MGR Online - รองโฆษก ตร.เผยรู้ตัวแล้วหนุ่มแสบอ้างเป็นตำรวจรีดเงินเจ้าอาวาสบุรีรัมย์ ยันไม่ใช่ตำรวจจริง ล่าสุดขออนุมัติศาลออกหมายจับข้อหากรรโชกทรัพย์แล้ว
วันนี้ (28 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่มีเจ้าอาวาสวัดเเห่งหนึ่งใน อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ถูกคนร้ายอ้างตัวเป็นตำรวจกองปราบปรามขู่รีดเอาทรัพย์ แลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีในข้อหาต่างๆ ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัยม์ ว่าเมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2563 เวลาประมาณ 11.00 น. ขณะผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดอยู่ภายในวัดที่เกิดเหตุ ได้มีชายไทยอายุประมาณ 30 ปี ขับขี่จักรยานยนต์เข้ามาพบผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำวจชื่อ “ผู้กองนัด” สังกัดกองปราบปราม อ้างมีผู้ร้องเรียนว่าตนชอบดื่มสุรา ขับรถเร็วเกินกำหนด และทุจริตเงินทอนของวัด โดยข่มขู่ให้ผู้เสียหายนำเงินจำนวน 250,000 บาท มามอบให้แลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงมอบเงินจำนวน 5,000 บาท และสร้อยคอทองคำ 1 เส้น หนัก 3 บาท ให้คนร้ายไป ต่อมาผู้เสียหายทราบว่าถูกหลอกลวงได้รับความเสียหาย จึงมาเเจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาให้ได้รับโทษตามกฎหมาย
“คดีนี้พนักงานสอบสวนได้สอบสวนปากคำผู้เสียหาย รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว โดยได้สอบสวนปากคำพยาน และรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ กระทั่งพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำความผิดแล้ว พบว่าผู้ต้องหาไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงแต่อย่างใด ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาในข้อหากรรโชกทรัพย์ และข้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป” รองโฆษก ตร.ระบุ
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีความเป็นห่วงเป็นใยพี่น้องประชาชนเนื่องจากที่ผ่านมามีการก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวโดยมีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่บ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม หากพี่น้องประชาชนพบการกระทำในลักษณะดังกล่าว ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัวเพื่อเเสดงความบริสุทธิ์ใจ ตรวจสอบบัตรประจำตัวข้าราชการ และตรวจสอบจากหน่วยงานต้นสังกัดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่ เพื่อเป็นการป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากการกระทำในลักษณะดังกล่าว หรือได้รับความเสียหายจากการปฏิบัติหน้าที่ สามารถแจ้งความร้องทุกข์เพื่อเอาผิดต่อคนร้ายรายนี้ได้ อีกทั้งขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในการสอดส่องดูแลและร่วมแจ้งเบาะแส ข้อมูลของผู้กระทำความผิด โดยสามารถแจ้งข้อมูลมายังสถานีตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงหรือแจ้งหมายังหมายเลขสายด่วน 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง