“เอ็มมี่ แม็กซิม” บนไอ้ไข่รอดคดีโกงแชร์ 28 ล้าน ดีใจน้ำตาไหลโจทก์เห็นใจยอมถอนฟ้อง ได้ปลดกำไล EM วอนสังคมเห็นใจให้โอกาสทำงานในวงการบันเทิง เผยเคยคิดสั้นฆ่าตัวตาย ขอบคุณครอบครัว เพื่อนๆ และทนาย คอยให้กำลังใจเสมอ ลั่นเตรียมฟ้องลูกหนี้แชร์สิ้นเดือนนี้
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 มิ.ย. “เอ็มมี่ อมลวรรณ กิตติศิริรัตน์” หรือ “เอ็มมี่ แม็กซิม” เดินทางมายังศาลจังหวัดนนทบุรี หลังโดนผู้เสียหายเข้าแจ้งความในกรณี “คดีโกงแชร์ 28 ล้าน” ย้อนกลับไปเมื่อปลายปีที่แล้ว 1 ในโจทก์ที่ยืนฟ้องได้ทำการถอนฟ้องไปแล้ว เนื่องจากเข้าใจและเห็นใจในตัวของจำเลย ส่วนในวันนี้ โจทก์ที่เหลืออีก 7 คน ที่ก่อนหน้านี้ได้รวมตัวฟ้องในคดีฉ้อโกง ได้เดินทางมาศาลเพื่อไกล่เกลี่ยพร้อมถอนฟ้อง รวมไปถึงศาลยังมีคำสั่งให้ถอดกำไล EM ออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากนี้ เจ้าตัวจะทำการใช้หนี้ตามคำสั่งศาล อนึ่ง คดีฉ้อโกงประชาชน ที่ศาลอาญามีนบุรีจำนวน 1 คดี ที่มีโจทก์ร่วมฟ้องจำนวน 10 คน มูลค่า 5 ล้านบาท ศาลอาญามีนบุรีได้มีคำพิพากษายกฟ้องไปแล้ว
โดย “เอ็มมี่ แม็กซิม” ได้เดินออกมาจากศาลด้วยสีหน้าสดใส พร้อมรอยยิ้มและโชว์ข้อเท้าที่ตอนนี้ได้ปลดกำไล EM ไปแล้ว และได้เปิดใจต่อสื่อมวลชนพร้อมน้ำตา ลั่นเหมือนได้เกิดใหม่ หลังถูกคนตราหน้าด่าว่าไอ้คนขี้โกง อีหน้าด้าน อีเลว ในคดีแชร์ 28 ล้าน เผยบนไอ้ไข่ขอให้คดีราบรื่น เตรียมบินไปรำแก้บน ขอบคุณโจทก์ทั้ง 7 คน ที่ยอมให้ไกล่เกลี่ย ดีใจที่ได้ปลดกำไล EM พร้อมขอโอกาสผู้ใหญ่อีกครั้งในวงการบันเทิง ยอมรับว่า ครั้งหนึ่งเคยอยากฆ่าตัวตาย เพื่อจะให้ทุกอย่างจะได้จบ ด้านทนายเผยเตรียมรวบรวมหลักฐานฟ้องลูกแชร์ที่โกงเงินไปปลายเดือนนี้แน่นอน
“วันนี้รู้สึกดีใจมากๆ นะคะ (เสียงสั่น) ที่ได้ปลดกำไล EM วันนี้มาเพื่อที่จะปลด EM ค่ะ เพราะศาลท่านบอกว่าคดีที่โดนฟ้องฉ้อโกง มันไม่ได้เป็นคดีอาญาค่ะ ไม่ได้เกิดการฉ้อโกง แต่ในส่วนของคดีแพ่ง เราก็ยังต้องรับผิดชอบต่อไป ในฐานะที่เป็นเท้าแชร์ค่ะ”
