“พิม พิมประภา” เปิดใจ ยังไม่ใช่แฟน “ตั้ว เสฎฐวุฒิ” แต่ไม่ใจร้ายปิดโอกาส ด้านฝ่ายชายปัดตอบ จีบ ซุ่มปลูกต้นรัก เป็นคนพิเศษ พูดอยู่ประโยคเดียวเป็นเพื่อนที่หวังดีต่อกัน
ถูกชาวเน็ตจับผิดว่ากำลังกุ๊กกิ๊กกันกลางกองถ่ายหรือเปล่า สำหรับนางเอกสาว “พิม พิมประภา ตั้งประภาพร" กับนักแสดงหนุ่ม “ตั้ว เสฎฐวุฒิ อนุสิทธิ์" ล่าสุดทั้งคู่มาเปิดใจเคลียร์ในงานเปิดกล่องละครใหม่ ละคร พรพรมพิศวาส , เหนือคน ณ ช่อง 7 HD (ตึกมีเดีย) โดยฝ่ายหญิงเปิดใจเป็นเพื่อนที่สนิทและหวังดีต่อกัน แต่ไม่ใจร้ายปิดโอกาสฝ่ายชาย
“เป็นเพื่อนกันค่ะ คนอาจจะเห็นว่าสนิทกันก็เลยเกิดคำถาม ตั้วเขาเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ เราก็สนิทกันจริงๆ หวังดีต่อกัน ทำงานด้วยกันแล้วสบายใจ กองละครพรพรหมพิศวาสทำงานไปแล้วเราสนิทกันมากๆ เราผ่านหลายๆอย่างมาด้วยกัน
สำหรับพิมตอนนี้เขาก็คือเพื่อน ตั้วเป็นคนที่น่ารักมากๆ ต้องเล่าก่อนว่าแรกๆ ที่ร่วมงานกันตั้วเขาก็จะมีความเกรงใจมากๆ ด้วยความที่พิมอายุเยอะกว่า เขาก็จะมาพี่พิมครับ สวัสดีครับ ผมอย่างนั้นอย่างนี้ คือจะมีความเกรงใจเวลาเล่น พิมก็คุยกับทีมงานว่าเราจะทำยังไงให้เขาไม่เกร็ง ให้เขารู้สึกสนิทกับเราได้ เพราะในเรื่องเราต้องเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากๆ มาตั้งแต่เด็กๆ
ก็เลยคุยกับทีมงานว่าต้องเริ่มจากการที่ไม่ต้องให้เขาเรียกเราว่าพี่ ก็บอกเขาว่าตั้วต่อจากนี้เราเป็นเพื่อนกันนะ จะได้เล่นกันง่ายๆ หลังจากนั้นก็สนิทกัน”
ปัดตอบไม่ก้าวข้ามความเป็นเพื่อน
“ที่คุยก็คุยเรื่องทั่วไปเหมือนเวลาที่เราคุยกับเพื่อน ถามว่าเป็นรักโปรโมตไหม ไม่ได้โปรโมตอะไรนะ เราก็ทำงานของเราอย่างเต็มที่ที่สุด ถ้าภาพออกมา ละครออกมาแล้วมีคนชื่นชอบมันก็เป็นผลพลอยได้ ก็ขอบคุณที่ทุกคนชอบ
เวลาอยู่ในกอง เราตั้งใจทำงานของเรา ทีมงานก็ดูแลเราดีมากๆ อยู่แล้ว ก็ไม่ได้ต้องมาดูแลอะไรเรา ตั้วเขาเป็นคนน่ารัก เขาก็เล่นกับทุกคน แต่อาจจะเป็นเพราะว่าเวลาเข้าซีนแล้วพิมเป็นผู้หญิงคนเดียวมั้ง”
เจอกันผ่านๆ ระหว่างไปเที่ยวอังกฤษกับครอบครัว
“เป็นการเจอผ่านๆ พิมไปเที่ยวกับที่บ้าน แล้วเขาก็ไปกับเพื่อนของเขา มันก็เป็นปกติที่ไปเที่ยวที่เดียวกันก็มีเจอกัน เป็นปกติเลยค่ะ”
คบเพื่อนผู้ชายสบายใจ แฮปปี้ความสัมพันธ์แบบนี้
“พิมแฮปปี้มากๆ กับการที่มีเพื่อนแบบนี้ ถ้าใครติดตามพิมก็จะรู้ว่าพิมมีเพื่อนผู้ชายหลายคนมากๆ ด้วยพิมนิสัยค่อนข้างจะเหมือนผู้ชาย เราสบายใจที่คุยกับเพื่อนผู้ชาย พิมไม่ชอบพูดเรื่องคนอื่น ไม่ชอบอะไรจุกจิก และมีโลกส่วนตัวสูงพอสมควร พิมรู้สึกว่าการคบเพื่อนผู้ชายมันสบายใจมากๆ ก่อนหน้านี้ก็เคยเป็นข่าวกับเมฆไปแล้ว เลยรู้สึกว่าก็ไม่แปลกถ้าจะมีข่าวกับตั้ว”
