ศาลเลื่อนสืบพยานที่เห็นเหตุการณ์คดีแทง “น้องเต้” อดีต นศ.อุเทนถวายเสียชีวิต ไป 25 ก.ย.นี้ เหตุแพทย์จิตเวชที่รักษาอาการป่วยของพยานติดภารกิจตรวจคนไข้ ไม่สามารถมาเบิกความได้ ด้านทนายผู้ตายไม่กังวล แม้พยานสำคัญอาจกลับคำให้การ เพราะถามแบบปรปักษ์ได้ แต่อยากให้พูดความจริง
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง พร้อมด้วยนางเรวดี ทัฬหสุนทร เดินทางมาศาลตามนัดสืบพยาน นายพีรวิชญ์ หรือตง ปุตตะจินารักษ์ ในคดีหมายเลขดำที่ อ.1089/2560 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 และนางเรวดี ทัฬหสุนทร ร่วมเป็นโจทก์ฟ้อง นายณัฐพงษ์ หรือโจ้ เงินคีรี เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ กรณีนายณัฐพงษ์ จำเลย ใช้อาวุธมีดแทงนายธนิต หรือเต้ ทัฬหสุนทร อายุ 23 ปี อดีต นศ.อุเทนถวาย จนถึงแก่ความตาย ช่วงสงกรานต์ปี 2559 ย่านดินแดง และวันที่ 23 ก.ค. 2561 ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องจำเลย จนนายศุภชัย พ่อนายธนิตเกิดความเครียดกระโดดจากชั้น 8 อาคารศาลอาญาเสียชีวิต โดยโจทก์ยื่นอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้สืบพยานโจทก์ประจักษ์พยานปากสำคัญเพิ่มเติมคือนายพีรวิชญ์ ที่ก่อนหน้านี้ระบุมีอาการทางจิต
นายอนันต์ชัยกล่าวว่า การสืบพยานวันนี้เป็นได้ 2 แนวทาง คือ แนวทางแรก นายพีรวิชญ์ หรือตง เบิกความว่าเห็นเหตุการณ์ หรือแนวที่ 2 เบิกความว่าไม่เห็นเหตุการณ์ ไม่เห็นการใช้อาวุธมีด คำพิพากษาก็จะเปลี่ยนไป ซึ่งแนวคำพิพากษาฎีกาจะยึดถือคำให้การในชั้นสอบสวนเป็นคำให้การที่ปัจจุบันทันด่วน หรือไม่มีเวลาต่อเติมเสริมแต่ง แล้วตอนหลังมากลับคำให้การ ศาลอาจจะไม่เชื่อ เป็นดุลพินิจในการชั่งน้ำหนักของศาล ฉะนั้น ถ้าเบิกความว่าไม่รู้เห็นไม่ทราบ ตนคิดว่าอัยการและตนต้องใช้ ป.วิ.แพ่ง มาตรา 117 วรรคหก คือ ถามแบบปรปักษ์ ปกติเราถามนำไม่ได้ว่าใช่หรือไม่ใช่ แต่ถ้าเขาเบิกความแตกต่างไปจากคำให้การชั้นสอบสวน เราจะต้องถามแบบปรปักษ์ ทำลายน้ำหนักพยานปากนี้ว่าให้การช่วยเหลือจำเลย หรือด้วยเหตุผลใดก็ตาม แม้จะเป็นการกลับคำ ศาลก็สามารถยกขึ้นมาวินิจฉัยได้ ไม่ว่าจะออกมาแนวไหน
นายอนันต์ชัยกล่าวว่า ตนปรึกษาอัยการแล้วก็ไม่ได้วิตกกังวล เพราะในใจตนก็มีธงอยู่แล้วว่าเขาจะพูดแบบไหน แต่ยังพูดไม่ได้ อยู่ในกระบวนการของศาล ตนไปเยี่ยมที่เรือนจำและพูดคุยกับเขาแล้ว แต่ไม่สามารถบอกได้ เราก็ทำหน้าที่เต็มที่ มาถึงจุดนี้ดีที่สุดแล้วที่ศาลอุทธรณ์เมตตาให้มีการย้อนสำนวนมาสืบใหม่ เป็นนิมิตหมายใหม่ ต่อไปกระบวนการยุติธรรมถ้าใครที่ไม่คิดจะเอาประจักษ์พยานมาเบิกความ โดยใช้กลเม็ดเด็ดพราย ข่มขู่ ซื้อตัวพยาน เอาไปเก็บ หลบหนี ก็จะใช้วิธีนี้ได้ในกระบวนการยุติธรรมของไทย
นายอนันต์ชัยระบุถึงคำให้การของตงว่า เหตุเกิดวันที่ 15 เม.ย. 2559 เขาให้การ 16 เม.ย. 2559 และ 17 เม.ย. 2559 เขายืนยันคำให้การเดิม และมีการชี้ผู้ต้องหา เป็นการยืนยันอีกที คำให้การของเขาไม่เกินความคาดหมายตั้งแต่ตอนแรกที่เขาไม่มา แต่การมาในวันนี้มีผลต่อการชั่งน้ำหนักพยานของศาลอุทธรณ์ ไม่ได้วิตกกังวล
ด้านนางเรวดีเปิดเผยว่า ตนมีความหวังมาก เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ขอบคุณทั้งท่านศาลอุทธรณ์และทนายความ ผู้สื่อข่าวทุกสำนักที่เมตตา รู้สึกดีใจขอบคุณทนายความที่ช่วยเหลือเราอย่างเต็มที่ คำให้การของนายพีรวิชญ์ หรือตง สำคัญมาก อยากให้เขาพูดความจริงมาตามที่เขาบอกตนว่าเห็นนายณัฐพงษ์เอามีดมาแทงเต้ เราติดใจมาตลอด
โดยในวันนี้ศาลเบิกตัวนายพีรวิชญ์ หรือตง พยานโจทก์ที่เห็นเหตุการณ์ซึ่งถูกคุมขังในคดีอื่นมาจากเรือนจำ ขณะที่อัยการโจทก์ ทนายความโจทก์และทนายความจำเลยมาศาล
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลานัด อัยการโจทก์แถลงต่อศาลว่า พยานโจทก์อีกปาก คือ แพทย์หญิงสถาบันจิตเวชศาสตร์ รพ.สมเด็จเจ้าพระยา มีหนังสือแจ้งว่าไม่สามารถมาเบิกความเป็นพยานในวันนี้ได้ เนื่องจากทุกวันพุธและพฤหัสบดีติดภารกิจต้องตรวจคนไข้
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์นั้นให้ทำการสืบพยานปากแรกซึ่งเป็นแพทย์ที่ตรวจรักษานายพีรวิชญ์ หรือตง เสียก่อน เมื่อพยานปากแรกติดภารกิจ จึงไม่สามารถดำเนินการสืบพยานได้ ให้เลื่อนไปสืบพยานอีกครั้งวันที่ 25 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.