“เขาถอนฟ้องค่ะ คือ ศาลท่านน่ารักมากเลย ให้ปรับความเข้าใจกันค่ะ เพราะว่าจริงๆ มันไม่ได้เป็นคดีอาญานะ มันไม่ได้เป็นการฉ้อโกงนะ คุยกันก่อนไหม พอคุยกันแล้ว ทั้งทนาย ทั้งโจทก์ ทุกคนก็เข้าใจในตัวเอ็มมี่มากขึ้นค่ะ ทุกคนก็ยอมถอนฟ้อง”
“ก็มีคุยกันว่าในส่วนคดีที่ยังเป็นแพ่งอยู่ เอ็มมี่ก็ยังขอชำระไป ก็ขอแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อไป (เป็นจำนวนเท่าไหร่ในคดีแพ่งของทั้ง 7 คน?) คือ จริงๆ ก็หลักล้านค่ะ แต่เรายังไม่ขอพูดจำนวนดีกว่า ก็มีการเซ็นสัญญากัน ระยะเวลาเขาก็ให้หลายปีค่ะ โจทก์ก็น่ารักค่ะ”
ไม่มีโอกาสได้คุยกับโจทก์ก่อนมาเจอกันต่อหน้าศาล
“ไม่มีโอกาสเลยค่ะ เพราะว่าเหมือนทุกคนเขากำลังโกรธอยู่ เอ็มมี่ก็เงียบๆ ไว้ดีกว่า”
ดีใจน้ำตาไหลได้ปลดกำไล EM ขอโอกาสผู้ใหญ่ จ้างงานจะได้มีเงินไปใช้หนี้ ไม่ต้องการคำขอโทษหลังถูกมองเป็นอีขี้โกง ขอแค่ได้ทำงานที่รักก็พอแล้ว
“มันเป็นความรู้สึกที่ (เสียงสั่น) มันบอกไม่ถูก มันดีใจมาก มันเหมือนเอ็มมี่ได้มีชีวิตใหม่ ได้เกิดใหม่ ก็ขอโอกาสทุกคน ขอโอกาสผู้ใหญ่ทุกๆ ท่าน หนูได้แสดงความบริสุทธิ์ใจมาตลอดระยะเวลาหลายปี ที่หนูต้องทนทุกข์ทรมานกับกำไล EM (เสียงสั่น) หนูก็อยากให้โอกาสตัวเองได้พิสูจน์ฝีมือในเรื่องของวงการบันเทิง การละคร การร้องเพลงที่เอ็มมี่รัก แล้วก็อยากให้ผู้ใหญ่เมตตา อยากให้ทุกคนจ้างงานเอ็มมี่ เพราะถึงแม้ว่าทุกอย่างจะถูกถอนฟ้องแล้ว ตัวเอ็มมี่ก็ยังจะต้องรับผิดชอบในการใช้หนี้อยู่เหมือนเดิมค่ะ”
“แล้วจากนี้ต่อไปก็ขอให้ทุกคนให้โอกาสเอ็มมี่บ้าง เอ็มมี่ต้องทนกับคำว่าอีเลว อีขี้โกง มาตลอดระยะเวลาหลายปี ก็อยากให้คนเข้าใจในตัวเอ็มมี่ว่า ณ วันนี้หนูได้แสดงความบริสุทธิ์ใจแล้ว (ร้องไห้) หนูไม่ได้อยากรับคำขอโทษอะไรจากใคร แต่หนูแค่อยากขอโอกาสว่าให้หนูได้ทำงานที่หนูรัก ได้อยู่ในวงการบันเทิงที่หนูใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กๆ ก็อยากให้ผู้ใหญ่เมตตาแล้วก็มองเห็นเอ็มมี่บ้าง จะได้กลับไปเล่นละครค่ะ”
เผยตอนมีกำไล EM ยังถ่ายละครอยู่ เพราะโชคดีที่ผู้ใหญ่เมตตา แต่กับบางคนจากสนิทกลายเป็นไม่รู้จัก
