xs
xsm
sm
md
lg

“เอ็มมี่” หอบหลักฐานขึ้นโรงพักทวงหนี้ลูกหนี้รายแรก 3.5 ล้าน เลิกใจดี หลังจากนี้ตามทวงหนี้อีก 10 กว่าคน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เอ็มมี่” ไม่ไหวแล้ว ตามล่าลูกหนี้มาใช้หนี้คืนตน 3.5 ล้านบาท ลั่นให้โอกาสมา 3 ครั้งแล้ว ต่อไปนี้ตนจะไม่ยอมเพราะตนก็ลำบากเหมือนกัน จากนี้ตอนนี้เดินหน้าทวงเงินลูกหนี้ที่ติดหนี้ตนทุกคน ประมาณ 10 กว่าคน โอดที่ผ่านมาตนใจดี ทำสูญเงินหลายล้านแล้ว

เรียกว่าช่วงนี้ขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นว่าเล่นเลยทีเดียว สำหรับนักแสดงสาว “เอ็มมี่ อมลวรรณ กิตติศิริรัตน์” หรือ “เอ็มมี่ แม็กซิม” ที่หลังจากวันก่อนขึ้นศาล มาวันนี้ (22 มิ.ย.63) ขึ้นโรงพักอีกแล้ว โดยเมื่อช่วงสายวันนี้สาวเอ็มมี่ได้เดินทางมายัง สถานีตำรวจภูธรพระประแดง เพื่อเข้าร้องทุกข์ดำเนินคดีเช็คเด้ง มูลค่า 3.5 ล้านบาท กับลูกหนี้รายแรก ที่ก่อนหน้านี้เคยเล่นแชร์ด้วยกันมา แล้วก็มาขอยืมเงินตนไปทั้งสิ้น 5 ล้านบาท ซึ่งตนเคยดำเนินการไกล่เกลี่ยมาแล้ว 3 ครั้งแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล จนเจ้าตัวทนไม่ไหว โร่ขึ้นโรงพักขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับคู่กรณีอีกครั้งหนึ่ง

“มาร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีเช็คเด้ง 3.5 ล้าน คดีนี้มันยืดยาวมากเลย เราเป็นคนใจอ่อน ให้โอกาสเขามาแล้ว 3 รอบ ครั้งแรกเราให้โอกาส ครั้งที่สองเขาผิดเงื่อนไข ก็ให้ตำรวจเข้าชาร์จ จับมาที่นี่ คุณแม่เขาโทร.มาขอร้องเรา เราก็บอกตัวเองว่าไม่ใจอ่อนแล้ว ตัวเราเองก็เดือดร้อน ไม่มีเงิน เอาตรงๆ ชีวิตเรามีเงินที่จะไปใช้หนี้คนอื่น แต่ทุกวันนี้มันกลายเป็นว่าเราทั้งไม่มีเงินไปใช้หนี้ทั้งไม่มีเงินกินด้วย”

“พอมาถึง สน. เขาก็มาท้องแก่กำลังจะคลอดอีกไม่กี่เดือน ก็คิดว่าเด็กไม่เกี่ยว ก็ให้โอกาสเขาด้วยการไปคลอดลูกแล้วค่อยมาเคลียร์กับเรา ก็ให้โอกาสเขามาประมาณ 1 ปีกว่าจากครั้งที่แล้วที่คุยกัน ก็ให้เขาเขียนเช็คเซ็ตใหม่ให้ 3.5 ล้าน ให้เอามาให้เอ็มมี่ เขาบอกขอเริ่มปีนี้ 30 เมษายน พอใกล้จะถึงเวลา เขาโทร.มาบอกเราว่าอย่าเพิ่งเอาเช็คไปขึ้นได้ไหม เพราะเขายังไม่มีเงิน ยังไม่ได้เอาเงินเข้า คือถ้าเอ็มมี่เอาไปเข้ามันก็เด้งเลย เขาก็บอกขอโอกาสเป็นวันที่ 5 พฤษภาคม เราก็รอจนถึงวันที่ 5 แต่เขาหายไปเลย”

