แม้จะเข้าวงการมาได้พักหนึ่งแล้วแต่คงต้องยอมรับว่าชื่อของ "มุก พิชานา อยู่สุข" หนึ่งในแสดงสังกัดค่ายโมโนฯ คนนี้เพิ่งจะเป็นที่รู้จักขึ้นมาของคนส่วนใหญ่ในวงกว้างก็จากข่าวคราวที่เจ้าตัวถูกตัดต่อภาพไปใส่ในคลิปหนังผู้ใหญ่เมื่อไม่นานมานี้นี่เอง
อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปมองเส้นทางบนถนนสายบันเทิงของนักแสดงสาวตัวเล็กคนนี้ก็ต้องถือว่ามีความน่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะกับการที่เจ้าตัวตัดสินใจเลือกที่จะใช้ความเซ็กซี่ของตนเองเป็นใบเบิกทาง
น้อง 9
นักแสดงหญิงเล่าให้ฟังว่าเธอเกิดในครอบครัวชั้นกลาง มีพี่น้องร่วมบิดาทั้งหมด 10 คน โดยเธอเป็นพี่คนโต ซึ่งในช่วงว่างเว้นจากการเรียน สิ่งที่ทำในยามว่างคือการหาที่สมัครงานพาร์ทไทม์ เพื่อนำเงินเหล่านั้นมาแบ่งเบาภาระของคุณพ่อในการส่งเสียตัวเอง และน้องๆ อีก 9 คน ได้เล่าเรียน
"มุก มีพี่น้องทั้งหมด 10 คน ซึ่งมุกเป็นพี่คนโต ถามว่าฐานะทางบ้านลำบากมั้ย ถ้าพูดตรงๆ ฐานะทางบ้านไม่ได้ลำบาก แต่เขาก็ไม่ได้เลี้ยงลูกแบบคุณหนู แต่เพราะความเป็นพี่โตสุดก็มีความคิดว่า ถ้าเราอยากแบ่งเบาภาระของพ่อแม่ได้ เราจะรู้สึกดีและภูมิใจในตัวเอง"
"อย่างสมมุติค่าเทอมเรา 20,000 บาท คูณไปอีก 9 คน มันก็จะเป็น 180,000 บาท มันเยอะต่อหนึ่งเทอ เท่ากับว่า 4 เดือน พ่อต้องเสียเงินเกือบ 200,000 บาท เพื่อที่จะส่งน้องทุกคนเรียน มุกคิดว่าเราต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อแบ่งเบาภาระนี้ได้"
"พอช่วงปิดเทอมก็ไปสมัครงานที่เซเวนเซ่น เป็นเด็กเสิร์ฟ ซึ่งมันก็สนุกดีถึงจะเงินน้อยก็ภูมิใจนะ 1 เดือน ได้ 2,000 - 3,000 อีกทางหนึ่งมุกก็ไปหาเสื้อผ้าจากสำเพ็ง โบ๊เบ๊ มาขาย มันก็สนุกเราไม่ได้คิดว่ามันลำบาก ถือเป็นประสบการณ์ที่เปิดกว้าง เราไม่ชอบมาเล่นขายข้าวแกงกับเพื่อน เรารู้สึกว่ามันไม่สนุก"
"ถามว่าสนิทกับน้องคนไหนมากสุด คือน้อง 9 คน อยู่คนละบ้าน ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน อย่างน้องคนที่ 2 เกิดห่างจากเรา 1 วัน คือน้องๆ แต่ละคน คนละแม่ แต่เราสนิทกับแม่ๆ และน้องๆ ทุกคนหมด เราไม่ได้มาเหมือนครอบครัวในละครหลังข่าวที่ต้องเกลียดหรืออิจฉากัน"
"แล้วเวลาที่เรามีปัญหาอะไรเราก็จะมาปรึกษาน้องคนที่ 2 คือเหมือนเป็นทั้งเพื่อนสนิท เป็นพี่น้องที่คอยบอกคอยเตือนกัน"
ทำเต้า
"มุก" บอกว่าเธอเองไม่ได้คิดจะเข้าวงการบันเทิงเลยเพราะรู้สึกว่าตัวเองหน้าไม่สวย แต่คนที่เป็นแรงผลักดันให้เธอเข้าสู่วงการบันเทิงก็เป็นแม่เลี้ยงของเธอนั่นเอง
"ตอนเด็กไม่ได้คิดว่าอยากเป็นนักแสดง หรืออยากเข้ามาสู่วงการบันเทิงเลย ด้วยความที่เราอยู่กับคุณแม่บุญธรรม แม่เขาก็ชอบพาเราไปแคสงาน แม่เป็นคนเดียวทั้งบ้านที่คิดว่าโตขึ้นเราต้องเข้าวงการบันเทิงได้ แต่ทุกคนคิดว่าเราไม่สวย ทุกคนเรียกเราว่าจิ้งจก"
"หน้าเราเหมือนจิ้งจกมากตอนเด็กๆ หน้าแหลมๆ ตัวเหมือนกระดูกเดินได้ ซึ่งแม่เขาก็พาเราไปแคสเป็นสิบๆ งานเลย แต่ก็ไม่เคยได้เลยสักงานหนึ่ง และมันมีจุดหนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่า แม่เชื่อมั่นในตัวเราขนาดนี้ว่าเราต้องทำได้ เราก็เลยเริ่มที่จะพัฒนาตัวเอง"
"เริ่มถ่ายแบบที่มหาลัย เราก็เริ่มทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก ตัดตกแต่งให้มันดีขึ้น แล้วก็เริ่มเรียนแอคติ้งเพื่อมีทักษะในการทำงาน"
อะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราจะต้องมาสายเซ็กซี่?
