xs
xsm
sm
md
lg

เดือด! “ลูกตาล” ขึ้นศาล ฟ้องเจ้าของร้านเพชรบุกทวงหนี้-ประจานคายิม ขาดรายได้เดือนละหลายล้าน จ่อฟ้องคดีแพ่งเรียก 10 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ลูกตาล ชโลมจิต” ขึ้นศาล ฟ้องคู่กรณีเจ้าของร้านเพชร ผิด พ.ร.บ. ทวงหนี้-หมิ่นประมาท บุกประจานคายิม เสียความเชื่อมั่น ขาดรายได้เดือนละหลายล้าน จวกทวงหนี้ก็ต้องมีจริยธรรม ไม่ไกล่เกลี่ย ขอคุยผ่านศาล รับมีคนติดต่อขออย่าฟ้อง แต่ขอปกป้องศักดิ์ศรี เตรียมฟ้องเพิ่มคดีแพ่งเรียกค่าเสียหาย 10 ล้าน




หลังจากออกมาแถลงข่าวชี้แจงเรื่องการทวงหนี้โหด แบบเรียกได้ว่าเหมือนหนังคนม้วนไปแล้ว วันนี้ (26 ก.พ.) เวลา 11.00 น. “ลูกตาล ชโลมจิต จันทร์เกตุ” พร้อมทนายความ “เดชา ทองสุข” ก็ได้เดินทางไปที่ศาลอาญารัชดา เพื่อยื่นฟ้องคู่กรณี ในคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตาม พ.ร.บ. การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 จากกรณีที่ถูกคู่กรณีเจ้าของร้านเพชรปล่อยคลิปทวงหนี้ 1.4 ล้าน จนกลายเป็นประเด็นทำให้เสียชื่อเสียง

ลูกตาล : “วันนี้ก็เดินทางมายื่นฟ้องเป็นศาลแรกนะคะ ที่ศาลอาญา มาฟ้องคู่กรณี”

ทนาย : “มาฟ้องในคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ทวงหนี้และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

ลูกตาล : “สืบเนื่องจากคลิปที่ออกไป ก็เลยมาฟ้องคดีนี้ก่อน”

ทนาย : “เราพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่เราเห็น ว่า การกระทำนี้มันไม่ชอบด้วยกฎหมาย เราก็เลยพิจารณาฟ้องคดีนี้ไป ฟ้องคู่กรณีตามคลิปเลยครับ ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องอีกครั้งในเวลา 09.00 น. วันที่ 25 พ.ค. นี้

เรื่องพยานหลักฐานขอให้เป็นเรื่องในสำนวน แต่หลักฐานหลัก ก็คือ คลิปที่คู่กรณีเป็นคนเอามาโพสต์ประจาน
ทนาย : “เรื่องนี้ขอเป็นเรื่องในสำนวนแล้วกัน ก็มีคลิปเป็นหลักฐาน คนในคลิปครับ กับพฤติกรรมนี้เราจะสืบให้เห็นว่าการกระทำนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย พ.ร.บ.ทวงหนี้ พ.ศ. 2558 แล้วก็ความผิดกฎหมายอาญาเรื่องหมิ่นประมาทในการโฆษณา ซึ่งวันที่ 25 พ.ค. คู่กรณีจะมาหรือไม่มาก็ได้”

ที่ตัดสินใจฟ้อง เพราะเป็นการทวงหนี้โดยวิธีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทนาย : “คือ คุณมาทวงหนี้ด้วยวิธีไม่ชอบด้วยกฎหมาย มันก็ผิดกฎหมายอยู่แล้ว ดูจากข้อเท็จจริง เราไม่สามารถทวงหนี้กับบุคคลภายนอกได้ มันเป็นลักษณะเหมือนการประจาน แล้วอันนี้ก็จะพิสูจน์ว่ามันมีหนี้เหลือกันเท่าไหร่ รายละเอียดเคยชี้แจงไปครั้งที่แล้วตามนั้นเลย”

จะชนะคดีอาญาไหม ก็ดูได้ตามพยานหลักฐาน จ่อฟ้องคดีแพ่งเพิ่ม เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย
ทนาย : “ดูตามพยานหลักฐานเลยครับ อันนี้เราฟ้องแค่คดีอาญาอย่างเดียวครับ กำลังพิจารณาฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นคดีต่อไปครับ”

