อ้างเป็นตำรวจกองปราบฯ ชื่อ “ผู้กองณัฐ” บุกค้นกุฏิขู่เจ้าอาวาสวัดดัง อ.นาโพธิ์ กล่าวหาขับรถชนคนเจ็บ เมา และโกงเงินวัด ขู่เรียกเงิน 2.5 แสน ไม่จ่ายจะจับไปสึกเอาเข้าห้องขัง หลวงพ่อเห็นปืนตกใจทำอะไรไม่ถูก โทร.หาพี่สาวเอาที่ไปจำนองแต่ติดวันหยุด ถอดสร้อยทอง 3 บาทให้ พร้อมเงิน 5,000 บาท
วันนี้ (28 พ.ค. 63) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านบ้านนาแพง ต.บ้านดู่ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ว่ามีชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจกองปราบปราม เข้าไปขู่กรรโชกทรัพย์เจ้าอาวาสถึงในวัด สูญเงินไปกว่า 60,000 บาท จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบว่าวัดที่เกิดเหตุ คือ วัดกมลาวาส ได้พบกับพระอธิการศักดิ์ วิสุทธสีโล อายุ 63 ปี เจ้าอาวาสวัด ที่ถูกคนร้ายข่มขู่กรรโชกทรัพย์ซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีญาติโยมที่ทราบข่าวต่างพากันมาถามข่าวคราวและให้กำลังใจที่วัด
โดยพระอธิการศักดิ์ หรือหลวงตาจัด เจ้าอาวาสวัดกมลาวาส เล่าให้ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.วันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมาได้มีชายฉกรรจ์อายุประมาณ 35-40 ปี แต่งกายภูมิฐาน ขี่จักรยานยนต์บิ๊กไบค์สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเข้ามาในวัด มาสอบถามหาเจ้าอาวาส จากนั้นแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองปราบปราม ชื่อ “ผู้กองณัฐ” พร้อมโชว์อาวุธปืนที่พกมาด้วย เมื่อเห็นเจ้าอาวาสได้ทำทีแจ้งข้อกล่าวหาว่าขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ชนคนบาดเจ็บ ดื่มสุรา และโกงเงินวัด
จากนั้นก็เข้าไปยึดโทรศัพท์เจ้าอาวาส ทั้งแจ้งว่าจะนำตัวไปสึกและดำเนินคดี แต่มีข้อเสนอว่าถ้าจ่ายเงินจำนวน 250,000 บาท จะเคลียร์คดีให้จบ หลวงตาก็บอกคนร้ายไปว่าไม่มีเงิน ทำให้ชายคนดังกล่าวไม่พอใจ นำตัวเจ้าอาวาสเข้าไปในกุฏิ พร้อมทั้งค้นหาสิ่งของผิดกฎหมายแต่ไม่พบ จึงพยายามจะเอาเงินให้ได้
โดยแสดงอาการเหมือนจะใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมาข่มขู่ เจ้าอาวาสเกรงว่าจะเป็นอันตรายจึงขอโทรศัพท์ที่คนร้ายยึดไปเพื่อติดต่อหาพี่สาว
จากนั้นพี่สาวก็เลยเดินทางมาที่วัด คนร้ายก็ขู่พี่สาวให้รีบไปหาเงินมาให้ ถ้าไม่ได้ก็จะแจ้งข้อหาได้โดยไม่ต้องมีหลักฐาน แล้วจะนำตัวเจ้าอาวาสไปสึกและเอาเข้าคุก
เจ้าอาวาสบอกอีกว่า ตอนนั้นพี่สาวก็กลัวว่าจะมีคนกลั่นแกล้งและกลัวจะเป็นอันตรายเพราะคนร้ายใช้ปืนขู่ จึงให้พยายามจะขอร้องคนร้ายว่าไม่มีเงินสด ขอเอาโฉนดไปจำนองในอำเภอพุทไธสงก่อน คนร้ายก็ไม่เชื่อใจได้พาขับรถไปเอง พอไปถึงบริษัทได้ประเมินราคาให้เพียง 60,000 บาท แต่เนื่องจากต้องขอเอกสารการประเมินราคาที่ดินจากสำนักงานที่ดินซึ่งเป็นวันอาทิตย์ทำให้ไม่สามารถขอสินเชื่อได้จึงพากันกลับมาที่วัด คนร้ายก็ข่มขู่ว่ายังไงก็ต้องหาเงินมาให้ เอามาก่อน 100,000 บาทก็ได้ ไม่งั้นจะนำตัวเจ้าอาวาสไปสึกและดำเนินคดี
ด้านนางเสาร์ สุโพธิ์ พี่สาวเจ้าอาวาสบอกว่า หลังได้รับโทรศัพท์จากเจ้าอาวาสก็ตกใจ รีบเดินทางไปที่วัดทันที พอเห็นคนร้ายที่อ้างตัวเป็นตำรวจพกปืนมาด้วย ทั้งยังข่มขู่จะเอาเงินให้ได้ จึงตัดสินใจเอาทองที่ใส่อยู่น้ำหนัก 3 บาท ถอดให้คนร้าย พร้อมเงินของเจ้าอาวาสอีก 5,000 บาท ถึงแม้จะมั่นใจว่าเจ้าอาวาสไม่ได้ทำอะไรผิดตามที่ถูกกล่าวหา แต่ด้วยความที่กลัวจะได้รับอันตรายเพราะคนร้ายมีปืนจึงจำเป็นต้องยอมทำตามไป
พอคนร้ายขับรถออกจากวัดไป จึงได้ไปแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ชนัญช์พัศ สระบัวบาน รอง สว.สอบสวน สภ.นาโพธิ์ เพื่อให้เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เพื่อจะได้ไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก เพราะหลายคนก็ไม่รู้ขั้นตอนกฎหมายและไม่รู้ว่าใครเป็นตำรวจจริงหรือตำรวจปลอม ทั้งยังพกอาวุธมาข่มขู่ด้วย ใครก็ต้องกลัว แต่หากจับกุมได้ก็อยากถามว่าทำไมถึงกล้าทำ ไม่กลัวบาปกรรมบ้างหรือ