"พอดีตอนนั้นมีพี่ตากล้องมาชวนถ่ายรูปเล่น เราก็ไปถ่ายๆ แล้วเขาก็เอารูปที่ถ่ายเราไปลงเพจ ปรากฏว่ารูปเราที่ลงเพจนั้นวิวพุ่งสูงมาก หลังจากนั้นตากล้องทักมาหาเราเยอะมาก บอกขอถ่ายรูปหน่อย ตั้งแต่นั้นมาก็เลยคิดว่างั้นเก็บเงินเลยดีกว่า ก็เลยเริ่มต้นมาถ่ายแบบ"
"ตอนแรกเป็นการถ่ายแบบแนวสตรีท กางเกงยืน เสื้อยืด แล้วก็เพิ่มระดับความเซ็กซี่มาเรื่อยๆ จนต้องไปเสริมหน้าอก ถ้าถามว่าเสริมหน้าอกทำให้งานเยอะขึ้นมั้ย มุกว่าก็เยอะขึ้น คือเซตแรกที่มุกถ่ายภาพตอนนั้นยังไม่ได้ทำหน้าอกมันยังเล็กอยู่"
"แล้วพอมีโอกาสได้ทำหน้าอกกับคลีนิกหนึ่ง หลังจากนั้นพอไปถ่ายแบบเซ็กซี่งานมันเยอะขึ้นมาก ยอดวิวทุกอย่างเยอะจริงๆ แต่เราไม่ได้บอกว่าการมีหน้าอกใหญ่มันไม่ได้ทำให้งานเยอะนะ แต่มุกว่ามันขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของชีวิตด้วย"
"ส่วนที่บ้านก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ เขาจะคอยพูดเสมอว่าอยากทำอะไรทำเลย แต่อย่าทำอะไรให้เดือดร้อนคนอื่นหรือเดือดร้อนตัวเอง เขาแล้วแต่ว่าเราจะตัดสินใจยังไง คือก่อนที่จะมาถ่ายแบบแนวเซ็กซี่มีการถามเขาก่อนว่า มุกจะไปถ่ายแบบบิกินี่มันต้องเห็นสัดส่วนเราแบบนี้ได้มั้ย"
"เขาก็จะพูดว่าถ้ามันเป็นงานก็ทำไป เขาไม่ได้ซีเรียส แต่อย่าถึงขั้นแบบเปิดหมดหรือถ่ายนู้ด"
เจ้าชู้
อาจจะเป็นเพราะภาพจำของผู้เป็นบิดาที่ทำให้นักแสดงหญิงยอมรับว่าในวัยเด็กเธอไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้เอาเสียเลย ทว่าเมื่อโตขึ้นมุมมองของเธอตรงนี้ก็เปลี่ยนไป
"ตอนเด็กเกลียดผู้ชายเจ้าชู้มาก คิดว่าถ้าเจอผู้ชายแบบพ่อเราจะเป็นยังไง แต่พอเรามองลึกๆ เรารู้สึกว่าถึงพ่อเราจะเจ้าชู้ แต่ความจริงแล้วเขาเลี้ยงลูกได้ 10 คน และแม่ๆ อีก 10 คน มันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก"
"ถ้าเทียบกับสมัยนี้ ยังมีใครที่สามารถเลี้ยงลูกได้ 10 คน เลี้ยงแม่ๆ ให้สบายได้เท่าๆ กัน คือเรารู้สึกว่าคุณพ่อกลายเป็นไอดอลไปเลย"
ผู้ชายเจ้าชู้มักมีเสน่ห์...."จริงหรอ เราไม่เห็นรู้สึกว่ามีเสน่ห์เลย ผู้ชายเจ้าชู้อาจจะเป็นคนคารมดีเปล่า ไม่รู้เรายังไม่เคยเจอคนเจ้าชู้หนักๆ เจอแต่ตัวเองเจ้าชู้ (หัวเราะ)"
ยังไง เล่าให้ฟังหน่อยได้มั้ย?
