เมียน้ำตาแตก! ลุงขายข้าวผัดปูถูกทวงหนี้มหาโหด ทุบกะโหลกสมองยุบ ฝังใจเสียงฟาดไม่ยั้ง

กรณีการทวงหนี้สุดโหด ทำร้ายชายวัย 63 ปี มีอาชีพเป็นพ่อค้าขายข้าวผัดปูจนกระโหลกสมองยุบ ต้องนอนพักรักษาตัวนานถึง 2 เดือน ซึ่งภาพกะโหลกที่ยุบลงไปสร้างความรู้สึกสะเทือนใจแก่คนที่พบเห็นเป็นจำนวนมาก ล่าสุด "ลุงวีรภัทร คัมภิรานนท์" เหยื่อหนี้นอกระบบ และ "นางสาวพัชราภรณ์​ ภาระคุณณ" ภรรยา มาพร้อมทนาย "รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์" ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้เปิดใจผ่านรายการ "เรื่องลับมาก" ออกอากาศวันที่ 29 มิ.ย. ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.20 - 15.00 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 โดยภรรยาได้เผยนาทีชีวิตสามีน้ำตาแตก

ไปรู้จักคุณป้าร้อยล้านได้ยังไง?
วีรภัทร : "พวกแม่ค้าเขาบอกกันว่าคนนี้ออกเงินกู้ ตอนนั้นผมจะซื้อเสื้อไบท์ฟอร์แด๊ด กะลงทุนสักแสนกว่าบาท ตัวผมมีเงิน 8 หมื่น ต้องการเงิน 5 หมื่นเพื่อซื้อผ้า ก็ไปกู้เขา 5 หมื่น ไม่มีการทำสัญญา เขารู้ว่าเราทำอาหารขายที่นี่นานแล้ว ก็เชื่อใจกัน"

เขาคิดดอกเบี้ยเท่าไหร่?
วีรภัทร : "ตกลงที่ 10 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน ถือว่าถูกนะ แต่ถ้ารายวันส่วนมากเขาปล่อยให้คนอื่น 20 เปอร์เซ็นต์ก็มี ผมตกลงว่าจะใช้เงินแค่ 1 เดือน เป็นดอกเบี้ย 5 พัน เป็น 5.5 หมื่น เดือนถัดไปต้องคืนเขาเลย แต่หลังจากนั้นที่เราขายของ จะเปิดสาขาเพิ่มต้องใช้เงิน ก็ไปปรึกษาเขา มันก็เลยต่อเนื่องไปเรื่อยๆ"

เกิดอะไรขึ้นถึงหยุดใช้หนี้?
วีรภัทร : "จริงๆ ผมก็จ่ายเขาทุกเดือน แต่เป็นดอกเบี้ย ยังค้างอยู่ 6 หมื่น แต่เขาลดให้เดือนละ 5 เปอร์เซ็นต์ เป็นเดือนละ 3 พันบาท ก็จ่ายไปเรื่อย แต่ต้นปี 61 เขาบอกจะเลิกให้กู้ ขอเงินคืนหมดเลย ดอกเบี้ยไม่สนแล้ว 6 หมื่นขอคืน เราก็บอกว่าไม่มี เขาบอกไม่ได้นะ ถ้าไม่เคลียร์จะเอาคนมา ถ้าไม่มีจ่ายก็ต้องทำร้าย พูดง่ายๆ ผมก็บอกว่าถ้าป้าขู่ผมอย่างนี้ ผมก็ต้องไปศูนย์ดำรงธรรม"

จากจุดที่เขาเตือนว่าจะเอาคืน กับวันที่เกิดเหตุ นานแค่ไหน?
วีรภัทร : "สองปีกว่า ไม่มีการคุยกัน ไม่มีการทวง ไม่มีอะไรเลย ไม่จ่ายดอก เพราะเขาเป็นคนเก็บดอกเอง ไม่มีลูกน้องเดิน แต่เขาประกาศไปทั่วบริเวณว่าข้าวผัดปูเดี๋ยวต้องโดนแน่นอน"

วันนั้นเขามายังไง โหดแค่ไหน?
วีรภัทร : "หลังผมเก็บร้านประมาณสองทุ่ม ผมก็ไปบอกแฟนว่าเดี๋ยวผมไปสตาร์ทรถรอ แฟนอยู่ห้องน้ำ ห่างกันประมาณ 10 กว่าเมตร ผมไม่เห็นใครเลยสักคน ช่วงนั้นห้างปิดแล้ว ลูกค้าไม่มี รถที่จอดคือรถพ่อค้า ผมก็เข้าไปสตาร์ท ขาเหยียบ แล้วตัวอยู่ข้างนอก จากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวเลย"

