xs
xsm
sm
md
lg

เปิดโปงมิจฉาชีพกลุ่มใหญ่-ทุนสูง หลอกจำนำ “ทองปลอม” โกยสำเร็จกว่า 9 ล้าน!!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เจ้าของร้านทอง แฉกลโกงขบวนการใหญ่ มิจฉาชีพหอบทองปลอมตีเนียน “ชุบไส้เงิน” ฉวยโอกาสช่วงราคาทองคำขึ้น ขอจำนำทองปลอมหนัก 376 บาท ส่งให้ร้านสูญเงินกว่า 9 ล้านบาท คาดเป็นมิจฉาชีพกลุ่มใหญ่ มีเงินทุนสูง!!




ตุ๋นจนเปื่อย ตีเนียนจำนำ “ทอง” ร่วมเดือน


“ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอกครับ เราทำงานสุจริตมาก็อยากเป็นคนดี บริจาคสังคมมาทุกอย่าง แต่คนมาจ้องทำร้ายเราอย่างนี้ ไม่มีใครรู้สึกดีหรอกครับ”


กฤษ เทียนใหม่ เจ้าของกิจการห้างทองนิตเทียน เปิดใจกับ ทีมข่าว MGR Live ให้ฟังหลังเกิดเหตุกลุ่มมิจฉาชีพ หลอกจำนำทองปลอมจำนวน 376 บาท คิดเป็นมูลค่าเสียหายกว่า 9 ล้านบาท ซึ่งการโดนในครั้งนี้ ถือว่าเป็นบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ของเขา

โดยเจ้าของร้านทองเล่าว่า มีลูกค้าเอาทองเข้ามาจำนำที่ร้าน ซึ่งเป็นทองที่ชุบไส้เงิน แต่ส่วนตะขอสร้อยทองเป็นทองจริง โดยมั่นใจว่าทำเป็นขบวนการ ทำต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 1 เดือน

“เมื่อวันที่เกิดเหตุที่รู้ตัวประมาณวันที่ 14 ตอนบ่าย 2 พอดีว่าคนนี้เขามาบ่อย จนเราเริ่มเอะใจ ว่าไม่น่าจะใช้เงินขนาดนี้ในการก่อสร้างรับเหมา แล้วพอผมรับจำนำเสร็จ เขาเดินออกไป ผมก็เอะใจ ลองดูว่า (ทอง) แท้หรือไม่แท้ เพราะว่าการจำนำของต้องกล่าวก่อนนะที่เขารู้กันว่า ทำไมไม่มีการเช็กทองเลย


ใจเขาใจเรา เวลาพี่เอาทองมาจำนำ ผมมาขูดทองพี่ มากรีดทองพี่ มาเผาทองพี่ ไม่มีใครยอมหรอก มันก็ต้องดูเผินๆ ที่โลโก้ ตะขอ ซึ่งทองปลอมอันนี้ ตะขอกับตัววัสดุจริง มีตาปั๊มอะไรจริงหมด

ผมก็รับมา พอเขากลับไปปุ๊บ ผมก็เลยตัดสินใจ ถ้าเกิดของเขาเสียหาย เป็นของแท้ ผมเอาของใหม่ให้เขาเลย ผมก็เฉือนดู ปรากฏว่าเป็นเงิน ผมโดนแล้ว ผมก็ปิดร้านเช็กของที่เหลือทั้งหมด ที่เราพบว่าโดนเท่าไหร่ไปบ้าง ก็เช็กได้แป๊บนึงก็ไม่ไหว เพราะว่ากรีดตอนนั้น (ค่าเสียหาย) ประมาณ 5 ล้านกว่า ผมก็ปิดร้านก่อน ผมจะเป็นลม ผมอยู่ไม่ไหว (ค่าเสียหาย) ทั้งหมด 9,013,000 บาท”