ลูกตาล : “ส่วนแพ่ง เราก็จะมีการฟ้องต่อจากนี้ไป น่าจะอาทิตย์หน้านะคะ ก็จะเป็นการเรียกร้องค่าเสียหาย”

ทนาย : “ตอนนี้เรากำลังจะพิจารณาอาจจะฟ้องเรื่องเรียกดอกเบี้ยเกินเข้าไปด้วย อาจจะมี 3-4 คดี ผมขอเวลานิดหนึ่ง ขอสักอาทิตย์หนึ่ง จะเริ่มพิจารณาฟ้องเรื่องค่าเสียหาย เรื่องดอกเบี้ยเกิน”

ไร้กังวลเพราะพูดความจริง และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้ต้องการโกงใคร
ลูกตาล : “เรื่องกังวลไม่กังวลค่ะ เพราะเราพูดความจริง เราคิดว่าเราทำสิ่งที่ถูกต้องนะคะ แล้วอีกอย่างเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีของเราด้วย ที่ทางคู่กรณีทำให้เรารู้สึกว่าเราเสื่อมเสียชื่อเสียง แล้วก็ได้รับการประจานจากสังคมทั่วไป แล้วก็อยากจะฟ้องเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของเรา ว่าเราเป็นหนี้ เราไม่ได้โกงหนี้ เราต้องการที่จะใช้หนี้ เราก็เลยต้องมาใช้ดำเนินการทางศาลเอาค่ะ”

เรื่องถึงศาลแล้ว ก็ทำให้สบายใจขึ้นมาก
ลูกตาล : “ก็สบายใจขึ้นมากนะคะ ตั้งแต่ตอนที่เราเริ่มแถลงข่าวแล้ว ตอนนี้ก็รวบรวมหลักฐานได้เยอะมากที่สุดเท่าที่เราทำได้ ไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องคดี พอหลังจากนี้ไปก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับค่าเสียหายต่างๆ ทีหลัง”

ตัดสินใจออกมาเดินหน้าสู้ ไม่ได้ตั้งใจจะท้าชน แค่ต้องการปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง
ลูกตาล : “จริงๆ ไม่ได้ท้าชนอะไร เพียงแต่ว่าทางฝ่ายคู่กรณี เขาทำให้เราเสื่อมเสียก่อน เพราะฉะนั้นการที่เราลุกขึ้นมาปกป้องศักดิ์ศรีของเรา หรือมาฟ้อง เพื่อให้ประชาชนรับรู้ว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายที่แย่ขนาดนั้น (ต้องระมัดระวังตัวเองไหม?) เรื่องระวังตัวเอง ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษค่ะ”

หลังจากแถลงข่าวไป ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับคู่กรณีเลย แต่มีให้คนติดต่อมาว่าไม่อยากให้ฟ้อง
ลูกตาล : “หลังจากที่แถลงข่าวไป แล้วก็ได้ออกรายการทีวีไปสักระยะหนึ่ง เขาก็มีการติดต่อมาประมาณว่าอยากให้จบๆ ไป ไม่อยากให้เราฟ้อง แต่ตรงนี้เราบอกว่าเราไม่สามารถทำได้ เพราะว่าเราเดินหน้ามาขนาดนี้แล้ว เราเสียหายมาขนาดนี้แล้ว เพราะฉะนั้นเราก็ขอพึ่งกระบวนการของศาลดีกว่าค่ะ คือเขาไม่ได้อ้อนวอนให้เราไม่ฟ้อง แต่มีคนเคยติดต่อมาค่ะ เป็นทางคนของเขาที่มาคุยด้วย”

ไม่คิดที่จะไกล่เกลี่ยแล้ว เพราะสิ่งที่คู่กรณีทำมันเกินที่จะมาไกล่เกลี่ยได้
ลูกตาล : “ก็คือว่าการที่เขากระทำตั้งแต่ตอนแรก คงไม่ต้องการไกล่เกลี่ยแล้ว เราก็ต้องทำตามกระบวนการของศาล ตอนนี้เรายังไม่เคยพูดคุยกัน ไม่เคยเจอตัวเขาเลย หลังจากวันนั้นไม่เคยเจอตัวเลยค่ะ”

