xs
xsm
sm
md
lg

เล่นผิดคน! “สายป่าน” ไม่ทน ฟ้องครูสอนดำน้ำดิสเครดิตธุรกิจ เสียหายหลายล้าน เรียกค่าเสียหายหลักล้าน!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สายป่าน” ควงทนายแถลงฟ้องครูสอนดำน้ำดิสเครดิตธุรกิจ จนยอดขายตก ลูกค้ายกเลิก เสียหายหลายล้าน เรียกค่าเสียหายหลักล้านกอบกู้ธุรกิจ พร้อมเตือนสติ อย่าทำแบบนี้กับใคร

รักการดำน้ำเป็นชีวิตจิตใจ ถึงขั้นผุดธุรกิจใหม่ เป็นอุปกรณ์ดำน้ำ ซึ่งเป็นแบรนด์ดังจากต่างประเทศ ที่ควักทุนเป็นล้านนำเข้าเข้ามาเอง หวังให้ลูกค้าได้ใช้สินค้าที่ดี แต่ล่าสุดนางเอกสาว “สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข” กลับถูกชาวเน็ตรายหนึ่งมีอาชีพเป็นครูสอนดำน้ำ โพสต์ใส่ร้ายธุรกิจจนเสียหาย ทำให้ยอดขายตกฮวบ สูญเงินหลายล้าน จนต้องขอกอบกู้ศักดิ์ศรี ด้วยการฟ้องร้องดำเนินคดีคู่กรณี ให้เป็นเคสตัวอย่างโดยสายป่านได้ควง “ทนายเกรียงชัย วิศิษฏ์สรอรรถ” เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าว ลั่นจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และจะเรียกค่าเสียหายหลักล้านเลยทีเดียว   

สายป่าน : “ต้องบอกก่อนว่าหลายท่านอาจจะเห็นว่าช่วงหลังตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ป่านค่อนข้างคลุกคลีกับวงการดำน้ำเพราะตัวป่านเองก็ชอบดำน้ำมากๆ เลย อยู่ในวงในของการดำน้ำมาสักระยะหนึ่ง แล้วป่านมีความสนใจในด้านธุรกิจ ซึ่งช่วงหลังมานี้ก็ได้ทำธุรกิจธุรกิจหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับอุปกรณ์ดำน้ำเป็นฟิน ตีนกบยี่ห้อ Alchemy จริงๆ ตัวป่านเองศึกษามาสักระยะหนึ่งแล้ว ค่อนข้างมั่นใจในแบรนด์นี้ก็เลยนำเข้ามา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องราวที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊กยูสเซอร์หนึ่ง สืบทราบภายหลังว่าเขาเป็นครูสอนว่ายน้ำที่สระแห่งหนึ่งในย่านรังสิต โพสต์เฟซบุ๊กเพื่อโจมตีธุรกิจที่ป่านทำอยู่ซึ่งก็คือการนำภาพ”

ทนาย : “เขานำภาพซึ่งไม่ได้รับอนุญาต จากคนที่ซื้อของของสายป่านด้วย แล้วเขาก็เอาไปบิดเรื่องอีกเรื่องจนเกิดความเสียหาย ตัวป่านเองก็เป็นดารา ต้องใช้ชื่อเสียงในการทำมาหากินต่างๆ รวมถึงกิจการร้านกาแฟและกิจการที่ได้รับผลกระทบจริงๆ คือบริษัทนี้ที่ป่านประกอบกิจการ เดี๋ยวให้ป่านเล่าต่อ”

สายป่าน : “บริษัทนี้ เป็นบริษัทที่ป่านทำขึ้นมาเพื่อที่จะขายอุปกรณ์ดำน้ำโดยเฉพาะ การที่เขาโพสต์ภาพนั้นออกไปทำให้ประชาชนทั่วไป ความเข้าใจผิดว่าสายป่านหลอกขายของ ทำให้มีการรุมคอมเมนต์ว่าเราไม่น่าเชื่อถือสร้างความไม่น่าเชื่อถือและสร้างความเคลือบแคลงใจให้กับลูกค้าใหม่ และลูกค้าที่เคยซื้อของของเราไปแล้ว ถามว่าเขาพูดว่าอะไร เป็นภาพถ่ายฟินกบดำน้ำ”

ทนาย : “ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการใช้งานไม่ได้เกิดจากตัวสินค้าจากสายป่านหรืออะไรเลย แต่เขาเขียนในทำนองว่าของที่ซื้อจากร้านนี้มีปัญหา ซึ่งจะทำให้คนเข้าใจผิด ในส่วนของบุคคล ซึ่งผมได้ตรวจเอกสารบางส่วนแล้วแต่ขออนุญาตไม่เอาให้ดู เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมตัวที่เราจะฟ้องภายในเดือนนี้ครับ พบว่ามีการยกเลิก สอบถามต่างๆ ทำให้ยอดขายเสียหายหลายแสนหลายล้าน

