>ด้วยตัวประกอบจำนวนไม่น้อย, มีเทคนิคพิเศษแทบจะตลอดทั้งเรื่อง และยังถ่ายทำในโลเกชั่นที่ไม่ธรรมดา แต่กลับไม่น่าเชื่อว่าหนังดังอย่าง Train To Busan กลับใช้ทุนสร้างไปแค่ประมาณ 260 ล้านบาท หรือ 8.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น ฟังดูเยอะ แต่เทียบกับโปรดชั่นขนาดนี้แล้วก็ต้องบอกว่าเป็นตัวเลขทุนสร้างที่ไม่สูงเลย
ส่วนหนึ่งที่หนังสามารถคุมงบไม่ให้บานปลายได้ขนาดนี้ ก็อาจจะเพราะหนังถ่ายทำอยู่ในสถานที่ค่อนข้างจะจำกัด การเขียนเรื่องให้เกิดเหตุการณ์เกือบทั้งหมดในตู้ขบวนรถไฟ ก็น่าจะทำให้ Train To Busan ประหยัดทุนสร้างไปได้ไม่น้อย
การที่หนังลงทุนสร้างตู้รถไฟจำลองขึ้นมาทั้งตู้ ก็ทำให้การถ่ายทำเป็นไปอย่างสะดวก และสามารถถ่ายทำฉากต่าง ๆ ออกมาได้อย่างตรงกับจิตนการของผู้กำกับมากที่สุดด้วย
พอมาใน Peninsula หนังได้ทุนสร้างเพิ่มเป็นเท่าตัวคือ 15 ล้านเหรียญฯ หรือประมาณ 500 ล้านบาท งานสร้างก็ยิ่งใหญ่อลังการขึ้นมาตามตัวเลขทุนสร้าง เรื่องราวเกิดขึ้นในตัวเมือง ไม่ได้จำกัดอยู่กับสถานที่แคบ ๆ อีกแล้ว
เทียบกับหนังเกาหลีที่ใช้ทุนสร้างสูงที่สุดตลอดกาลอย่าง D-War แล้ว ตัวเลขทุนสร้างของ D-War กับหนังซอมบีทั้งสองเรื่องเรียกว่าต่างกันไกลลิบ เพราะหนังอย่าง D-War นั้นผลาญเงินไปถึง 32 ล้านเหรียญฯ หรือประมาณ 1 พันล้านบาทเลยทีเดียว เรียกว่าเอาไปสร้าง Train To Busan ได้ถึงเกือบ 4 ภาคเลย
แถม D-War เป็นหนังที่สร้างเอาไว้ตั้งแต่เมื่อ 13 ปีก่อนด้วย หากคิดเรื่องของเงินเฟ้อทุนสร้าง 32 ล้านในตอนนั้นก็น่าจะมากขึ้นเยอะ ถ้าคิดด้วยค่าเงินในปัจจุบัน
หนังแอ็กชั่นฟอร์มใหญ่ของเกาหลีเมื่อปีก่อน ก็ใช้ทุนสร้างเยอะเหมือนกัน Ashfall ที่ว่าด้วยเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้กับสายลับเกาหลีเหนือที่ต้องมาร่วมมือกับคลี่คลายปัญหาภูเขาไฟระเบิดเรื่องนี้ใช้ทุนสร้างไปไม่น้อย 17 ล้านเหรียญฯ หรือ 530 ล้านบาท แม้กระแสวิจารณ์จะออกมากลาง ๆ แต่หนังก็ยังทำเงินไปได้ถึง 60 ล้านเหรียญฯ มากกว่าทุนสร้างถึง 3 เท่าตัวเลยทีเดียว
ผู้กำกับดีกรีออสการ์อย่าง บองจุนโฮ ก็เคยทุ่มทุนทำหนังไซไฟฟอร์มยักษ์ระดมดาราจากทั่วโลกมาร่วมประชันบทบาทกันใน Snowpiercer ที่ใช้เงินประมาณไปในระดับ 30 ล้านเหรียญฯ เหมือนกัน แต่ดูแล้วก็สมเหตุผสมผลดี เพราะหนังมีดาราดัง ๆ เล่นกันหลายคน และยังต้องทำเทคนิคพิศษตลอดทั้งเรื่องด้วย
มาใน Parasite หนังก็ใช้ทุนสร้างไปไม่น้อยเหมือนกันคือประมาณ 11 ล้านเหรียญฯ หรือ 360 ล้านบาท แต่ถ้าดูในรายละเอียดแล้วก็ถือว่าสมเหตุสมผล
เพราะหนังลงทุนสร้างบ้านที่เป็นเลโกชั่นหลักของหนังขึ้นมาใหม่สำหรับการถ่ายทำหนังโดยเฉพาะ เพราะบ้านต้องมีรายละเอียดหลาย ๆ อย่างที่พิเศษตามที่บทภาพยนตร์เขียนเอาไว้
แต่หนังที่ทำรายได้ให้กับวงการเกาหลีอย่างเป็นกอบเป็นกำที่สุดก็คงจะเป็นหนังพวกนี้ ที่ส่วนใหญ่จะใช้ทุนสร้างประมาณ 100 ล้านบทา อย่าง Miss Granny เรื่องนี้ที่ใช้ทุนสร้างแค่ 3 ล้านเหรียญฯ หรือประมาณ 90 ล้านบาทนั้น แต่ทำเงินไปมหาศาลถึง 50 ล้านเหรียญฯ หรือ 1,500 ล้านบาทกันเลยทีเดียว
Sunny หนังเล่าเรื่องยุค 90s ของเกาหลีที่ใช้ทุนไปประมาณ 150 ล้านบาท หรือ 5 ล้านเหรียญฯ และเก็บเงินกลับมาได้อีก 1,500 ล้าน
แต่ที่กำไรแบบสุด ๆ ก็คือ หนังตำรวจปลอมตัวไปขายไก่ทอดเรื่องนี้ Extreme Job ที่ใช้ทุนสร้างเบาะ 5.8 ล้านเหรียญฯ หรือ 180 ล้านบาท แต่ทำรายได้แบบถล่มโรงไปถึง 120 ล้านเหรียญฯ หรือ 3,700 ล้านบาท เป็นหนังเกาหลีที่ทำเงินสูงสุดอันดับ 2 ตลอดกาล จนถึงปัจจุบัน