อดทนรอ1 เดือนแต่ก็ยังเงียบ
“เอ็มมี่ก็ให้โอกาสอีก 1 เดือนเลย แล้วก็โทร.หาแม่เขา ว่าแม่คะรบกวนช่วยบอกลูกสาวคุณแม่ว่าช่วยเอาเงินมาคืนหนูหน่อย เพราะมันเป็นคดีอาญานะ เช็คมันเด้งอีกแล้ว แต่หนูยังไม่ได้แจ้งความนะ คุณแม่จะเอายังไงดี รบกวนบอกลูกสาวคุณแม่ด้วย ตอนนี้เขาหลบอยู่ คุณแม่หายไป 2 วัน แล้วโทรกลับมาว่าถ้าอยากได้ความสะใจก็ไปแจ้งความจับลูกเขาเลย ทำไมถึงไม่ให้โอกาสกัน เอ็มมี่ก็คุณแม่ขา หนูให้โอกาสคุณแม่มาแล้ว 3 รอบ ทั้งๆ ที่ตัวเองเดือนร้อนมาก รอบที่แล้วเขาก็เอารถมาวางที่เราเพื่อให้เรามั่นใจว่าเราจะได้เงิน เอ็มมี่ก็บอกเขาไปว่าไม่ต้องหรอก เอารถมาตัวเอ็มมี่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเอ็มมี่โดนจับเหมือนกัน”

“ก็บอกให้เขาเขียนเช็คมาให้ใหม่ คุณแม่เขาก็บอกว่าถ้าจะไม่ช่วยกันก็จับไปเลยเพื่อความสะใจ ก็บอกเขาไปว่าพูดให้เป็นผู้ใหญ่กับเอ็มมี่หน่อย เอ็มมี่บอกว่าทั้งชีวิตเอ็มมี่ช่วยลูกสาวคุณแม่มาโดยตลอด 3 ครั้งแล้ว เอ็มมี่รอมาหลายปีแล้วกับเงิน 3.5 ล้าน เริ่มต้นที่เอ็มมี่ต้องมาเดือดร้อนก็เพราะลูกเขาเลย จำได้ไหมว่าที่คุณแม่มาร้องไห้ขอโอกาสกับหนู หนูก็ให้โอกาสแล้วนะ”

แจงเงิน 3.5 ล้านมาจากอีกฝ่ายขอกู้ยืนเงินตนไป โดยที่ตนลดหนี้ให้แล้ว เดิมทีอีกฝ่ายยืมเงินไป 5 ล้านบาทแบบไม่รวมดอกเบี้ย
“เขามาทั้งขอยืม และกู้เงิน แรกๆ เขาก็ใช้ให้นะ เหมือนเขาเอาเงินไปหมุน พอหมุนไม่ทันจริงๆ ก็มีปัญหา แม่เขาก็เถียงเอ็มมี่ว่าเงินจริงๆ มันไม่ใช่ 3.5 ล้านนะ เราเลยบอกคุณแม่หยุดคะ ยอดเงินจริงๆ ไม่มีดอกเลยคือ 5 ล้าน แต่ลูกคุณแม่มาขอว่าอย่าเอาถึง 5 ล้านเลย ช่วยๆ กันหน่อย เลยให้ 3.5 ล้าน ก็ไม่ได้เอาอะไรเลย ขาดทุนก็ยอม เรายอมหมดแล้วทุกอย่าง ให้โอกาสคนมาเยอะมากแล้ว เสียใจที่คุณแม่มาพูดแบบนี้กับเอ็มมี่”

บอกให้ยืมเพราะใจแลกใจ ไม่ได้สนิทกันเป็นการส่วนตัว รู้จักผ่านโซเชียลที่อีกฝ่ายมาเล่นแชร์กับตน
“ไม่ได้สนิทค่ะ เมื่อก่อนเอ็มมี่ทำธุรกิจแชร์ เงินมันโฟล เอ็มมี่สามารถหาเงินได้วันๆ นึง มันมากกว่า 1 ล้าน ฉะนั้นเอ็มมี่ก็เลยให้เขายืม เอาดอกเบี้ยนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอก เราก็ไม่เสียดาย เอาตรงๆ คนที่เข้ามาเล่นแชร์กับเอ็มมี่มาจากทางโซเชียลหมดเลย มันไม่มีใครที่รู้จักมักจี่กันมาก่อน ออกแนวใจแลกใจ

“คือรู้จักเขาเพราะเขามาเล่นแชร์กับเรา แต่อันนี้ไม่เกี่ยวกับแชร์ อันนี้เขากู้เงินเราไป ตอนแรกยังมีคุยกันว่าเรามาหาธุรกิจอะไรทำด้วยกัน เราก็อยากช่วยเขา เราเปิดท้าวแชร์มาแล้ว 2-3 บ้าน โดนโกงมาแล้ว 200 ล้าน แต่ 200 ล้านไม่ได้ทำให้เราเดือดร้อน ถ้าเลขาคนนั้นโกงไปแล้วคิดว่าทำให้ชีวิตเขาดีขึ้นก็ทำไป เราคิดแบบนี้ว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวเราสร้างใหม่ เราก็สร้างแบบนี้มาโดยตลอด โดยที่ไม่คิดเอาเรื่องใครเลย มีแต่ทำให้เขาชีวิตดีขึ้น ณ วันนี้อย่าเพิ่งเบื่อเอ็มมี่นะถ้าเห็นตามสื่อต่างๆ ให้เข้าใจหน่อยว่ามันถึงเวลาที่เราต้องมาเอาของๆ เราคืนบ้าง เพราะที่ผ่านมาให้คนอื่นมาเยอะ ก็ให้กำลังใจเอ็มมี่หน่อย”