สายป่าน : หลังจากนั้นก็มีพี่ๆ ทักเข้ามาถามป่านหลายคนเหมือนกัน คือหลังจากเกิดเรื่องวันที่ 16 มิถุนายนป่านยังไม่เห็น แต่ลูกค้าส่งเข้ามาให้ดู ถามว่าเห็นไหม มีคนเขาไปโพสต์แบบนี้ ป่านก็เลยตามเข้าไปดู ก่อนหน้านี้ป่านไม่เคยรู้จักเขามาก่อน ไม่เคยเห็นเขามาก่อน เพิ่งมาสืบทราบภายหลังว่าเขาเป็นครูสอนดำน้ำที่สระแห่งหนึ่ง และไม่ได้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ดำน้ำสักเท่าไหร่ หรืออาจจะมี อันนี้เราไม่ทราบ แต่การไปวิจารณ์หรือโพสต์ข้อความอะไรแบบนั้นเป็นข้อมูลที่ไม่ใช่ความจริง อย่างที่พี่ตั้มบอกว่ามันไม่ได้เกิดจากการกระทำของเรา แต่เกิดจากการใช้งานของลูกค้าจริงๆ ป่านเลยรู้สึกว่าเรื่องนี้ป่านต้องชี้แจงแถลงไข ต้องบอกว่ามันไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของป่าน สิ่งที่เขาโจมตีค่อนข้างส่งผลกระทบต่อชีวิตของป่านและบริษัทด้วย”

ทนาย : “ต้องบอกว่าป่านเหมือนสวมหมวก 2 ใบ ใบแรกคือบุคคลธรรมดา คือตัวสายป่านเองที่เป็นดารา อีกอันหนึ่งก็คือในส่วนที่เป็นกรรมการของบริษัท เพราะว่ากิจการเพิ่งตั้งต้น การที่เขายอดขายตกลง ไม่ได้เกี่ยวกับช่วงโควิด-19 เพราะตอนช่วงโควิดที่มีการคลายล็อกดาวน์ ก่อนจะเกิดเรื่องนี้ สินค้าของป่านขายดีมาก พอตรวจสอบเอกสารอันนี้ เรามีให้ดูได้เลย แต่พอเกิดเรื่องในช่วงเดือนถัดมา คือถูกแคนเซิลหมดเลย เสียหายค่อนข้างมาก แล้วถูกโจมตีหลายอย่างเลยทีเดียว การกระทำครั้งนี้เหมือนความผิดมันสำเร็จไปแล้ว เพราะว่าเขาก็ได้เขียนโจมตีใส่ร้ายขึ้นมา บุคคลภายนอกก็หลงเชื่อ มีคอมเมนต์ต่างๆ มากมาย ตรงนี้เดี๋ยวเราจะตรวจสอบเพิ่มเติมอีกว่ามีใครที่เข้าข่ายอีกบ้าง นอกจากคนนี้”

ไม่รู้ต้องการดิสเครดิตหรือไม่ แต่เข้าข่ายหมิ่นประมาทชัดเจน
ทนาย : “อันนี้ก็ยังไม่แน่ใจนะครับ เดี๋ยวยังไงต้องดูเจตนาของเขาด้วย แต่เจตนาที่เขากระทำการหมิ่นประมาทตรงนี้มันชัดเจนแล้ว แล้วก็เป็นการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วย โทษก็จะหนักขึ้นไปอีก เพราะว่าในส่วนที่เขาโพสต์เฟซบุ๊ก เขาโพสต์เป็นสาธารณะด้วย มีคนเข้ามาคอมเมนต์ เข้ามาแชร์ ต่างๆ มากมาย แล้วภายหลังจากวันที่ 17 มิถุนายน ทางสายป่านก็มีคนส่งเข้ามาให้อีก ก็เพิ่งจะมาทราบภายหลัง ว่ามีการไปคอมเมนต์ข้อความลักษณะแบบนี้ ที่โจมตีทางสายป่านกับบริษัทอีก ก่อนหน้านี้ด้วยเพิ่งทราบ”

เขาไม่ได้ใช้เอง แต่นำภาพของบุคคลอื่นมา
ทนาย : “เหมือนกับว่าไปเห็นคนวางของไว้ แล้วมีรอยก็ถ่ายมา แล้วก็พิมพ์ข้อความ”