"สมัยสก๊อยคือไปกินกับคนนี้ ปรากฏว่าอีกคนหนึ่งก็มาห้างนั้นเหมือนกัน แล้วเขาก็ทักเรามาแบบมากินข้าวกันมั้ย ซึ่งเราก็ไม่รู้ทำยังไงก็กินๆ ตอนออกจากร้านอาหารคือเดินสวนกันเลยจ้า โป๊ะแตกเจอเราอยู่กับอีกคนหนึ่ง เราก็คิดทำไงดี คือมันก็ผ่านไปได้เราบอกว่า มากับพี่เป็นไงบ้าง พูดแบบไม่ชัดมีธุระ เขาก็งงๆ"
"หลายคนจะมองว่า เราเกลียดผู้ชายเจ้าชู้ แต่กับเป็นเสียเอง ทำไมอ่ะเป็นผู้หญิงเจ้าชู้ไม่ได้หรอ ผู้ชายยังเจ้าชู้ได้เลย ซึ่งในความเจ้าชู้สำหรับตัวมุก คือเราคุยกับคนเยอะ กว่าจะเลือกว่าคบคนไหนก็แค่นั้น แต่ตอนนี้ความเจ้าชู้ที่ผ่านมาก็หายไปหมดแล้วนะ ตอนนี้ไม่มีเวลาจะทำอะไรให้ตัวเองเลย"
"ตื่นมาก็ต้องไปออกกำลังกาย กว่าจะได้กลับก็ตอนเย็น เอาง่ายๆ ทุกวันนี้เวลาหนูจะนอนยังไม่พอเลย เพราะฉะนั้นเราก็ไม่ได้มีเวลาที่จะหาใครมาคุย"
ถ้าใครที่ติดตามอินสตาแกรมของสาวคนนี้อยู่ก็จะพบว่าเต็มไปด้วยภาพงานเซ็กซี่ของเธอ แต่กระนั้นนักแสดงสาวร่างเล็กคนนี้ก็ยืนยันว่าเธอตัวจริงนั้นไม่ได้เป็นสาวเซ็กซี่เลย..."เฮ้ย!! จริงๆ เราไม่ได้เป็นสาวเซ็กซี่นะ ชีวิตจริงเป็นคนชิลๆ เป็นคนห้วนๆ และที่ทุกคนเห็นภาพในไอจีมันเป็นแค่งาน"
เตรียมใจรับแรงกระแทก
ถือเป็นเรื่องไม่ปกติที่ปกติไปเสียแล้วสำหรับสาวๆ ที่ขายความเซ็กซี่ของตนเองที่มักจะต้องเจอะเจอกับบรรดาโรคจิตทั้งหลายในสารพัดรูปแบบ หรือแม้กระทั่งการนำภาพหวือหวาของพวกเธอไปหาผลประโยชน์
"ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า เป็นจากภาพลักษณ์ของตัวเราเอง เพราะมุกเคยถ่ายแบบเซ็กซี่มากมาก่อน มันเลยมีช่องว่างที่ทำให้เขาชวยโอกาสหยิบผลงานภาพและคลิปวีดิโอของเราไปตัดต่อในทางเสียหาย ซึ่งเราก็ยอมรับตั้งแต่แรกแล้วว่า ถ้าเราเลือกมาเดินในสายเซ็กซี่มันก็ต้องเสี่ยงต่อการที่เราโดนคุกคามมากกว่าสายอื่น"
"ซึ่งถ้าอะไรมองข้ามไปได้ก็ควรมองข้าม แต่ถ้าอะไรที่ทำให้เรารู้สึกแย่หรือคุกคามเรามากเกินไปกับชีวิตประจำวันเรา เราก็เลือกที่จะสู้กับมันดีกว่า"
ครั้งแรกที่เห็นภาพตัวเองในเว็บโป๊ตอนนั้นรู้สึกอย่างไร?
