“บูม กิตตน์ก้อง” เผย “กีฟ ดราภดา” บอกน่ารัก เป็นครั้งแรกถูกจิ้นกับผู้ชาย เลิฟซีนดุละครเรื่องใหม่ไร้ปัญหา อีกฝ่ายไม่เคยตามเฝ้าที่กอง บอกเลิฟซีนกับคนที่กีฟรู้จักสบายใจ ลั่นรักเดียวใจเดียวมาตลอด ไม่นอกใจ เท่กว่าคนเจ้าชู้ บอกขำๆ อย่าเรียกว่ากลัว เดี๋ยวจะเสียการปกครอง เรียกว่าให้เกียรติกัน
อยู่ดีๆ ก็ถูกจับจิ้น“เกรท สพล อัศวมั่นคง” ในละครพรหมพิศวาส ล่าสุด “บูม กิตตน์ก้อง ขำกฤษ” ก็เปิดปากกำลังอ้อนผู้จัดขอจิ้นหนักๆ และเป็นครั้งแรกที่ถูกจับจิ้นกับผู้ชาย
“นี่กำลังจะอ้อนผู้จัดอยู่ ถ้าจิ้นกันหนักๆจะแหกโค้งไปอีกทางนึงเลย ให้จบแบบนั้นเลยดีไหม ผมก็เห็นกระแสอยู่ครับ เห็นไวรัลตามสื่อโซเชียล มันก็น่ารักดี เป็นความรักแบบเพื่อน สามารถจิ้นได้ ยังมีฉากน่ารักๆ ที่เขาคุยกัน ปลอบกัน”
“กีฟ ดราภดา” บอกน่ารักดี เป็นครั้งแรกจิ้นผู้ชาย
“เขาบอกน่ารักดี ดูเป็นเพื่อนที่เข้ากันได้ดี เพราะในเรื่องบูมจะดูขรึมๆ หน่อย เขาจะสายผู้ชายหวานๆ พออยู่ด้วยกันมันก็ดูครบดี น่ารักดี เรื่องแรกเลยที่มามีคู่จิ้นแบบนี้ คนให้ความสนใจเยอะพอสมควร ก็ขอบคุณอีกสายนึง ตอนที่เราดูไม่ได้คิดอะไรก็รู้สึกว่าน่ารักดี”
เลิฟซีนชุดใหญ่
“ชุดใหญ่เลยครับ ถามว่าต้องขออนุญาตกีฟไหม ตอนที่ได้บท อ่านเรื่องย่อเราก็บอกกับเขาแล้วว่าต้องมีฉากเลิฟซีนนะ ก็บอกเขาว่าเล่นกับน้องพิม (พิม พิมประภา ตั้งประภาพร) เขาก็สบายใจ เพราะเป็นน้องที่สนิทกัน ก็โอเคเข้าใจ ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ เขาก็ดูละครเรื่องนี้ด้วย เขาก็จะชมทุกอย่าง แต่เลิฟซีนไม่มีพูดถึง(หัวเราะ) ก็พยายามลืมๆ ไป
น้องเขาก็เข้าใจว่ามันคืองานเพราะเขาก็เป็นนักแสดงเหมือนกัน มันคืองานจริงๆ น้องพิมก็เป็นน้องที่น่ารัก ก็สบายใจที่ได้ร่วมงานกับน้องพิมอยู่แล้ว ตัวกีฟเขาก็รู้จักน้องพิม น้องเขาก็บอกว่าถ้าไม่ใช่ผมเขาก็ไม่กล้าเล่นเหมือนกัน คือเราสนิทกันและไว้ใจกัน ซ้อมบท ช่วยกัน ก่อนเข้าฉากจริงก็ขอโทษกัน พอเอาจริงเราก็จับมาจูบ ตอนนั้นมันไม่ใช่บูม มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
ถามผม ผมว่าเป็นเลิฟซีนที่ดูได้นะ ดูได้แหละ ตอนนี้เขาก็เป็นแฟนละครเรื่องนี้ไปแล้ว เขาบอกว่าเรื่องนี้สนุกมาก เขาก็ตั้งตารอจะดู เขาไม่มีตามไปกองถ่ายละคร ผมไม่อยากให้ใครมานั่งรอผมที่กอง เราทำงานเราเต็มที่ ไม่อยากให้ใครมานั่งรอ เกรงใจเขา”
ยังไม่เคยเล่นเลิฟซีนกับคนที่กีฟไม่รู้จัก
“อันนี้ยังไม่รู้ครับ ยังไม่เคยลอง(หัวเราะ) แต่ผมเชื่อว่ามันคืองาน ทุกคนเข้าใจอยู่แล้ว ละครเกือบทุกเรื่อง พระเอก-นางเอกมันหนีไม่ได้อยู่แล้วกับเรื่องเลิฟซีน มันก็คืองานจริงๆ ถ้าเราแยกแยะได้ก็ไม่มีปัญหา”