แผลบุ๋มแบบนี้ รู้ได้ยังไง?
วีรภัทร : "ใช้เวลาเกือบ 2 เดือนถึงรู้เรื่อง มือซ้ายมือขวา พูดอะไรไม่รู้เรื่อง"

รณณรงค์ : "ก่อนหน้าเขามาทำร้าย ลุงไม่มีลางอะไรบอกเลยเหรอ"

วีรภทร : "ไม่มี แต่เราระวังไว้ตลอด เขาขู่ไว้ตั้ง 2 ปี แล้วเขามีอำนาจเงิน"

คุณพัชอยู่ในห้องน้ำ รู้ได้ยังไงว่าคุณวีโดน?
พัชราภรณ์​ : "ได้ยินเสียงสตาร์ทตอนรถล้างมือ ไม่ถึง 2 วิ ได้ยินเสียงไม้หน้าสามดังมาก เสียงตีนี่ประมาณ 4 ครั้งนะคะ หนูก็ตะโกน ทั้งวิ่งทั้งเดินตะโกนสุดเสียงว่าทำอะไรกัน หยุดเดี๋ยวนี้ เขาก็ทิ้งไม้ไว้ตรงนั้น"

เห็นคนตีมั้ย?
พัชราภรณ์ : "เห็นนะคะเป็นผู้ชาย เขาใส่หมวกแก็ป ปิดมาสก์ช่วย"

ทำไงเมื่อเห็นเขาโดนตี?
พัชราภรณ์ : "อันดับแรกก็วิ่งไปเขย่าตัวก่อน แกยังไม่หมดสติทันที แต่พูดวนไปวนมาไม่รู้เรื่องแล้ว ไม่มีเลือด แต่หัวบวมขึ้นมาทันที"

เห็นภาพนั้นแล้ว?
พัชราภรณ์ : "ก็ตั้งสติ แล้วโทร 191 จำเบอร์รถฉุกเฉินไม่ได้เลย สติไม่มี เราเลยขอให้ตร.โทรเรียกให้ด้วย สักพักตร.ก็โทรเรียกรถมา ประมาณ 20-30 นาที"

ทำไมคุณวีปักใจว่าการทำร้ายครั้งนี้เป็นคุณป้าร้อยล้าน?
วีรภัทร : "ก็ไม่มีศัตรู มีแต่ช่วยคน เรามีลูกค้าที่มาคุยกัน ถึงไม่ซื้อก็นั่งคุยกัน ไม่เคยทะเลาะกับใคร"

ป้าร้อยล้านเป็นใคร?
วีรภัทร : "เขาปล่อยเงินกู้รายใหญ่บริเวณนั้น ผมเดาว่าเขามีลูกค้าร้อยกว่าคนขึ้น ไม่ว่าพนักงาน เจ้าของร้านค้า เจ้าของแผงลอยเยอะมาก"

ตอนไปรักษาเสียเงินไปเท่าไหร่?
พัชราภรณ์ : "ใช้เยอะค่ะ เพราะตอนแรกเข้าไปที่แพทย์รังสิต เพราะใกล้ที่สุด เราไม่รู้ว่าเป็นเอกชนด้วย ต้องใช้เงินสดเลยเป็นแสน"

วีรภัทร : "ตอนฟื้นฟู เราก็ต้องใช้เงิน ทำกายภาพ ไม่สามารถทำมาหากินได้"

เงินเป็นแสนเอามาจากไหน?
วีรภัทร : "หยิบยืมจากญาติพี่น้อง"

อาการเป็นไง?
วีรภัทร : "ปัจจุบันพูดตะกุกตะกัก ติดๆ ขัดๆ หมอบอกว่าจะสูญเสียไปประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ดีที่เดินได้ ธรรมดาลุกไม่ได้เลย"

คดีคืบหน้าไปถึงไหน?
วีรภัทร : "คืบหน้ามากๆ ตอนนี้กำลังประชุมที่ภาค 1 ผู้การสั่งการเองทุกวัน"

ตอนนั้นมีอะไรที่ลำบากใจ?
วีรภัทร : "เขาฝังใจเสียงไม้ที่ตี"

