“โคเคน” เพลงร็อกบันลือโลก เพลงชาติแห่งการแจม

“โคเคน” (Cocaine) แม้เป็นยาเสพติดฤทธิ์ร้ายแรง แต่ในอดีตโลกเราเคยมีการนำโคเคนมาใช้เป็นสารประกอบในยารักษาฟัน

นั่นจึงทำให้มีบางองค์กรใช้เรื่องนี้ออกมาแถว่าสารโคเคนที่ตรวจพบในลูกอภิมหาเศรษฐีขับรถชนคนตาย เป็นส่วนประกอบของยาที่หนุ่มคนนั้นใช้รักษาฟัน

แต่สุดท้ายก็ต้องแหกเมื่อบรรดาคุณหมอต่างออกมายืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า บ้านเราเลิกใช้โคเคนในการรักษาฟันมานานถึงกว่า 150 ปีแล้ว การแถของจนท. บางคนในเรื่องนี้ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของบางองค์กรที่ดูแย่ ติดลบในสายตาประชาชน ยิ่งดูเสื่อมทรุด ย่ำแย่ ต่ำเตี้ยลงไปอีก

พร้อมกันได้ทำให้บ้านเรามีการหยิบยกเรื่องราวของโคเคนมาเป็นวิทยาทาน ให้ความรู้ผู้คนกันอย่างกว้างขวาง รวมถึงตอกย้ำให้เห็นว่าวงการทันตกรรมบ้านเรา เลิกใช้โคเคนรักษาฟันมากว่า 150 ปีแล้ว!

สำหรับในยุทธจักรวงการบันเทิงโลกนั้น โคเคนเป็นหนึ่งในยาเสพติดที่บรรดาศิลปิน นักแสดง ดารา นักร้อง หรือคนในวงการบันเทิงเสพและติดหนักหน่วงกันเป็นจำนวนมาก หลายคนชีวิตนี้ถึงกับต้องลาลับโลกนี้ไปด้วยพิษภัยร้ายของโคเคน แต่ขณะที่หลายคนก็สามารถบำบัดรักาผ่านช่วงเวลาอันโหดร้ายของการติดโคเคนมาได้


ดังกรณีของ “เอริค แคลปตัน” (Eric Clapton) หนึ่งในสุดยอดมือกีตาร์อมตะของโลกที่ยังมีลมหายใจ ซึ่งหลังจากที่แคลปตันต่อสู้กับการบำบัดอาการติดโคเคน (ที่ไม่ใช่รักษาฟัน) จนสามารถเอาชนะมันได้ 3 ปีหลังจากนั้นเขากลับมาโลดแล่นในยุทธจักรวงการเพลงอีกครั้ง กับอัลบั้ม “Slowhand” (1977)

Slowhand เป็นโซโลสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 5 ของแคลปตัน ถือเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ดีที่สุดและเลื่องชื่อสุดคลาสสิกของยอดมือกีตาร์คนนี้

อัลบั้มชุดนี้นอกจากจะมีเพลงดังอมตะคู่วงการเพลงโลกอย่าง “Wonderful Tonight” แล้วก็ยังมีอีกหนึ่งเพลงดังเคียงคู่กันนั่นก็คือเพลง “Cocaine” (โคเคน)

เพลงโคเคนเป็นอีกหนึ่งบทเพลงประจำตัวของแคลปตันที่นิยมเล่นในคอนเสิร์ต พร้อมกับปล่อยให้ดนตรีรื่นไหลปลดปล่อยลูกโซโล่กีตาร์ไปตามอารมณ์ จนหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าโคเคนเป็นเพลงที่แต่งโดยเอริค แคลปตัน แต่อันที่จริงไม่ใช่?!?