สายป่าน : “หลังจากเกิดเรื่อง คือหลังจากสืบค้นแล้วว่าเป็นใคร ก็มีส่งข้อความไปบอกเขา ว่าการกระทำแบบนี้ของเขาคือไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของตีนกบที่แท้จริง แล้วก็บอกเขาว่าการกระทำแบบนี้ ทำให้คนหลงเชื่อ แล้วก็เข้าใจผิดได้ ป่านขอแจ้งให้ทราบเพียงเท่านี้ ป่านบอกเขาแบบนี้ เขาก็บอกโอเคครับ แล้วหลังจากนั้นมาก็มีการลบโพสต์ ซึ่งไม่ได้แก้ไขข้อมูล ไม่ได้กอบกู้ชื่อเสียงที่มันเสื่อมเสียไปแล้ว ป่านจำได้ว่าตอนนั้นคอมเมนต์มันประมาณ 65 คอมเมนต์ ที่มีการเข้ามาเมนต์กันอย่างสนุกสนาน”

ทนาย : “ต้องเข้าใจด้วยว่าพอเป็นการคอมเมนต์สนุกสนาน แล้วเป็นสาธารณะแบบนี้ แล้วเป็นดาราด้วย คนก็เข้ามาอ่านค่อนข้างมาก เรื่องมันก็ไปไกล ทั้งวงการดำน้ำและอื่นๆ ครับ เสียหายเยอะเลยทีเดียว ที่ถูกยกเลิกจริงๆ ยอดเยอะครับ เป็นแสนเป็นล้าน จริงๆ มันมีความเสียหายในส่วนอื่น ที่เกิดขึ้นจากเรื่องนี้ด้วย”

จ่อฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นล้าน
ทนาย : “ที่แน่ๆ เลยก็คือหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาครับ เรียกค่าเสียหายด้วย ก็เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องอาญาอยู่แล้ว ตอนนี้คือกำลังสรุปยอดอยู่ครับ เพราะมันมีความเสียหายอื่นๆ ด้วย เนื่องจากแบรนด์ที่ป่านนำเข้ามา เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในประเทศกรีซด้วย ถ้าใครเป็นนักดำน้ำก็จะทราบ ว่าเขาเป็นตัวแทนจัดแข่ง แล้วก็เป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างแข็งแรงมีชื่อเสียง ก็กระทบหลายส่วนเลยทีเดียวครับ ก็เป็นล้านครับ แล้วก็ความผิดคือถึงเขาลบไปแล้ว แต่ความผิดมันสำเร็จไปแล้ว แทนที่เขาจะแสดงความรับผิดชอบต่างๆ ก็ไม่เลย กลับปล่อยให้ความเสียหายมันกระจายเป็นวงกว้างไปอีก”

ต้องเอาเรื่องกอบกู้ชื่อเสียง
ทนาย : “คือเหมือนทางน้องเขาต้องกอบกู้ชื่อเสียงกลับมาครับ เพราะเขาก็มีเวลานานแล้วนะ ที่จะเข้ามาดำเนินการตรงนี้ รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องต่างๆ ด้วย”

สายป่าน : “ป่านก็คุยกับเจ้าของตีนกบแล้วค่ะ ว่าความเสียหายเกิดจากตัวเขา”

ทนาย : “เรามีส่งตรวจแล็บด้วย”

เมินเจรจา หลังจากนี้ไปคุยในศาล
ทนาย : “ทางครูและบุคคลที่เกี่ยวข้อง จากที่ได้คุยกับทางน้อง และครอบครัวน้อง รวมถึงเรื่องของฟินในบริษัท ก็คิดว่าคงต้องไปคุยกันในศาลครับ”

รับไม่ได้ทำเสียหายทั้งองค์กร ต้องกอบกู้ชื่อเสียง
สายป่าน : “คือพี่ๆ ทุกคนก็จะรู้อยู่แล้ว ว่าหนูเป็นคนไม่ค่อยมีปัญหาอะไรกับใคร ป่านก็จะอยู่ของป่านแบบนี้มาตลอด เรื่อยๆ พยายามไม่ยุ่งกับเรื่องดรามาต่างๆ แต่ว่าอันนี้มันไม่ได้กระทบกับแค่ตัวป่านคนเดียว ป่านเคยบอกว่าชื่อเสียงป่าน ป่านสะสมมาตลอดระยะเวลาการทำงาน ทำป่านคนเดียว ป่านไม่เคยโกรธเลยนะ ใครว่าป่าน ป่านไม่เคยโกรธเลย แต่ว่าในกรณีที่เป็นบริษัท และป่านมีคนอื่นๆ ที่ป่านต้องรับผิดชอบอีก ในบริษัทมันมีหลายคน ดังนั้นมันเสื่อมเสีย เวลาเขาทำแบบนี้ มันเสียทั้งองค์กร   