"ไม่ได้โกรธเลยนะ อารมณ์คือเราเจอมาเยอะแล้ว เอาภาพเราไปใช้ในเว็บพนันบ้าง ซึ่งมุกเจอมาเยอะจนรู้สึกชิน แต่พอเรื่องมันบานปลายยอดวิวมันเยอะขึ้น มุกรู้สึกว่าปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว ก็เริ่มโกรธทำให้คนเข้าใจเราผิด ก็เลยลุกขึ้นมาอธิบายว่าคนนั้นมันไม่ใช่เรา"
"ตอนแรกในใจคิดว่าเราดังขนาดนั้นเลยหรอ (หัวเราะ) คืองงดิ เรามีนมใหญ่ขนาดนั้นเลยหรอ ถึงได้เอาภาพเราไปตัดต่อ แต่เรื่องนี้มันก็สอนมุกทั้งสองทาง คือข้อดีทำให้เรารู้จักว่าเวลาที่มีปัญหาอะไรอย่าปล่อยผ่านไป บ้างปัญหาเราก็ต้องจัดการ ต้องสู้กับมัน ไม่อย่านั้นมันจะบานปลาย ถ้ามุกปล่อยคลิปนี้อยู่ต่อวิวก็น่าจะสิบล้านแล้ว"
"ครอบครัวเขาก็ถามจะเอายังไง ซึ่งเราก็ปล่อยไปก่อนคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร แต่พอคนมันทักมาเยอะขึ้น เราคิดว่ามันเสียหายกับทางครอบครัวเรา คือคนจะคิดว่าคนนี้เป็นพ่อแม่น้องมุกหรอ น้องมุกที่โดนปล่อยคลิปโป๊เปล่า เรารู้สึกว่าพ่อแม่เราเนี่ยแหละจะเดือดร้อน ก็เลยปล่อยไว้ไม่ได้ก็เข้าแจ้งความ"
"และหลังจากนั้นไม่นานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาแจ้งว่า ตอนนี้คลิปนั้นถูกลบออกไปจากระบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ดีใจมาก"
แม้จะมีผลกระทบ แต่เมื่อถามว่าถ้าย้อนเวลาได้จะเลือกใช้ความเซ็กซี่เป็นใบเบิกทางมั้ยเจ้าตัวระบุว่าก็ยังคงเลือกเช่นเดิมเพราะอย่างน้อยเส้นทางสายนี้ก็ทำให้เธอเป็นที่รู้จักเพียงแต่เธอยอมรับว่าช่วงหลังอาจจะต้องรับงานหวือหวาน้อยลงเพราะอยากจะพิสูจน์ในเรื่องของความสามารถทางการแสดงในฐานะดาราในสังกัด "โมโน ทีวี" มากกว่า
"ไม่ค่ะ ที่มุกมาถึงจุดนี้ได้ เพราะส่วนหนึ่งมาจากที่เราถ่ายแบบเซ็กซี่ คือถ้าวันนั้นเราไม่รับงานเซ็กซี่เลย มันอาจจะไม่ได้มีมุกในวันนี้ ฉะนั้นอดีตทุกอย่างมันเป็นบทเรียนสำคัญมากที่ทำให้เรารู้ว่า เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเราบ้าง มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ คอยเตือนเราว่าควรทำสิ่งนี้ ไม่ควรทำสิ่งนี้"
คิดว่าอะไรคือเสน่ห์ในตัวเอง?
"เป็นคนตรงๆ เราเป็นคนไม่ชอบพูดหวานๆ คือเป็นตัวของตัวเอง เป็นคนพูดห้วนๆ คือเพื่อนๆ ก็มักชอบมาปรึกษาเรา เพราะด้วยความที่เราเป็นคนตรง เกลียดก็คือเกลียด ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ มันทำให้คนอยากเข้ามาคุยกับเรา เพราะเขารู้เราไม่เสแสร้ง"
สุดท้ายนี้อยากให้แฟนๆ จำเราในภาพไหน เซ็กซี่หรือน่ารัก?
"อยากให้จำความเป็นตัวมุกมมากกว่า คือถ้าไปเจอมุกในลุคเซ็กซี่อันนั้นคืองาน อยากให้รักในสิ่งที่เราเป็น รักในตัวตนของเรา ไม่ใช่รักในความเซ็กซี่ผ่านหน้ากล้อง..."