายป่านหลอก”
บอกคงต้องใช้ระยะเวลาในการทำให้ลูกค้ากลับมาเชื่อใจอีกครั้ง
สายป่าน : “ถามว่าพอข่าวออกมาแล้วลูกค้าสบายใจขึ้นไหม ณ ตอนนี้ยังไม่ถือว่าเห็นผลชัดเจนอะไรขนาดนั้น อาจจะต้องใช้ระยะเวลาสักพักนึงเหมือนกันค่ะ ก็จะมีแต่พี่ๆ ที่คอยให้กำลังใจมากกว่า ส่วนตัวลูกค้าหนูว่ามันก็ต้องใช้เวลาค่ะ คนที่ยกเลิกสินค้าไปแล้วก็ยังไม่ได้กลับมาสั่งใหม่ แต่อาจจะมีคนอื่นที่เห็นข่าวว่าเราออกมาพิสูจน์ว่าเราจริงใจนะ เราไม่ได้หลอกลวงนะ ก็มีลูกค้าใหม่ๆ เข้ามา แต่ถ้าเทียบกับจำนวนที่หายไปเทียบกันยังไม่ได้ค่ะ ถามว่าเราจะเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้ยังไง ก็คงต้องใช้ระยะเวลาแหละ ป่านก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”
ทนาย : “ที่คุยกับป่านก็คือถ้าเกิดว่าความยุติธรรมมันชัดเจนว่ามีคำพิพากษาอะไรต่างๆ หรือเขามายอมรับ ก็อาจจะทำให้เรื่องตรงนี้มันคลี่คลายได้ เพราะอย่างที่บอกเราแถลงข่าวไป เราเป็นคนมีชื่อเสียง บางคนที่เขายกเลิกไปเขาอาจจะยังไม่แน่ใจว่าเป็นยังไง ทั้งๆ ที่ความจริงน้องเขายังไม่ได้ทำเลย
แต่ ณ วันนี้เขาลบโพสต์ไปแล้วครับ แต่ว่าความผิดมันสำเร็จไปแล้ว เพราะมีคนเชื่อและเขาเปิดเป็นสาธารณะ ความเสียหายมันกระจายไปในวงกว้างไปแล้ว เพราะจากที่ดูของป่านยอดที่ยกเลิกไปค่อนข้างเยอะมาก เพราะว่าช่วงก่อนที่เขาโพสต์เป็นช่วงหลังจากปิดโควิดและเปิดพอดีคนก็ออเดอร์เข้ามาเยอะและสั่งของเยอะ เงินก็จมเยอะมาก”
สายป่าน : “เป็นช่วงพีกที่เรากำลังขายได้ดีเลยค่ะ คือเปิดมาเราก็คิดว่าเราขายได้แน่นอน แต่พอมาโพสต์โจมตีแบบนี้ก็อย่างที่บอกว่าทุกอย่างมันกระจายในวงกว้าง เฉพาะคอมเมนต์ก็เป็นหลายสิบคอมเมนต์ แสดงว่าทุกคนเห็นหมดแล้วถึงเข้ามาคอมเมนต์กันขนาดนั้น ก็ถือว่าเยอะนะโพสต์ของบุคคลธรรมดา แต่ว่ามีผลถึง 60-70 คอมเมนต์ ป่านว่าก็ไม่น้อยนะคะ”
ทนาย : “อย่างเพจต่างๆ คนคอมเมนต์หลักสิบก็จริง แต่การเข้าถึงหลักสิบ มันต้องมีคนเห็นเป็นร้อย เป็นพันคนนะในเฟซบุ๊ก มันกระจายในวงกว้างไปแล้ว”
เผยคู่กรณีมาคอมเมนต์ได้แค่ 2 วัน แต่มีคอมเมนต์ต่อเพิ่มอีกกว่า 60-70 คอมเมนต์
ทนาย : “หลักฐานที่นำมาวันนี้ ก็มีคำฟ้องและพวกเอกสารช่วงที่เขากระทำผิด มีสองช่วงเวลา ก็สามารถเปิดเผยได้ครับ”
สายป่าน : “ระยะเวลาที่เขาทิ้งโพสต์ไว้นานแค่ไหนเหรอคะ ก็เกือบๆ 2 วันค่ะ แต่ก็ใช้ได้อยู่นะ 60-70 คอมเมนต์ก็โหดเหมือนกัน”
ทนาย : “พอมาตรวจสอบอะไรต่างๆ ก็เป็นช่วงเดือนกรกฎาคมครับ”
สายป่าน : “ก็อยากจะบอกกับลูกค้านะคะ จริงๆ แล้วสำหรับลูกค้า ถ้าในอนาคตทุกอย่างมันชัดเจนมากขึ้นป่านคิดว่าความเชื่อใจก็น่าจะกลับมา แต่ ณ ตอนนี้ขอชี้แจงว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเคยเกิดขึ้นหรือผ่านการโพสต์ต่างๆ มาไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของทางเรานะคะ เป็นความผิดพลาดจากการใช้งานก็อาจจะมีวิธีการพิสูจน์อีกทีในอนาคตนะคะ แต่ก็ขอยืนยันตรงนี้ว่าเราไม่ได้มีเจตนาที่จะหลอก หรือไม่ได้มีเจตนาที่จะขายของไม่ดีไม่มีคุณภาพให้กับลูกค้านะคะ ก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าป่านยินดีที่จะดูแลและหาของที่ดีที่สุดให้ลูกค้าเหมือนเดิมค่ะ”
ทนาย : “และป่านก็ยังมีโปรเจกต์ที่ยังหวังอยู่ว่าจะส่งเสริมการท่องเที่ยวเหมือนเดิมก็ยังทำต่อ”