เผยอีกฝ่ายทำธุรกิจก็ดูไปได้สวย ตนขอแค่ใช้เงินคืนเดือนละ 1 แสนบาท ทำไมถึงทำให้ไม่ได้
“การทำแต่ละครั้ง เอ็มมี่ไม่ได้ทำกันเองนะคะ ก็จะมีท่านผู้กำกับมาช่วยทำด้วย ก่อนหน้านี้มีไปแจ้งความที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้สุ่มสี่สุ่มห้าทำเพื่อจะเอามาเมกให้เป็นข่าว ไม่มีเลยนะคะ เอกสารทั้งหมดนี้เป็นของคนเดียว ยอดมัน 3.5 ล้าน เช็คก็ตีไป 35 ใบ ก็อยากจะบอกเขานะว่าวันที่คุณอยากได้เงินจากเอ็มมี่ แค่พูดว่าตัวเองโอนเงินให้หน่อย ไม่ถึง 1 นาที 1 ล้าน 2 ล้าน เอ็มมี่โอนเลย เอ็มมี่ไม่เคยขัดข้องเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นถ้าคุณจะไม่คืน ไม่เป็นไร เราก็ให้ดำเนินคดีตามกฏหมาย แต่ก็แค่เสียใจที่แม่คุณพูดกับเอ็มมี่แบบนั้น แค่นั้นเอง แต่ ณ วันนี้ แค่เดือนละแสน เอ็มมี่ขอเอาเงินตัวเองคืน โดยไม่เอาดอกเบี้ยเลยแม้แต่บาทเดียว ขอคืนแค่นี้ไม่ได้เหรอ ธุรกิจที่คุณทำมันก็ได้เงินดีนะ”

บอกทางตำรวจรับร้องทุกข์ ดำเนินคดี ซึ่งที่ผ่านมาอีกฝ่ายตกลงจะคืนเงินให้ตนเดือนละ 1 แสนบาท แต่ก็ไม่เคยได้เลยสักครั้งเดียวทั้งๆ ที่ตนมีสัญญา
“ก็ให้ร้องทุกข์เลย แล้วดำเนินคดีได้เลย เขาก็จะออกหมายจับแล้ว ก่อนหน้านี้มีออกหมายจับไปแล้วจับเขาได้แล้ว แต่เราก็ให้โอกาสเขาเห็นว่าเขาท้อง ซึ่งก่อนหน้านี้ตกลงกันว่าเขาจะใช้คืนเราเดือนละ 1 แสน แต่ก็ไม่เคยได้เลยสักครั้ง ไม่เคยได้เลยสักบาทเดียว”

“ทั้งๆที่ เอ็มมี่มีสัญญานะคะ เอ็มมี่ให้ลง 3.5 ล้าน เพราะว่าเราตกลงกันแล้ว แล้ววันที่ทำสัญญาก็ทำกับผู้กำกับ ไม่ได้ทำกันเอง เราต้องมีผู้ใหญ่มาคอยการันตีเราด้วยว่าเราทำเรื่องจริง ไม่ได้โกหก หรือสร้างเรื่องเมกขึ้นมา ที่มาวันนี้คือเราให้โอกาสอีกรอบไปแล้ว ให้มา 3 ครั้งแล้ว เอ็มมี่เชื่อว่าไม่มีคนดีที่ไหนทำชั่วถึง 3 ครั้งในเรื่องเดียวกัน เอ็มมี่กล้าพูดได้ แต่เขาไม่สนใจเอ็มมี่เลย แล้วคุณแม่เขาก็มาพูดให้เอ็มมี่รู้สึกเสียใจมากว่าทำไมคุณแม่เขาพูดแบบนี้"

ลั่นยืนยันว่าจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด ตอนนี้เดินหน้าทวงเงินลูกหนี้ที่ติดหนี้ตนทุกคน
“ ยืนยันค่ะ เพราะที่ผ่านมา เราไม่เหลืออะไรแล้ว เรามาขอเอาของๆ เราคืน แล้วตอนนี้เราก็เริ่มเดินหน้าเอาของๆ เราคืน ตอนนี้คือเดินหน้าทวงเงินทุกคน ไม่ว่าใครจะเอาเงินเอ็มมี่ไปทางไหน ตอนนี้ใครที่เอ็มมี่ไล่ฟ้องอยู่ก็ให้โอกาสอีก 1 เดือน ก่อนที่ทุกอย่างจะขึ้นไปถึงศาล ก็อยากให้ทุกคนโทร.มาคุยกับเอ็มมี่ก็ได้ มาไกล่เกลี่ยกันว่าเราจะเอายังไง”