ไม่บอกกำลังจะมีข่าวดี เดี๋ยวไม่เซอร์ไพรส์
“ไม่บอกครับ เดี๋ยวไม่เซอร์ไพรส์ ก็ขอเวลาอีกนิดนึง ตอนนี้กำลังลุยธุรกิจเต็มที่ เริ่มอยู่ตัวแล้ว และผมก็เพิ่งจะได้รับมอบหมายให้เป็นพระเอกเต็มตัวต่อเนื่อง ก็กำลังสนุกกับการทำงานอยู่ ขอเวลาอีกสักแป๊บนึง จะได้เก็บเงินไปในตัวด้วย วันที่แต่งงานหลังจากนั้นจะได้ดูแลเขาได้ดีที่สุด ก็อีกสักพักนึง คงไม่นานเกินไป บอกไม่ได้ ถ้าบอกว่าปีหน้าเดี๋ยววันๆ เขาก็ไม่ทำอะไร รอแต่งตัวสวยรอผม อาจจะพรุ่งนี้ก็ได้นะ เก็บไว้เซอร์ไพรส์ดีกว่า”
เข้าใจเป็นช่วงขาขึ้น อยู่กับกีฟทุกเวลา เป็นได้ทุกสถานะ
“เขาเข้าใจเรามาโดยตลอด ปีนี้ก็ปีที่ 8 แล้วที่คบกันมา ตอนแรกจนถึงตอนนี้เขาก็รู้ดีว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เราคุยกันตลอด ถ้าวันนึงมันมาถึงวันนั้นเขาก็ต้องเข้าใจว่าเราพร้อมจริงๆ อย่างวันนี้ไม่ใช่ว่าผมไม่กล้าขอเขานะ บางทีเขาอาจจะไม่ตอบตกลงก็ได้ เพราะกลัวจะต้องกลับมาถามผมว่าพร้อมแล้วจริงเหรอ เรื่องนั้นเรื่องนี้เคลียร์หรือยัง เราคุยกันตลอดเวลา ผมว่าเผลอๆ ถึงวันที่มันพร้อมผมอาจจะนั่งคุยกับเขาเฉยๆ แค่สองคนด้วยซ้ำว่าวันนี้พร้อมแล้วนะ ผมกับเขาเราอยู่ด้วยกันทุกช่วงเวลาจนเป็นได้ทุกสถานะกันแล้ว เป็นเพื่อน เป็นพาร์ตเนอร์ เป็นแฟน เป็นคนในครอบครัว เป็นทุกอย่าง”
รักมั่นคง รักเดียวใจเดียวเท่กว่าคนเจ้าชู้
“คงต้องบอกว่าผมโตมาแบบนี้ ครอบครัวผมเป็นแบบนี้ พ่อมีแม่แค่คนเดียว ผมก็เคยเห็นคนเจ้าชู้นะ แต่ผมมองว่าพ่อผมที่รักแม่ผมคนเดียวมันเท่กว่า ผมก็อยากเป็นแบบพ่อผม ก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละคน ผมมีเขาแค่คนเดียวมันสบายใจดี เพราะผมเป็นคนที่โกหกไม่เป็น ถ้าเรามีคนอื่น เราหลายใจ เราต้องโกหก แล้วผมขี้ลืม คิดดูถ้าวันนึงผมไปโกหก ผมไปนั่นมา ไปนี่มา เขาย้อนกลับไปถามข้อแรกถ้าผมตอบผิดผมจะมีชีวิตอยู่ยังไง ฉะนั้นผมต้องพูดแต่ความจริง”
อย่าเรียกว่ากลัว เดี๋ยวจะเสียการปกครอง เรียกว่าให้เกียรติกัน
“เรียกว่าให้เกียรติซึ่งกันและกัน อย่าไปพูดว่ากลัว เสียการปกครองหมด เราก็เลยพูดแต่ความจริง ไม่มีการนอกใจอะไร เพราะเราเป็นคนขี้ลืม กลัวว่าโกหกแล้วจะมีปัญหาเพราะเขาจะจับได้ เขาก็ไม่ได้ตามเราไปทุกที่ ไม่มี ไม่กล้าหือหรอก ผมนี่แหละที่ไม่กล้า(หัวเราะ)”
ไร้ปัญหาทำธุรกิจด้วยกัน
“ไม่มีเลยครับ อย่างที่บอกว่าเราก็จะเปลี่ยนความสัมพันธ์กันไปตลอดเวลาที่เราทำงานเราก็จะเป็นพาร์ตเนอร์กัน คุณมีไอเดียอะไรคุณก็บอกมา ผมมีไอเดียอะไรผมก็บอก แล้วเราก็จะประชุมกันมีทีม มีลูกน้อง ถ้าความเห็นของเขามีคนเห็นด้วยมากกว่าเราก็ต้องยอม เราจะยืนยันเอาความคิดเราไม่ได้ เราจะใช้เหตุผลคุยกันในทุกๆ เรื่อง ก็ไม่มีปัญหาครับ”