โคเคนเป็นบทเพลงที่ประพันธ์โดย “เจ เจ เคล” (J. J. Cale) ศิลปินแนวโฟล์คร็อก คันทรีร็อก ซึ่งแคลปตันซูฮกยกย่องและเคยร่วมดูโอออกอัลบั้ม “The Road To Escondido” (J.J. Cale & Eric Clapton) ด้วยกันในปี ค.ศ. 2006

แม้เนื้อหาของเพลงโคเคนจะว่าด้วยเรื่องของการใช้ยาเสพติดโคเคนเพื่อปลดปล่อยจินตนาการ แต่แคลปตันระบุว่านี่คือเพลงที่เขาเลือกมานำเสนอเพื่อต่อต้านการใช้โคเคน โดยเขาให้เหตุผลสรุปความได้ว่า

...การที่จะแต่งเพลงต่อต้านการใช้ยาเสพติดแบบตรงไปตรงมา มันเป็นสิ่งไม่ได้เรื่อง ไม่ได้ทำให้เกิดความจับใจคนฟัง แต่การหยิบเนื้อหาบางส่วนเกี่ยวกับยาเสพติดมาบอกเล่า ผ่านการสอดแทรกโดยไม่ต้องบอกเล่าตรง ๆ มันจะสื่อสารและโดนใจแฟนเพลงมากกว่า ซึ่งโคเคนก็เป็นเพลงที่สะท้อนถึงการต่อต้านการใช้ยาเสพติดที่ดีเพลงหนึ่ง...

สำหรับเพลงโคเคนนั้น ก็ต้องยอมรับว่าแคลปตันเป็นผู้ที่ทำให้เพลงโคเคนโด่งดังลั่นโลก เพลงนี้เป็นเพลงเปิด (แทรคแรก) ของอัลบั้ม Slowhand ซึ่งหลังจากแคลปตันปล่อยเพลงโคเคนออกมาเพียงไม่กี่สัปดาห์ เพลงนี้ก็กลายเป็นเพลงร็อกบันลือโลก ที่ถือเป็นอีกหนึ่งบทเพลงคู่บุญของเทพกีตาร์คนนี้มาจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้โคเคนยังได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเพลงชาติของการ “แจม” ที่นักดนตรีทั่วโลกนิยมแจมกันทั้งบนเวทีคอนเสิร์ต ตามผับบาร์ หรือแม้แต่ริมถนน เนื่องจากโคเคนเป็นเพลงที่มีจังหวะโจ๊ะ ๆ สนุก มีท่อนริฟฟ์ที่เล่นไม่ยาก แต่ว่าโดน ติดหูง่าย จนกลายเป็นหนึ่งในเพลงร็อกที่ริฟฟ์ดีเยี่ยมติดอันดับต้น ๆ ของโลก

ขณะที่ภายในเพลงนั้นก็สามารถแจมหรืออิมโพรไวซ์ โดยเฉพาะกีตาร์กันได้อย่างสุดมัน แต่ถึงแม้เพลงนี้จะเล่นไม่ยาก แต่ว่าถ้าจะเล่นให้มันได้อารมณ์นั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับฝีมือประสบการณ์ทางดนตรีของนักดนตรีแต่ละคน
และนี่ก็คือมนเสน่ห์ของบทเพลง Cocaine เพลงร็อกบันลือโลก หนึ่งในเพลงชาติของการแจมดนตรี ซึ่งรังสรรค์จากปลายปากว่าของ เจ เจ เคล และถูกนำมาเล่นโด่งดังโดย เอริค แคลปตัน กับบทเพลงต่อต้านยาเสพติด (ตามเหตุผลของแคลปตัน) ที่เขาต้องการสื่อสะท้อนให้เห็นถึงห้วงเวลาร่วม 20 ปีในชีวิตของเขาที่ต้องทนทุกข์กับยาเสพติดพิษร้ายแรงตัวนี้ ซึ่งภายในเพลงนี้ไม่ได้มีการกล่าวถึงโคเคนในด้านการรักษาฟันแต่อย่างใด