จากนี้จะคุยผ่านศาลอย่างเดียว
ลูกตาล : “ใช่ค่ะ เพราะจริงๆ แล้วก่อนที่เขาจะมาทวงหนี้ที่ยิม เราก็เลยคุยผ่านทนายกันมาเรียบร้อยแล้วว่าเราจะไม่คุยกัน 2 คน เราจะผ่านกระบวนการทางทนายไป แต่เขาก็ไม่เลือกวิธีนั้น เลือกวิธีที่จะมาด่า มาประจานเรา”

หลักฐานสำคัญที่ทำมาฟ้อง ก็คือ คลิปที่คู่กรณีเอามาโพสต์ประจานตน
ลูกตาล : “หลักฐานเราไม่มีอะไรมาก ก็เป็นหลักฐานปกติธรรมดาที่เราต้องมี การจ่ายเงิน แล้วอีกอย่างคือคลิปที่เขาโพสต์ประจานเรา นั้นคือหลักฐานสำคัญที่จะมาฟ้องเขาในวันนี้”

ถ้าเกิดคู่กรณีขอไกล่เกลี่ย ไม่อยากขึ้นศาล ก็ไม่สามารถทำให้ได้แล้ว ยืนยันไปคุยในศาลอย่างเดียว
ทนาย : “ต้องรอศาล ไปคุยกันในศาล ไม่คุยข้างนอกแล้ว คุยในศาลแล้วครับ ก็ไปตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมเลยครับ เพราะผมยื่นฟ้องเขาแล้ว ค่อยมาพิสูจน์กัน ถ้าเกิดมีการเจรจา ก็ค่อยมาว่ากันอีกที”

ลูกตาล : “เราเสียหายมากเลยค่ะ เพราะว่าหนึ่งการทำให้ประชาชนเข้าใจเราผิด ภาพลักษณ์ของเราก็จะเสียไปด้วย ที่สำคัญภาพลักษณ์ของการงานทำงานของเราด้วย ซึ่งการทำงานของเรา ไม่ว่าจะเป็นชื่อยิมของเราก็เสียหาย ขาดความมั่นใจกับลูกค้าที่ใช้บริการ อันนี้ก็เป็นการเสียหายระยะยาว ถ้าเราไม่แก้ไขตรงนี้ก็จะเสียหายเยอะมากเลยค่ะ”

คาดเรื่องนี้คงไม่ยืดเยื้อนานเป็นปี เพราะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายแล้ว
ลูกตาล : “คงไม่หลายปี น่าจะเร็ว”

ทนาย : “ไม่น่านานขนาดนั้นหรอก เข้าสู่กระบวนการแล้วก็จะมีการพูดคุยกัน ความจริงจะได้ปรากฎว่ายิมเราไม่ได้มีปัญหาขาดสภาพคล่อง ตอนนี้ไม่มีคนมาสมัคร เพราะคนกังวลว่าคนจะปิดหรือไม่ปิด ก็เสียดายเป็นความเสียหายเบื้องต้นที่เห็นภาพได้ชัดเจนตอนนี้”

ลูกตาล : “คือจริงๆ แล้วมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องยิมของเราเลย มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการขายเพชรมากกว่า แต่ว่าการที่เขามาประจานเราว่ายิมมีปัญหา มีปัญหาทางด้านธุรกิจ มันทำให้ความเชื่อถือของยิมมันเสียไป ซึ่งอันนี้มันเยอะมาก แล้วก็ยอมไม่ได้ด้วยค่ะ”

หลังจากโดนโพสต์ประจาน ทำเอายิมขาดรายได้เดือนละหลายล้านบาท เพราะลูกค้าไม่มั่นใจที่จะต่อ หรือสมัครสมาชิกใหม่
ลูกตาล : “มันก็มีลูกค้าปกติทั่วๆ ไป แต่ความมั่นใจของลูกค้าก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ซึ่งต่อเดือนมันก็หลายล้านบาท