ไม่ใจร้ายปิดโอกาส
“อย่าใช้คำนั้นเลย มันดูใจร้ายมาก เอาเป็นว่าตอนนี้พิมแฮปปี้มากๆ ที่มีเพื่อนที่ดีอย่างเขา ตอนนี้พิมค่อนข้างจะโฟกัสกับงานมากๆ ทุกคนจะเห็นว่าพิมขายโน่นขายนี่ เสื้อผ้า เจลแอลกอฮอล์ ทำ vlog ของตัวเอง รู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองบ้างานมากๆ อยากทำอะไรที่สร้างความมั่นคงให้ตัวเอง อยากหาเงินเยอะๆ ในหัวของเรามันมีแต่คิดว่าจะทำยังไงที่จะหาเงินได้เยอะๆ เลยทำให้เราไม่รู้สึกว่าเราอยากจะไปโฟกัสกับอย่างอื่นเลย
พิมอยู่วงการมานานแล้ว เราอยากจะสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองจริงๆ เราไม่รู้ว่าจะเล่นละครไปได้อีกนานแค่ไหน ที่สำคัญคือเราอยากจะสร้างความมั่นคงเพื่อคนที่เรารักก็คือครอบครัวของเรา ถ้าเรามีงานที่มั่นคงแล้วเราจะมั่นใจได้ว่าเขาไม่ลำบากแน่นอนในวันที่เราไม่มีงานละครหรืออะไรก็ตาม เรารู้สึกว่าเราอยากจะประสบความสำเร็จให้ได้เร็ว พ่อพิมอายุเยอะมากแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเราจะประสบความสำเร็จได้ทันให้เขาเห็นไหม เขาจะได้สุขสบายอย่างที่เราต้องการหรือเปล่า
มันแล้วแต่คนคิดด้วยแหละว่าเราอยากจะสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตในตอนไหน ส่วนตัวพิมเริ่มคิดมาตั้งแต่ทำงานแรกๆ แล้ว ด้วยพิมทำงานมาตั้งแต่เด็กๆ รู้สึกว่าเราอยากจะหาเงินดูแลครอบครัว มันจึงเป็นมายเซ็ตที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เด็กๆ”
ไม่ปิดโอกาสใคร
“พิมไม่ได้ปิดนะ เป็นเพราะพิมไม่มีโอกาสที่จะไปเจอใครด้วย พิมทำงานที่กองถ่าย เข้าประชุม อยู่กับเพื่อนก็เป็นเพื่อนวัยเด็กที่สนิทกันซึ่งมีอยู่ไม่กี่คน ไม่ได้ออกไปเที่ยวไหน เราอยู่ในลูปเดิมๆ ไม่ได้ไปเจอใครใหม่ ถ้าจะมีใครมาเดี๋ยวมันก็มาเอง”
ด้าน "ตั้ว เสฎฐวุฒิ" เปิดใจเป็นเพื่อนที่หวังดีต่อกัน
“อย่างที่บอกไปเราทุกคนสนิทกันมากจริงๆ ผมว่าคนเข้าใจอะไรแบบนั้นมันคงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะผมก็สนิทกับทุกคนเหมือนกัน เราก็คือเพื่อนสนิทกันทุกคน มาสนิทกันเพราะว่าเล่นละครด้วยกัน”
“เรื่องที่คนจับผิดที่เราไปเที่ยวทะเบ เอาจริงๆ ผมว่าเป็นมูทของกล้องฟิล์มครับ อย่างตอนไปกับเพื่อน เพื่อนผมก็มีกล้องฟิล์ม เราก็ถ่ายกล้องของใครของมันอยู่แล้ว แล้วกล้องที่ถ่ายมันเป็นกล้องผมที่ผมลงรูป และมันก็เป็นมูทที่ผมถ่ายไว้อยู่แล้ว ผมดูภาพของเขามันก็คือกล้องฟิล์ม คนจะเข้าใจแบบนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”