“คือจริงๆ ก็ยังได้ถ่ายละครเหมือนเดิมนะคะ โชคดีที่ผู้ใหญ่เมตตา แต่ว่ามันก็ไม่ได้ทุกคนค่ะ บางคนก็จากที่เคยคุยกับเราตลอด เราก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาแล้ว ณ วันนี้หนูพิสูจน์มาหลายปีแล้ว พร้อมกับทนายทุกคนก็อดทนมาก หนูไม่ได้มีเงินให้พวกพี่ๆ เขาเลยนะ ทุกคนอดทนกับหนูมาก ขอแค่มีข้าวให้พี่ๆ เขากิน ก็ขอบคุณทุกคนมากๆ”
บทเรียนที่ได้ในครั้งนี้เกิดจากความโง่ และใจดีเกินไป เห็นคนอื่นสำคัญกว่าตัวเองและคนในครอบครัว
“ถ้าถามถึงบทเรียน ก็อาจจะเป็นเพราะว่าเราโง่มั้ง ใจดีเกินไป เรารักคนอื่นมากกว่าตัวเอง เราเห็นความสำคัญของคนอื่นมากกว่าของตัวเอง ของคนในครอบครัว สุดท้ายแล้วคนที่เราช่วยเหลือเขา เราให้เขา กลับเป็นคนมาทำให้ทุกคนฟ้องเรา ทำให้เราต้องมาทุกข์ทนทรมานตลอดระยะเวลาหลายปี”
ไม่มองเป็นตราบาปในชีวิต เพราะไม่ได้ทำผิด แค่ให้ใจคนอื่นมากเกินไป จนไม่ระวังตัวเอง
“คือจริงๆ สำหรับตัวเอ็มมี่เอง เราพูดเสมอว่าเราไม่ได้ทำผิด แต่อาจจะเป็นความผิดพลาด อย่างที่บอกว่าการบริหารงานของเรา เราใช้ใจบริหาร เราก็เลยให้ใจคนอื่นมากเกินไป ซึ่งเราคิดว่า เราดีกับเขา เขาจะไม่ทำร้ายเรา แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ เอ็มที่อยากบอกทุกคนว่าจากนี้ต่อไป ให้ระวังตัวเองให้ดีมากๆ เลย คนที่ดีกับเราที่สุด ที่ใกล้ตัวเราที่สุด มันอันตรายที่สุดจริงๆ”
ขอบคุณกำลังใจจากทุกคนที่รักและเมตตา
“จริงๆ ตอนแรกท้อแล้วนะ ตั้งแต่ไม่มีเงินประกันตัวแล้ว ทุกคนก็บอกว่าท้อทำไม แล้วที่พวกเขานั่งหาข้อมูลกันทั้งวันทั้งคืนล่ะ มันคืออะไร ทนายก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เอ็มมี่สู้นะคะ แล้วก็แม่ ลูก เพื่อนๆ แล้วอย่างละครที่เอ็มมี่เล่น เอ็มมี่รู้แล้วว่าตัวเองต้องโดนปลดแน่ๆ เพราะเอ็มมี่ได้เป็นนางเอก พอติด EM ปุ๊บ ก็คิดว่ามันจบแล้ว อนาคตนางเอกไม่มีแล้ว หนูก็เลยตัดสินใจโทรหาพี่ชายแฮ็คส์ ว่าพี่ปลดหนูไหม เพราะหนูมี EM มันทำให้ละครพี่ดูไม่ดี (ร้องไห้) พี่เขาก็ตอบกลับมาว่า ปลดทำไม ฉันเข้าใจ มันทำให้รู้สึกว่าคนที่รักและเมตตาเอ็มมี่จริงๆ ก็มีนะ”