ถ้าเกิดป่านไม่ออกมาเพื่อที่จะทำให้ทุกคนรู้ว่า ฉันออกมากอบกู้ชื่อเสียงนะ อย่างน้อยคุณทำลายแต่ว่าฉันรู้สึกนะ ฉันกอบกู้นะ มันก็จะสนุกกับแค่การโพสต์ของคนบางคน ซึ่งอันนี้ป่านรู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับป่าน ป่านเลยต้องออกมาทำอะไรแบบนี้ เพื่อเป็นเคสตัวอย่าง”

ทนาย : “เหมือนเคสนี้ก็ฝากเป็นตัวอย่าง ว่าเวลาจะโพสต์อะไร คือสังคมมีกฏหมายเป็นกติการูปแบบหนึ่ง ก่อนโพสต์อะไรก็อยากจะให้คิดนิดหนึ่ง เพราะบางทีภายใน 2 นาทีของคุณมันทำลายอะไรหลายๆ อย่างเกิดขึ้นได้ อย่างน้องเป็นหัวเรือแบกรับพนักงานไว้ต่างๆ ค่าใช้จ่ายต่างๆ โควิดก็ไม่อยากจะเลย์พนักงานออก ถ้าพี่ๆ เปิดกิจการสักกิจการหนึ่งกำลังรุ่ง อยู่ๆ โควิดก็แย่ประมาณหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังขายได้ขายดี แล้วอยู่ๆ มาเจอเรื่องนี้แล้วขายไม่ได้เลย มันหนักเหมือนกันนะครับ เพราะเขาก็สั่งของมาเพิ่มเยอะ ไหนจะลงทุนอีก”

ไม่ถอดใจ แต่จะต้องสู้
สายป่าน : “ไม่ถอดค่ะ คือป่านทำดำน้ำเพราะทำจากความชอบ ป่านพูดตรงๆ ว่าป่านรัก ป่านชอบ เป็นกิจกรรมที่ป่านมีความสุขมากๆ แล้วป่านก็ไม่เคย คือฟินที่ป่านเอาเข้ามา เพราะป่านดูตลาดแล้วว่ายังไม่มีใครเอาเข้ามา ถึงเอาเข้ามาก็เป็นการหิ้วเอาเข้ามา ซึ่งป่านก็อยากทำทุกอย่างให้มันถูกต้อง และไม่ได้รวบรัดขั้นตอนอะไร ทำทุกอย่างตามขั้นตอนทั้งหมดเลย อยากให้คนไทยได้ใช้ของดีๆ เลยตัดสินใจนำเข้า แต่พอมาเจอแบบนี้ ป่านก็รู้สึกว่า เอาวะ เราก็ต้องสู้ เราต้องพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเราจะทำให้ดีที่สุด”

ทนาย : “เพราะแพลนของน้องเขาที่เอาแบรนด์ตัวนี้เข้ามา เพราะแบรนด์มีชื่อเสียง และมีจัดแข่งด้วย และน้องเป็นคนรักทะเล เริ่มจากความชอบ เขาก็ตั้งใจว่าเผื่ออนาคตว่าแบรนด์นี้จะมาสร้างงชื่อเสียง ทำจัดแข่ง จัดรายการท่องเที่ยวในประเทศไทย คือเขาวางแผนเป็นบิ๊กโปรเจกต์เลย ที่ค่อนดี แต่อยู่ๆ มาเจอแบบนี้ ทำให้หลายๆ อย่างหยุดชะงักด้วย”

ไล่เช็กความรู้สึกแฟนคลับเพราะแคร์ไม่อยากให้รู้สึกว่าถูกตนหลอกขายสินค้าไม่ดี
สายป่าน : “คือลูกค้าตัวป่านเองได้คุยส่วนตัวไปบ้างแล้ว เอาจริงๆ หลังจากเกิดเรื่องป่านเที่ยวไล่เช็กความรู้สึก ป่านทำเพราะป่านแคร์จริงๆ ป่านไม่อยากให้ลูกค้ารู้สึกว่าป่านหลอกขาย เพราะคำพูดที่เขาใช้มันค่อนข้างสื่อมาได้ในทางนี้ ป่านก็พยายามไล่ถามทุกคนตลอดระยะเวลา 1-2 อาทิตย์หลังจากเกิดเรื่อง ป่านโทร.ถามลูกค้าทุกคนว่าของพี่มีปัญหาไหมคะ พี่ยังมั่นใจในตัวเราอยู่หรือเปล่า ไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน เพราะถ้ามีปัญหาเรายินดีที่จะดูแล แต่หนูคิดว่าไม่มีเพราะว่ามันอยู่ที่ลักษณะของการใช้งานของแต่ละคนด้วย หลายๆ คนเขาก็จะมีคู่มืออยู่แล้วว่าเขาควรจะใช้งานอย่างไร และเคสนี้เป็นเคสแรกที่เกิดปัญหาขึ้น ดังนั้นป่านเชื่อว่า ลูกค้าหลายคนที่ได้ใช้ก็จะต้องมีความเชื่อมั่นว่าเป็นฟินที่ดีจริงๆ

