บุรีรัมย์ - เจ้าอาวาสวัดดังบุรีรัมย์ถูก “ผู้กองเก๊” อ้างเป็นตำรวจกองปราบปราม ขู่รีดเงิน 2.5 แสน พร้อมญาติโยมรุดชี้ตัวดูหน้าผู้ต้องหา ยังไม่สำนึกผิดอ้างมีคลิปหลวงพ่อดื่มเหล้า โยมวอนดำเนินคดีถึงที่สุด ชี้อุกอาจไม่กลัว กม.และบาปกรรม หวั่นก่อเหตุซ้ำ ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาหนักและค้านประกันตัว
วันนี้ (30 พ.ค.) ความคืบหน้ากรณีนายอรรฆเดช ขันน้อย อายุ 35 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี ได้ขับขี่จักรยานยนต์แบบบิ๊กไบค์ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน บุกเข้าไปภายในวัดกมลาวาส ต.บ้านดู่ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ แล้วอ้างตัวว่าเป็น “ผู้กองณัฐ” ตำรวจสังกัดกองปราบปราม แสดงพฤติกรรมขู่กรรโชกเรียกเอาเงินจากพระอธิการศักดิ์ วิสุทธสีโล อายุ 63 ปี เจ้าอาวาสวัดกมลาวาส จำนวน 250,000 บาท โดยพยามยามยัดข้อกล่าวหาเจ้าอาวาสว่าขับรถเร็ว ดื่มสุรา โกงเงินวัด และขับรถชนคนบาดเจ็บ ทั้งที่เจ้าอาวาสยืนยันว่าไม่เคยกระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา แต่คนร้ายพยายามใช้ปืนข่มขู่ จนสุดท้ายพี่สาวเจ้าอาวาสต้องยอมถอดสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท และเงินสดอีก 5,000 บาทให้ไป เพราะกลัวจะเป็นอันตรายเหตุเกิดเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา
กระทั่งเมื่อวานนี้ (29 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามสามารถติดตามจับกุมตัวนายอรรฆเดช ผู้ต้องหาได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม พร้อมจักรยานยนต์ของกลางที่ใช้ประกอบเหตุ แล้วคุมตัวไปสอบปากคำและแถลงข่าวที่กองปราบปราม
ล่าสุดวันนี้ ร.ต.อ.ชนัญช์พัศ สระบัวบาน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ได้ให้พระอธิการศักดิ์ เจ้าอาวาสวัดอมลาวาสผู้เสียหาย พร้อมญาติโยมที่อยู่ในเหตุการณ์และเป็นพยานมาชี้ตัวนายอรรฆเดช ผู้ต้องหา ที่ สภ.นาโพธิ์ พร้อมสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อประกอบสำนวนคดี ซึ่งทั้งเจ้าอาวาสและญาติโยมต่างยืนยันว่าคนที่มาขู่รีดไถเงินเจ้าอาวาสคือนายอรรฆเดชแน่นอน เพราะจำรูปพรรณหน้าตา น้ำเสียง และจักรยานยนต์ของกลางที่ใช้ก่อเหตุได้
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้ง 3 ข้อหา กรรโชกทรัพย์, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน พร้อมทำเรื่องส่งฝากขังเรือนจำบุรีรัมย์วันนี้ และคัดค้านการประกันตัว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายอรรฆเดชกลับเข้าห้องขังเพื่อรอทำเรื่องส่งฝากขังผู้ต้องหาก็ไม่มีท่าทีสำนึก ยังตะโกนว่าตนเองมีคลิปหลักฐานเจ้าอาวาสดื่มเหล้า พร้อมมอบให้สื่อ ส่วนที่ตนเองไปขู่กรรโชกเอาเงินก็ยอมรับผิดกับสิ่งที่ทำ แต่เป็นพระดื่มเหล้าไม่สมควร เดี๋ยวญาติโยมเขาจะไม่กราบไหว้
ขณะที่พระอธิการศักดิ์ วิสุทธสีโล เจ้าอาวาสกมลาวาส บอกว่า ไม่ได้ถือโกรธผู้ต้องหาที่ยังพูดกล่าวหาใส่ร้ายว่าดื่มเหล้า เพราะยืนยันว่าไม่ได้ดื่ม และไม่ได้กระทำผิดตามที่คนร้ายกล่าวหา แต่อยากจะเตือนสติว่าทำผิดก็ควรยอมรับผิด และไม่ควรไปกระทำแบบนี้กับคนอื่นอีก เพราะนอกจากจะผิดกฎหมายแล้วยังบาปกรรมด้วย ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีไปตามกฎหมาย ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายขู่รีดเอาไปหากเป็นไปได้อยากจะได้คืนเพราะเป็นทรัพย์สินของพี่สาว
ด้านนางเสาร์ สุโพธิ์ พี่สาวเจ้าอาวาส บอกว่า ที่มาวันนี้เพราะตั้งใจจะมาดูหน้าผู้ต้องหาที่กล้ามาข่มขู่รีดไถได้แม้กระทั่งกับพระโดยไม่กลัวบาปกรรมเลย แต่พอเห็นหน้าและคำพูดของคนร้ายที่ไม่ได้สำนึกผิดกับสิ่งที่กระทำเลย อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เพราะหากออกมาจะมากระทำในลักษณะดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นอีก ส่วนทองหนัก 3 บาท ที่ถูกคนร้ายขู่รีดเอาไปอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามเอาคืน เพราะกว่าจะหาได้มานั้นลำบากและมีอยู่แค่นี้