เปรยมีลูกค้ามาสอบถามบ้าง ว่ายิมยังจะเปิดอยู่ไหม
ลูกตาล : “ลูกค้าเขาจะทราบจากที่ยิม เขาก็จะมาถามพนักงานบ้าง ว่ายังเปิดอยู่ไหม พอบอกเราเปิดตามปกติ ลูกค้าก็มาใช้บริการตามปกติค่ะ ถ้าว่าเรื่องความเชื่อมั่นก็ใช้เวลานิดหนึ่งค่ะ”

การมาศาลในครั้งนี้ อีกหนึ่งประเด็นคือการสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าที่มาใช้บริการยิม
ลูกตาล : “ใช่ค่ะ อยากสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าเราว่าการมีเรื่องนี้ มันไม่เกี่ยวกับธุรกิจของยิมเราเลย มันเป็นเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องการขายเพชร การลงทุนต่างๆ ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับตรงนั้นเลย แต่เขาทำให้คนเข้าใจผิดไป”

ส่วนเรื่องหนี้ค้าง ไม่สามารถให้ทางศาลไกล่เกลี่ยแทนได้ ต้องรอคู่กรณีเป็นฝ่ายมาฟ้อง ซึ่งก็รอให้ฟ้องอยู่
ทนาย : “ไม่ ต้องแยกกัน เรื่องเงินกู้ต้องให้ทางโน้นฟ้องเรามา เขาก็ยังไม่ใช้สิทธ์ทางศาล เพราะเราอ้างว่าเรามีหลักทรัพย์ค้ำประกัน คือ มอเตอร์ไซค์ มีการชำระหนี้ไปบางส่วน 845,000 บาท เคยโชว์ให้ดูแล้ว หนี้มันยังเหลืออยู่ไหม หรือต้องชำระอีกเท่าไหร่ บอกเรามา แต่เขายังไม่เคยใช้สิทธิ์ทางกฎหมายมาฟ้องเรา ซึ่งเราก็รออยู่”

ไม่กังวลหากคู่กรณีจะฟ้องกลับ เพราะเคยบอกให้ไปยื่นฟ้องแล้ว ก่อนจะโพสต์คลิปประจาน
ลูกตาล : “จริงๆ แล้วเราไม่กังวลเลย เพราะว่าก่อนที่เขาจะมาด่าเราที่ยิม เราเคยบอกเขาแล้วว่าให้ไปทำกระบวนการฟ้องมาก็ได้ ถ้าเกิดว่าคุณไม่มั่นใจ แต่เขาก็ไม่ฟ้อง เป็นเพราะว่าอะไรอันนี้ไม่ทราบ คือถ้าเขายื่นเรื่องฟ้อง เราก็พร้อมตลอดเวลา เราพร้อมมาตั้งนานแล้ว มันน่าจะดีกว่าการที่เขาจะมาด่าเราหน้ายิมด้วยซ้ำ”

รับคำว่าติดหนี้ไม่จ่ายหนี้ ฟังแล้วรู้สึกแย่มาก เพราะความจริงใช้หนี้มาตลอด และการมาท้วงด้วยวิธีนี้มันรุนแรง ขัดต่อจริยธรรม สร้างความเสื่อมเสียมาก
ลูกตาล : “รู้สึกแย่มาก เพราะว่าจริงๆ แล้วการเป็นหนี้ มันก็ต้องใช้ เราก็ใช้มาตลอดทั้งปี ถ้าไม่ใช่คงหลบหน้าไปแล้ว การเป็นหนี้คนก็ต้องใช้หนี้กันนะคะ แต่ว่าการทวงหนี้ มันก็ต้องให้รู้สึกว่ามันน่าจะมีจริยธรรมหน่อย หรือว่าน่าจะพูดคุยกันได้ ไม่น่าจะทำอะไรที่มันรุนแรงขนาดนี้ ซึ่งมันทำให้เราเสื่อมเสียมากกว่าค่ะ”

อย่างไรก็ตาม ทางด้านของ “ลูกตาล ชโลมจิต” ได้กล่าวปิดท้ายว่า เตรียมฟ้องแพ่ง เรียกค่าเสียหายกับคู่กรณีเป็นจำนวนเงิน 10 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในขั้นตอนให้ทนายความดำเนินการ








กำลังโหลดความคิดเห็น