ศาลอาญาเลื่อนสืบพยานคดีแกนนำ นปช.ปลุกม็อบชุมนุมไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ปี 2552 ไป 15 ก.ค.นี้ เหตุจำเลยบางรายขอเปลี่ยนตัวทนายความ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ (16 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณา 701 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์ คดีหมายเลขดำที่ อ.968/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อายุ 71 ปี อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.), นายจตุพร พรหมพันธุ์ อายุ 54 ปี ประธาน นปช., นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อายุ 44 ปี เลขาธิการ นปช. กับพวกรวม 13 คน เป็นจำเลยที่ 1-13 กรณีกลุ่ม นปช.จัดการชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ครั้งแรกเมื่อปี 2552
ในความผิดฐานร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาฯ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่อง ให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้มีหน้าที่สั่งการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ที่ห้ามชุมนุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธ
วันนี้แกนนำและแนวร่วม นปช.ที่เป็นจำเลยเดินทางมาศาล พร้อมเบิกตัวนายพายัพ ปั้นเกตุ จำเลยที่ 9 และนายพงศ์พิเชษฐ์ หรือพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง จำเลยที่ 10 ซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตามคำพิพากษาศาลฎีกาคดีล้มการประชุมอาเซียน มาศาล
ในการพิจารณา มีการยื่นหลักฐานยืนยันการเสียชีวิตของนายพีระ พริ้งกลาง จำเลยที่ 12 ศาลพิเคราะห์แล้วจำเลยที่ 12 ถึงแก่ความตาย เป็นเหตุระงับ ให้จำหน่ายคดีส่วนของจำเลยที่ 12 ออกจากสารบบความ ขณะที่นายอดิศร เพียงเกษ จำเลยที่ 11 ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาลับหลัง เนื่องจากจำเลยเป็น กมธ.วิสามัญของสภาฯ ต้องร่วมประชุม ไม่สามารถมาศาลได้ทุกนัด ศาลพิจารณาแล้วอนุญาต ส่วนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จำเลยที่ 3 และนายพิพัฒน์ชัย หรือสมชาย ไพบูลย์ จำเลยที่ 8 มีการแต่งตั้งทนายความใหม่ ติดว่าความที่ศาลอื่น ศาลจึงให้เลื่อนการสืบพยานโจทก์ไปเป็นวันที่ 15 ก.ค.นี้
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำและเลขาฯ นปช.กล่าวว่า ในวันนี้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรอง ผบช.น. เดินทางมาเป็นพยานโจทก์ แต่เนื่องจากว่ามีเหตุบางประการที่ฝ่ายจำเลยแถลงต่อศาล คือ ตนเองซึ่งเป็นจำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 8 ได้มีการรับแจ้งจากทนายความคนเดิมว่าถอนตัวจากการเป็นทนายความ จึงต้องแต่งตั้งทนายความคนใหม่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตาม วันนี้ทนายความคนใหม่ติดว่าความในคดีที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ นอกจากนี้ นพ.เหวง โตจิราการ ซึ่งเป็นจำเลยที่ 4 ก็แต่งตั้งทนายความใหม่เช่นกัน ศาลพิจารณาแล้วจึงอนุญาตให้เลื่อนสืบพยาน
“คดีนี้พวกเราต่อสู้ตามพยานหลักฐานมาตั้งแต่ต้น แต่ก็มีความหนักใจในการต่อสู้อยู่บ้าง โดยต้องต่อสู้คดีมายาวนาน 10 ปีแล้ว ส่วนผลจะเป็นอย่างไรก็อยู่ที่การวินิจฉัยของศาล”