“เพราะเอ็มมี่เวลาดี ดีใจหาย ดีก็ดีฉิบหาย แต่ถ้าร้ายก็ร้ายสุดๆ เหมือนกัน เพราะที่ผ่านมามันก็เกือบร้อยล้านแล้ว ณ วันนี้ตัวเองไม่เหลืออะไร รถก็ไม่มีขับ มันเลยมีความรู้สึกว่าถึงเวลาที่เอ็มมี่จะเอาของๆ เอ็มมี่คืน อย่าเพิ่งเบื่อนะ เอ็มมี่เชื่อว่าเจ้าหนี้หลายๆคนเป็นแบบเอ็มมี่ เอาจริงกับเขาบ้าง เขาจะได้ไม่ต้องทำกับคนอื่นแบบนี้อีก”

หอบหลักฐานเป็นรูปถ่ายการรับมอบเงินไว้ทุกครั้ง
มีรูปเขาตอนรับเงินด้วย เพราะแต่ละคนที่จะรับเงินจากเอ็มมี่ ก็จะให้เขาถ่ายรูปคู่กับบัตรประชาชน ถ้าเขาไม่ยินยอม หรือเอ็มมี่เฟกจริงๆ เอ็มมี่จะไม่ได้รูปตรงนั้น แต่ถ้าคุณถ่ายรูปคู่บัตรประชาชน คุณคือตัวจริง”

ชี้ตอนนี้มีลูกหนี้อยู่ 10 กว่าคน อดทนรอมานานมากแล้ว แถมลูกหนี้บางคนที่เอาเงินตนไป ยังไปฟ้องว่าเล่นแชร์กับตนแล้วไม่ได้เงิน
“คนที่เอาเงินเอ็มมี่ไปมันหลายสิบล้านมาก รวมแล้ว 10 กว่าคน ตอนนี้เอกสารได้มา 6 คนแล้ว ตอนแรกเอ็มมี่จะไม่ฟ้อง แต่ถ้าไม่ฟ้องเดี๋ยวจะมีคนถามทำไมคนนี้ฟ้อง คนนี้ไม่ฟ้อง เลยสรุปว่าคนที่เอาเงินเอ็มมี่ไปฟ้องหมดแม้แต่เพื่อนก็ตาม เอ็มมี่อยากจะบอกเจ้าหนี้ทุกคนว่าถึงเวลาที่คุณจะต้องทำจริงๆ แล้ว ลงมือกันจริงๆ หากใครอยากจะทวงหนี้มาหาเอ็มมี่ เราหัวอกเดียวกัน ทุกคนเดือดร้อน ตอนนี้จะเปิดเทอมแล้ว ยังไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมให้ลูกเลย 3.4หมื่น”

“มันอดทนกับคนพวกนี้มานานมากแล้ว แล้วที่สำคัญลูกหนี้บางคนเอาเงินเราไป แล้วก็ไปฟ้องว่าเล่นแชร์กับเอ็มมี่แล้วไม่ได้เงิน ก็คือไม่ได้ดอกเบี้ย ขอโทษนะคะ ทุกอย่างมีหลักฐานครบหมดค่ะ เพราะฉะนั้นจะทำอะไรให้มีสติ แต่ก่อนเอ็มมี่พูดลิ้นรัวมาก อยากพูดอะไรพูด แต่วันนี้มีสติมากขึ้น โตมากขึ้น แล้วเอ็มมี่ก็มาเอาสิ่งของเอ็มมี่คืน”

ส่วนคดีของตัวเองเคลียร์หมดเรียบร้อยแล้ว
“ศาลท่านก็เมตตาให้ไกล่เกลี่ยกันค่ะ โจทก์ก็โอเคแล้ว ทุกอย่างมันจบหมดแล้ว ตัวเอ็มมี่ไม่มีคดีอะไรหลงเหลือแล้ว เอ็มมี่เคลียร์ตัวเองแล้ว แล้วก็พิสูจน์ตัวเองมา 2-3 ปี แล้ว อยากบอกทุกคนว่าทำดีกับเขา แล้วเขาจะไม่ทำร้ายเรา ใช้ไม่ได้กับทุกคนค่ะ อยากบอกกับทุกคนว่า รักตัวเองให้มาก เมื่อก่อนเอ็มมี่ไม่รักตัวเอง รักเพื่อน เห็นความสำคัญคนอื่นมากกว่าครอบครัวตัวเองด้วยซ้ำ ให้หมดทุกสิ่งอย่าง”








กำลังโหลดความคิดเห็น