พัชราภรณ์ : "รู้สึกสงสารป๊าที่โดนตี (ร้องไห้) เหมือนเราขาดเสาหลัก (ร้องไห้) ตอนแกอยู่ห้องวิกฤต 4 คืน ไม่รู้ว่าแกจะฟื้น จะรับรู้อะไรหรือเปล่า เวลาไปเยี่ยมเขาก็เบลอตลอดเวลา ไม่มองอะไร เราไม่รู้เขาจะรอดหรือไม่รอด ในใจเราคิด เราภาวนาให้เขารอด เขาวิกฤตอยู่ 4 คืน (ร้องไห้) ตอนฟื้นมาก็ตอบโต้ไม่ได้ ต้องมาฝึกใหม่หมดเลยเหมือนเด็กอนุบาล สมองกระทบกระเทือน แต่อยู่ที่เราพัฒนาให้เหมือนเด็กแรกเกิด หมอบอกว่าต้องใช้ความใกล้ชิดของคนในครอบครัว ทั้งลูกทั้งอะไรต้องเข้ามาคุย"

ตอนนั้นห่วงเรื่องอะไร?
พัชราภรณ์ : "ห่วงทุกอย่าง สงสารแก อายุขนาดนี้ไม่น่าจะโดน (ร้องไห้) เราก็ต้องเป็นหัวหน้าครอบครัวเอง (ร้องไห้) ออกมาขายข้าวผัดปูต่อไป"

วีรภัทร : "ผมพยายามฟื้นฟูและกลับมาขาย แต่พูดคุยกับลูกค้าได้ไม่เหมือนสมัยก่อน แต่ผัดได้อะไรได้"

ช่วงเฝ้าไข้กี่เดือน?
พัชราภรณ์ : "อยู่รพ.แพทย์รังสิต 4 คืนเพราะค่ารักษาเราไม่ไหว ย้ายไปอยู่ภูมิพล 14 คืน แล้วช่วงโควิดขอออกจากรพ.ไปรักษาตัวต่อที่บ้านเพราะมีคนไข้เยอะ รพ.แน่น"

ผ่านไปเท่าไหร่ถึงกลับมาทำมาหากิน?
วีรภัทร : "ก็ตัดสินใจว่าต้องออกมา ไม่งั้้นเราไม่มีกิน ทางเซียร์ให้โอกาสถึง 1 มิ.ย. ถ้าเราไม่มาต่อสัญญาเขาจะให้เราออก แต่มันเป็นที่ทำกินของเรา ตอนนี้ต่อสัญญาแล้ว"

ถ้าหากเจอเจ้าหนี้โหดแบบนี้ เราทำอะไรได้บ้าง?
รณณรงค์ : "ต้องไปแจ้งตร. ถ้าไม่ไว้ใจตร. ให้ไปที่ศูนย์ดำรงธรรมเขามีทั้งทหาร เจ้าหน้าที่ปกครองดูแลอยู่ เข้าใจว่าลูกหนี้จะกลัวเพราะคนปล่อยกู้มักอ้างว่าจ่ายส่วนตร.แล้ว ตร.ไม่กล้าจับ ทำให้ลูกหนี้ไม่ไว้ใจตร.ในพื้นที่ ก็ไปศูนย์ดำรงธรรมให้ทหารจับแทน"

ตร. จะต้องทำยังไง เมื่อเกิดกรณีแบบนี้?
รณณรงค์ : "ถ้ามีหลักฐานชัดเจน สามารถออกหมายจับได้ภายในวันสองวัน ไม่ต้องรอ แล้วถ้าใครเจอเหตุการณ์แบบนี้ไม่ต้องรอให้รักษาหายแล้วไปให้ปากคำ ถ้ามีพยานแวดล้อมเห็นเหตุการณ์ เป็นประจักษ์พยาน ก็สามารถให้ปากคำได้แล้ว"

มีกฎหมายว่าด้วยการทวงหนี้ ทำไมเจ้าหนี้โหดแบบนี้?
รณณรงค์ : "พรบ.ทวงหนี้ที่ออกมา เขาบอกเลยว่าการทวงหนี้ต้องไม่ใช้กำลัง ห้ามใช้ความรุนแรง การใช้กำลังมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 5 แสน แสดงว่าทุกพื้นที่ที่ปล่อยกู้นอกระบบเขาไม่กลัวกฎหมาย เขาคิดว่าเขาเคลียร์ได้หรือเปล่า ต้องยอมรับว่ามีคนมาร้องเรียนผมเหมือนกันเรื่องกู้นอกระบบ คนปล่อยกู้เขาก็มีความรู้ด้านกฎหมาย เขาไม่ออกใบเสร็จหลักฐานว่าเขาเก็บนอกระบบ เมื่อไม่มีหลักฐานเอาอะไรไปกล่าวหาเขาในศาลล่ะว่าเขาปล่อยกู้นอกระบบ คดีนี้ออกหมายจับใช่ แต่ในชั้นศาลจะไปถึงมั้ย ต้องดูว่าผู้กำกับการปทุมธานี จะเอาผิดในศาลได้แค่ไหน แก๊งกู้ระบบเขารู้กฎหมาย ไม่ง่ายเลยจริงๆ"