ในส่วนกรณีของลูกค้าที่ยกเลิกไปแล้ว จริงๆ หนูก็เสียใจแหละ ที่ตัดสินเราจากโพสต์ๆ หนึ่ง ก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่ยังไงหนูก็จะพยายามทำแบรนด์นี้ต่อไปเรื่อยๆ นะคะ ถ้าสมมติในอนาคต เขามีความมั่นใจในตัวหนูมากขึ้น ก็ค่อยกลับมาว่ากันใหม่ แต่ว่า ณ ตอนนี้ก็ต้องแล้วแต่ผู้บริโภคแหละค่ะ ถ้าเกิดผู้บริโภคไม่เลือกเรา เราก็น้อมรับค่ะ ไม่เป็นไร”

เซ็งทำธุรกิจเต็มตัวครั้งแรกก็โดน
สายป่าน : “อย่างที่ป่านบอกว่า ป่านไม่ค่อยได้ทำธุรกิจ ที่เป็นธุรกิจจ๋าขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกทของป่าน เพราะว่าก่อนหน้านี้ป่านนี้มีร้านกาแฟเป็นธุรกิจครอบครัวน่ารักๆ เป็นอาหารซื้อมาขายไป อันนี้เป็นธุรกิจแรก การที่ป่านตัดสินใจทำ ป่านก็ศึกษาเยอะมาก ป่านใช้เวลาประมาณ 2 ปี ที่จะดูที่มาที่ไปของแบรนด์ ดูความน่าเชื่อถือ แล้วก็ใช้เงินทุนประมาณหนึ่งเลยเหมือนกัน ก่อนที่จะตัดสินใจทำ ดังนั้นป่านก็ค่อนข้างชัวร์ ว่าเราอยากทำอันนี้จริงๆ”

ลงทุนไปหลายล้าน
ทนาย : “ก็หลายล้านอยู่ครับ ก็ด้วยความที่ แบรนด์ alchemy มันเป็นอุปกรณ์ที่เพียวคาร์บอน มันก็จะน้ำหนักเบา แล้วน้องเขาเลือกของค่อนข้างดีจริงๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค ผมก็อยากฝากถึงลูกค้าที่ยกเลิกไป ว่าลองเช็กชื่อของสินค้าตัวนี้ในต่างประเทศก่อนก็ได้ เพราะมันค่อนข้างดีจริงๆ ปัญหามันไม่ได้เกิดจากสิ่งที่โพสต์ แต่โอเคว่าตอนนี้ความผิดมันสำเร็จไปแล้ว แล้วน้องก็เสียหายค่อนข้างมากแล้ว อยากจะให้ช่วยกลับมาอุดหนุนน้องหน่อย”

สายป่าน : “ซึ่งตั้งแต่ทำมา ไม่มีคนไหนที่เกิดปัญหา ไม่เคยเลยค่ะ คือก่อนรับสินค้ามันจะมีการตรวจเช็กสินค้าอยู่แล้ว ก่อนออกจากร้านไป ก็จะให้เขาดูหน้าดูหลัง แล้วก็เซ็นรับสินค้าก่อนที่จะเอาของออกไปนอกร้านอยู่แล้ว ซึ่งคู่นี้มันก็ไม่ได้มีปัญหา แล้วเจ้าของฟินเอง ก็ได้ใส่ใช้งานจริงๆ แล้วในทะเล เราก็ยังมีรูปถ่ายคู่กันอยู่”

ทนาย : “ต้องบอกว่าพอผมเข้ามาตรวจสอบบริษัทของน้อง ทำให้ทราบว่านอกจากแผนก QC ต่างๆ ที่ตรวจเช็กของที่นำเข้ามาแล้วเนี่ย น้องก็จะมีฝ่ายคนเช็กอีกทีหนึ่ง ที่ช่วยตรวจสอบก่อนจะถึงมือลูกค้า ก็ค่อนข้างปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง”












กำลังโหลดความคิดเห็น