เผยก่อนหน้านี้ เคยคิดสั้นฆ่าตัวตาย แต่คิดถึงคำพูดลูก ที่บอกว่าอยากเป็นเหมือนตัวเอง เลยเหมือนได้ปลดล็อกชีวิต
“ใช่ค่ะ คือมันหมดแล้วทุกอย่างที่สร้างมา มันสร้างมาด้วยใจ ด้วยมือของเอ็มมี่ มันหมดมันจบมันพังแล้ว แต่สุดท้ายแล้วก็มองเห็นลูก เพราะว่าอย่างเวลาไปทำงาน เขาชอบไปคุยกับพี่โบบี้ ว่าหนูอยากเป็นเหมือนแม่ เขาอยากเป็นเหมือนหนู หนูเลยรู้สึกว่าเราต้องทำให้ดีกว่านี้ เราต้องไม่อ่อนแอ ไม่ยอมแพ้ เขาบอกว่าหนูอยากเดินแบบเหมือนแม่ หนูอยากเป็นนักร้องนักแสดงเหมือนแม่ หนูไม่อยากให้แม่ทำแล้ว หนูอยากเป็นแทนแม่ มันเลยทำให้เรามีความรู้สึกว่าเขาคือทุกอย่าง เขาคือคนที่เข้ามาปลดล็อกชีวิตเอ็มมี่ค่ะ”
หลังจากนี้ทำอะไรก็จะคิดถึงตัวเองให้มากๆ
“มันก็ตั้งแต่จะติดคุกแล้วค่ะ มันมีความรู้สึกว่าอย่าใจดีกับคนอื่นมาก พอแล้วรักตัวเองหน่อย เพราะที่ผ่านมา สมมติว่ามีร้อย ก็ให้เขาเก้าสิบเก้า ตัวเองเอาไว้แค่บาทเดียว มันเลยมีความรู้สึกว่าอะไรที่เราคิดว่าทำดีกับเขาแล้วเขาจะไม่ทำร้ายเรา เราคิดผิด ต้องรักตัวเองให้มาก”
ขอโอกาสสังคมได้ทำงานในวงการบันเทิงอีกครั้ง รับไปบนไอ้ไข่ วัดเจดีย์ ให้รอดคดี แล้วจะไปรำแก้บนให้
“หนูอยากขอมากๆ สังคมไทยส่วนมากคนก็มองด้านเดียว พอเห็นข่าวว่า เอ็มมี่โกงแชร์ 28 ล้าน เอ็มมี่ก็กลายเป็นดีคนเลว อีคนขี้โกง แม้กระทั่งทนายไปทำคดีอื่น ก็โดนว่าไปทำคดีอีขี้โกง ก็เลยมีความรู้สึกว่าจากนี้ต่อไป ขอให้หนูเข้าไปอยู่ในใจทุกคนได้ไหม หนูพิสูจน์มาหลายปีแล้ว แล้วก็อยากให้ทุกคนให้โอกาสหนูได้มีที่ยืนบ้าง"
“ก็ต้องขอบคุณไอ้ไข่ ที่ไปบนไว้ด้วย เพราะตอนแรกเครียดมาก ว่าศาลจะตัดสินยังไง แล้วเวลาเราสืบพยาน คนก็น้อยมากที่จะมาเป็นพยานให้เรา ก็เลยบนไอ้ไข่ไว้ ว่าขอให้เรื่องมันง่าย ให้เขาเมตตาเรา พอเข้ามาถึงในศาลปุ๊บ ท่านก็บอกว่าให้คุยกัน คนเราควรให้โอกาสซึ่งกันและกัน ถ้าคุณอยากได้เงิน คุณก็ต้องให้โอกาสเขา ต้องให้กำลังใจกัน มันเลยทำให้รู้สึกว่าห้ะ มันง่ายขนาดนี้เลยเหรอ กับสิ่งที่เราเครียดมาตั้งหลายปี คือตอนบนก็ไม่รู้ว่าต้องใช้อะไรยังไง แค่บอกว่าไอ้ไข่ เดี๋ยวจะไปรำให้นะ จะเอาอะไรก็มาบอกเอ็มมี่แล้วกันประมาณนี้ค่ะ”
ตอนนี้ไม่เหลือคดีอะไรติดตัวแล้ว