ทว่า ปกติการจำนำทองทางร้านไม่สามารถจะทำการกรีดทองลูกค้า เพื่อดูเนื้อข้างในได้ แต่เมื่อสังเกตเห็นว่าทองที่ได้จำนำเป็นลายเดิม น้ำหนักเดิม และยังเป็นกลุ่มลูกค้าหน้าเดิมๆ นำทองมาจำนำ ด้วยความสงสัยจึงเริ่มนำทองออกมากรีดจำนวน 1 เส้น แต่พอกรีดออกมากลายเป็นทองปลอมทั้งหมดที่ยัดไส้เงิน

“ทองข้างใน มันจะต้องเป็นไส้ทอง มันมีโปร่งหนา โปร่งบาง แต่การที่ว่าสมมติถ้าเขาเอามาขาย เราจะสามารถเฉือน เช็กได้เลยว่าของคุณแท้ และยอมจ่ายเงิน


แต่จำนำผมจะทำอะไรของลูกค้า ผมก็มีความเกรงใจนะ ใจเขาใจเรา มีจรรยาบรรณร้านทองดี ที่ไม่ทำอะไรทองเขาเลย ก็ตรวจเช็กแค่สภาพภายนอก อันนี้ที่รู้ ว่าข้างในเป็นเงิน เพราะเป่าแล้วเงินข้างในมันจะออกมา”




ยิ่งใส่หน้ากาก =ช่องโหว่ของมิจฉาชีพ!!?


ถามถึงพฤติกรรมของกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ เขาให้ข้อมูลว่า จะสลับเปลี่ยนกันมาจำนำที่ร้านทอง โดยจะเข้ามาชวนคุย และบอกว่าทำงานรับเหมาก่อสร้าง ต้องเอาเงินไปจ่ายค่าแรงคนงานก่อน ซึ่งไม่มีการผิดสังเกตใดๆ

“มาทุกวัน แต่สลับคนกันมา รอบหนึ่งประมาณ 3 คน, 2 คน หมุนเวียนกันมาในแต่ละวัน แต่ผิดสังเกตไม่มีเลย จะมีไดอะล็อกในแต่ละคนมาเลยว่า คนนี้เป็นมะเร็ง จะเอาเงินไปรักษาพ่อแม่ อีกคนต้องรับเหมาก่อสร้าง ต้องเอาเงินไปวางเครดิตก่อน อีกคนผมเล่นบอลเสียมาพี่ ไม่อยากเล่นอีกแล้ว


อีกคนหนึ่งบอกเล่นไฮโลมา เป็นอย่างนี้ทุกคน ไม่เหมือนกันทุกคน จะเป็นไดอะล็อกที่เขาพูดมา เหมือนสั่งมาให้พูด”


อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้เป็นช่องโหว่ ส่งให้ทางมิจฉาชีพ นำของปลอมมาสวมรอยได้ ในช่วงทองมีราคาสูง และสถานการณ์พิษโควิด-19 คือ การสวมใส่หน้ากาก เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19

“เป็นโอกาสที่ช่วงนี้จะต้องใส่แมสทุกครั้งที่เข้ามาในร้าน มันเป็นช่องโหว่ ที่มันหนักมาก เราเห็นหน้าเขาไม่ได้ มันช่องโหว่เยอะมาก ช่วงนี้เป็นช่วงโควิด เขาปิดหน้ากาก และส่วนมากเขาจะอ้างว่าลืมเอาบัตรมา หรือบางคนเอาบัตรมา แต่แกล้งเป็นคนต่างด้าว เอาบัตรต่างด้าวมาก็มีครับ มันมีหลายรูปแบบ”

ไม่เพียงเท่านี้ ยังย้ำมาตรการดูแลความปลอดภัยของทางร้าน อีกว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์ ตนและภรรยา ได้มีการเข้มงวดถึงความปลอดภัยมากกว่าเดิม เพราะไม่อยากซ้ำรอยเดิม อีกทั้งสภาพจิตใจยังมีภาวะเครียดอยู่