ปัดตอบจีบ เป็นคนพิเศษ บอกเป็นเพื่อนที่หวังดี
“เราเป็นเพื่อนที่สนิทกัน และหวังดีต่อกันมากๆ เราไม่ได้คุยกันเรื่องสเตตัส ไม่ได้ถามอะไร แต่ว่าเราก็เล่นละครด้วยกัน มันมีปัญหาทั้งเรื่องงาน ทั้งชีวิต ทั้งธุรกิจมีปัญหาเราก็ให้คำปรึกษากัน”
“ถามว่าพิเศษไหม ก็หวังดีมากๆ ถามว่าพิเศษกว่าคนอื่นๆ ไหม ผมว่าในบทมันเป็นเพื่อนกันแล้วต้องทำงานกัน การที่เราหาตัวละครให้เข้าหากัน มันเลยทำให้เรารู้จักกันและต้องทำอะไรด้วยกันหลายๆ อย่าง ในช่วงนั้นเขาก็ต้องทำธุรกิจ ผมก็ต้องทำธุรกิจ ซึ่งผมมีความรู้เรื่องกฎหมายว่ามันมีเรื่องนี้นะ ลองไปคุยกับหุ้นส่วน ลองดูว่ามันจะคลอบคลุมทางกฎหมาย”
“(มันไม่ได้พิเศษไปมากกว่าการเป็นเพื่อน?) อย่างที่บอกเราเพื่อนสนิทกันหวังดีต่อกัน อย่างที่บอกภาพกับมูท มันไม่ใช่แค่ว่าผมเหมือนกับเขา เขาเหมือนกับผม ถ้าเอาจริงๆ ทุกคนก็เหมือนกันได้หมดแหละครับ(ยิ้ม)”
จะขยับความสัมพันธ์ไหม เรื่องอนาคตตอบไม่ได้
“เอาจริงๆ ผมตอบไม่ได้ถ้าในอนาคตมันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าตอนนี้สเตตัสก็คือเพื่อนสนิทกัน ตอนนี้ผมโสดครับ ส่วนเรื่องไปอังกฤษผมไปกับเพื่อนผมอยู่แล้ว ผมไปหาพวกเพื่อนที่เรียนปริญญาโทที่นั่น เขาก็ไปกับครอบครัวเขาด้วยอยู่ เราอยู่เมืองเดียวกันเลยแค่แวะไปเซย์ไฮเจอพ่อแม่เขา ต่างคนต่างไป พิมเขาก็ไปกับน้องสาวและพ่อแม่ ผมก็ไปกับเพื่อน คุณพ่อคุณแม่เขาก็รู้อยู่แล้วว่าเล่นละครด้วยกัน ผมว่าตอนอยู่ในกองมันคือบรรยากาศของเพื่อน”
ยังไม่ได้ขยับไปถึงขั้นซุ่มปลูกต้นรัก
“ผมว่าอย่าเพิ่งขยับไปถึงขั้นนั้นเลยดีกว่าเอาเป็นว่าตอนนี้เป็นเพื่อนสนิทกันที่หวังดีต่อกันมากๆ ส่วนโอกาสถ้าวันหนึ่งมันเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ก็ให้มันเป็นเรื่องของอนาคต เป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้สุดท้ายผมก็เป็นคนที่หวังดีกับเขามากๆ ที่สุดคนหนึ่ง”
“เรื่องจะปิดกั้นคนอื่นที่เข้ามา เราก็พูดกันอยู่ตอนนี้ว่าเราเป็นเพื่อนสนิทกัน เราก็ไม่รู้ว่าเราต้องกังวลเรื่องนั้นรึเปล่า หลังเป็นข่าวก็ได้คุยกันอยู่แล้วว่าคนเอารูปเราที่เราไปเที่ยวกับเพื่อนๆ มาเชื่อมโยงกันนะ มันก็ตลกดีเขาก็ค่อนข้างเข้าใจที่จะโยงกันเนอะ ส่วนจะจีบเลยไหม (หัวเราะ) ไม่หรอกครับ เอาจริงๆ ก็เป็นเพื่อนที่หวังดีต่อกันมันก็ดีมากๆ แล้วครับผม”