“หมดแล้วค่ะ ทั้งศาลมีน ทั้งศาลนนท์ หมดแล้วค่ะ หนูไม่มีคดีแล้ว ให้โอกาสหนูด้วย”
เรื่องเช็คเด้งก็จะไปแจ้งความด้วย เพราะให้โอกาสไป 2 ปีแล้ว
“ใช่ค่ะ เช็คจำนวน 3,500,000 บาท มันเป็นเงินของหนู ที่เขาเอาของหนูไป แล้วเขาก็ขอโอกาสหนูมา 2 ปี ในการดำเนินการเรื่องเช็ค คือตอนนั้นเราให้ตำรวจไป แล้วตำรวจจับเขาแล้วนะ พอไปถึง สน. หนูก็บอกตัวเองว่าคอยดูนะ กูจะไม่ให้โอกาสมึงแล้ว กูไม่ยอมแล้ว แต่พอไปถึงก็โอเคค่ะ ก็เซ็นให้เขาเหมือนเดิม เพราะว่าเขาท้อง เราก็มีความรู้สึกว่าเด็กไม่เกี่ยว ก็ให้เด็กออกมาก่อน แล้วพอวันที่จะไปแจ้งความจริงๆ เขาก็โทร.มาบอกว่าอย่าเพิ่งเอาเช็คไปขึ้นนะ เอ็มมี่ก็โอเคให้โอกาส สรุปเขาก็ทิ้งหนูไปเหมือนเดิม”
เตรียมฟ้องลูกแชร์ที่โกงไปสิ้นเดือนนี้ ลั่น ! จะทำให้ได้รู้ว่าตายทั้งเป็นมันเป็นยังไง
“ก็อีกไม่นานนะคะ คนที่โกงเอ็มมี่ เอกสารทุกอย่างอยู่ในมือเอ็มมี่หมดแล้ว แล้วตัวคุณเองก็รู้อยู่แล้ว ก็ยังมีโอกาสอีกหนึ่งเดือน ให้โอกาสติดต่อเอ็มมี่มา ว่าเราจะเคลียร์กันยังไง จะชำระกันยังไง จะจ่ายกันยังไง แต่ในเมื่อคุณไม่ออกมา ก็ไม่เป็นไร ก็ถึงวันที่เขาต้องรู้แล้วค่ะว่าตายทั้งเป็นที่เอ็มมี่เป็นอยู่ มันเป็นยังไง”
ด้านทีมทนายได้เผยถึงความคืบหน้าเรื่องการฟ้องลูกแชร์ว่าตอนนี้อยู่ในช่วงตรวจร่างคำฟ้อง สิ้นเดือนยื่นแน่นอน เป็นเงินเท่าไหร่ยังบอกไม่ได้เพราะยังไม่นิ่ง
“ในส่วนของลูกแชร์ที่โกงไปตอนนี้ก็อยู่ในช่วงการตรวจร่างคำฟ้อง ภายในสิ้นเดือนนี้ก็จะยื่นฟ้องแล้ว ประมาณ 4-5 คนครับ จำนวนเงินขอเก็บไว้ก่อน เพราะว่ายอดมันยังไม่นิ่ง มันหลายล้าน”
“คือเบื้องต้นเขามาปรึกษาคดีกับผม ผมก็สอบถามข้อเท็จจริงแล้ว ในความคิดผมคดีนี้มันเกิดจากการบริหารการเงินไม่ได้เอง เอ็มมี่เขาไม่ได้มีทางโกงตั้งแต่ต้น เพระาเมื่อมีทางโกงตั้งแต่ต้น ลูกแชร์ก็ต้องไม่ได้เงินถูกไหมครับ”
การมาช่วยเป็นทนายให้เอ็มมี่ทำให้โดนด่าไปด้วย แต่ไม่ได้สนใจ
ทีมทนาย : “ในมุมนั้นผมไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่ เพราะว่าเราทำตามหน้าที่”
เอ็มมี่ : “เราก็สงสารเขา ที่ต้องโดนไปกับเราด้วย”