“สภาพจิตใจไม่โอเค เสียศูนย์ สูญตังค์ไปเยอะ ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้วครับ ก็พยายามอยากให้เขาจับได้ ถ้าจับได้ก็จะดีต่อร้านอื่นๆ ด้วย ผมอยากให้เป็นผมร้านเดียวที่โดน แล้วร้านอื่นจะได้ไม่ต้องโดน

ทางร้านต้องเข้มงวดกว่าเดิม ถ้าจะบอกว่าให้ดูบัตรประชาชนเป็นหลักไหม บัตรปลอมก็มีครับ ขนาดตำรวจปลอม ออกบัตรปลอมยังมีเลย ก็อยากให้มีมาตรการให้ร้านทองสามารถทำอะไรได้มากขึ้นมากกว่านี้ ตอนนี้ผมก็ต้องดูบัตรประชาชนด้วย ถ่ายรูปด้วย”


นอกจากนี้ จากเรื่องราวดังกล่าว กฤษ เจ้าของร้านทองแห่งนี้ จึงฝากเตือนพร้อมทั้งเป็นอุทาหรณ์ให้อีกหลายคน ก่อนจะรับของอะไรก็แล้วแต่ ควรพิจารณาให้ชัดเจน อย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ อีกทั้งอยากให้เหตุการณ์นี้ทางเจ้าหน้าที่จับผู้กระทำความผิดทั้งหมดมาลงโทษให้ได้

“ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น การตรวจน่าจะตรวจสอบระมัดระวังช่วงนี้ให้ดีมากขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้ต้องบอกก่อนว่า ที่พูดกันไปว่าทองปลอมสามารถดูได้ เก่ง ตอนนี้อยากให้มาเห็นของจริงๆ ว่ามันไม่ได้เหมือนแต่ก่อน อุปกรณ์ที่เขาทำ งานที่เขาทำ ลายที่เขาทำ มันพัฒนามากขึ้น


อยากให้ร้านทองทุกคนเช็กละเอียดๆ เลยตอนที่รับจำนำ การจำนำจะมีช่องโหว่เยอะครับ ร้านทองขอให้ระมัดระวังทองมากขึ้น อยากให้เป็นผมคนเดียวที่โดนพอ ไม่อยากให้ใครโดน ความรู้สึกนี้มันค่อนข้างไม่โอเคเท่าไหร่


ผมก็อยากให้จับได้ ไม่อยากให้ไปทำคนอื่นอีก เพราะว่ารู้สึกว่ามีอีกหลายๆ ร้านที่เขาเห็นข่าวแล้วเขาโทร. มาหาผม ว่าเมื่อปีที่แล้ว 2 ปีที่แล้วเขาก็โดน และมีคนประกันตัวไป แล้วตามความอะไรไมได้เลย

มันเป็นขบวนการใหญ่ครับ เขามีเงินทุนสูง แน่นอนอยู่แล้วครับ ก็ไม่อยากให้คนอื่นโดน เราทำงานสุจริตกัน มาโดนคนทุจริตทำอย่างนี้ มันก็ไม่โอเคหรอกครับ”

ล่าสุด ชุดสืบสวน สภ.หนองปรือ ได้ร่วมกันจับกุม บุคคลต่างด้าว พร้อมตรวจยึดสร้อยทองคำปลอม หนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น แต่มิจฉาชีพรายนี้ ยังคงปฏิเสธการให้ข้อมูลใดๆ




“ตอนนี้จับได้ 1 คนครับ กำลังขยายผลอยู่ แต่เขาก็ยังไม่ยอมบอกอะไรสักนิดนึงเลย เขาปากแข็งมากครับ เขาเป็นคนลาว และมีแฟนเป็นคนไทย แต่ก็ยังไม่เปิดเผยอะไรทั้งสิ้นเลย เขาปากแข็งมาก ไม่ยอมพูดอะไรทั้งนั้น บอกไม่รู้ๆ อย่างเดียว”




ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ : กฤษ เทียนใหม่


** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **





กำลังโหลดความคิดเห็น