แต่ครั้งนี้ออกมาแถลงเยอะ ว่าไง?
รณณรงค์ : "คดีนี้สะเทือนขวัญ สะเทือนอารมณ์ ทำกับคนสูงอายุ แล้วพื้นที่ที่เกิดไม่ได้ห่างจากกทม.เลย โซนรังสิตนี่เอง มันต้องมีความชัดเจนว่าจับได้หรือไม่ได้ แล้วพื้นที่รังสิตเป็นพื้นที่เจ้าพ่อเจ้าแม่เงินกู้ ก็เป็นการวัดดูว่าในพื้นที่จะกำกับดูแลการปล่อยกู้นอกระบบได้มากน้อยแค่ไหน"

ตอนนี้คุณวีและคุณพัชต้องรอตร. ศูนย์ดำรงธรรม แล้วเรื่องจะถึงศาลมั้ย?
รณณรงค์ : "ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนจะรวบรวมหลักฐานได้มากน้อยแค่ไหน ถ้ามีหลักฐานเห็นตอนทำร้ายร่างกายก็ออกหมายจับได้แล้ว ทำร้ายมีเหตุจูงใจเรื่องอะไร ถ้าทวงหนี้ก็ผิดพรบ.ทวงถามหนี้เพิ่มอีก อันนี้มันทำร้ายสาหัส เวลาพิจารณาโทษ ศาลก็จะมองพฤติการณ์ว่าอย่างนี้เป็นภัยต่อสังคม ทวงหนี้เกินอัตราก็ผิดอยู่แล้ว แต่นี่ยังใช้ความรุนแรงในการทวง ทำร้ายเพื่อหวังผลให้ลูกหนี้รายอื่นยินยอมและมอบหนี้ให้กับคุณ มันต่างจากแก๊งมาเฟียตรงไหน"

ตอนนี้คุณวีผ่อนหนี้มั้ย ?
วีรภัทร : "ไม่ผ่อน เขาตั้งใจให้ผมเป็นตัวอย่างเลย"

ความหวาดกลัว?
วีรภัทร : "มีทุกวัน ถ้าเขาไม่จับกุม หวาดกลัวทุกวัน"

พัชราภรณ์ : "ถ้าคุณป้ายังไม่โดนดำเนินคดี ก็ใช้ชีวิตหวาดผวา เจอคนแปลกหน้าก็ระแวงไปหมด การใช้ชีวิตเปลี่ยนไปหมดเลย"

ทนายคิดว่าโทษคนที่โหดร้ายจะประมาณไหน?
รณณรงค์ : "ผมกำลังชั่งใจว่าเขาพิสูจน์ได้หรือเปล่าว่าเขารับจ้างมาตีลุง ถ้าพิสูจน์ได้อัตราโทษไม่เกิน 5 ปี ก็ได้แค่นั้น"

คุณวี-คุณพัช ถ้าเขาโดน 5 ปี รู้สึกยังไง?
วีรภัทร : "ถ้าปีที่ 6 ผมก็กลัวอีก ไม่รู้เขาจะมาซ้ำอีกหรือเปล่า เพราะหลังจากที่ผมรักษาตัว เขาก็มีการสื่อให้รู้ว่าเขาจะซ้ำ เขามีเงิน เขาจะจ้างใครก็ได้"

รณณรงค์ : "อยู่ที่ตร.ปทุมธานี จะขุดรากถอนโคน ขบวนการแก๊งเงินกู้ได้หรือเปล่า จับกุมแล้วก็เอามาเปิดเผยแถลงชัดว่าทำไมคนปล่อยกู้ในปทุมธานีถึงไม่โดนตร.จับ มันเป็นนโยบายของสำนักงานตร.แห่งชาติด้วย ว่าในช่วงโควิด-19 จะไม่มีแก๊งเงินกู้ที่ไหนออกมาเพ่นพ่านในพื้นที่ตัวเอง"