xs
xsm
sm
md
lg

มีวันนี้เพราะรถ "ฮาน-Fast and Furious" จากชีวิต Underdog สู่ดาราดังและโครงการแต่งรถเพื่อเด็ก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไม่ใช่ "จอห์น ซีน่า", ไม่ใช่ฉากแอ็กชั่นสุดเวอร์ แต่เป็นการกลับมาจากความตายของ "ฮาน" ที่สร้างความฮือฮามากที่สุดในตัวอย่างหนัง Fast and Furious 9 แต่จริง ๆ แล้วหากพูดถึงในชีวิตจริง คงไม่มีใครในกลุ่มดาราหนังเรื่องนี้ที่จะเหมาะสมกับหนังชุด Fast เท่ากับ "ฮาน" หรือ "ซุงกัง" คนนี้อีกแล้ว

ในหมู่นักแสดงของหนัง Fast and Furious เป็นที่รู้กันดีว่าในชีวิตจริง พอล วอล์คเกอร์ ที่คนที่คลั่งไคล้ความเร็ว และยานยนต์มากที่สุด ส่วนคนอื่น ๆ ไม่ได้มีความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับเรื่องของ "รถซิ่ง" แต่อย่างใด นอกจากหนุ่มเอเซียคนเดียวในกลุ่มอย่าง ซุงกัง นั่นเอง

หนุ่มเชื้อสายเกาหลีที่มีชื่อแบบเกาหลีว่า "คังซองโฮ" เกิดและเติบโตขึ้นมาสหรัฐอเมริกา เขามีพ่อและแม่เป็นคนอพยพ ซึ่งตามประสาคนเอเซียส่วนใหญ่ต่างต้องการให้ลูกให้ความสำคัญกับเรื่องการเรียนหนังสือ ซุงกัง จบการศึกษาจากโรงเรียนที่แคลิฟอร์เนีย ก่อนจะเข้าเรียนในระดับชั้นอุดมศึกษาที่ ยูซี ริเวอร์ไซต์ แต่แทนที่จะให้ความสำคัญเรื่องวิชากฏหมายตามที่ตัวเองเรียน เขากลับเริ่มสนใจการแสดงมากขึ้นเรื่อย ๆ


ลูกชายที่น่าผิดหวัง

สุดท้ายเขาถึงกับทิ้งการเรียน และตัดสินใจมุ่งมั่นกับการเป็นนักแสดงอย่างเต็มตัว ซึ่งก็คงเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่พ่อแม่จะไม่ค่อยพอใจนัก เพราะมองว่าโอกาสสำหรับเด็กหนุ่มเชื้อสายเกาหลีอย่างลูกชายของเขาทั้งสอง การไต่เต้าในวงการบันเทิงที่อเมริกาคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก "ฮอลลีวูดเป็นสิ่งที่ห่างไกลสำหรับพวกท่านมาก .... พ่อกับแม่ผมผิดหวังแบบสุด ๆ เลย"

ในฐานะเด็กชาวเอเซียที่เติบโตมาในสังคมอเมริกัน ซุงกัง มีนักแสดงหนุ่มเชื้อสายเอเซียอย่าง เจสัน สก็อต ลี เป็นแรงบันดาลใจในการเป็นนักแสดง แตกต่างที่เขาไม่ได้มีความสามารถทางด้านศิลปะป้องกันตัวอย่าง ลี ส่วนใหญ่จึงมักจะได้รับบทประกอบเล่นเป็นตัวละครคนเอเซียที่ไม่มีบทบาทสำคัญใด ๆ ในหนังเล็ก ๆ ถ่ายทำในแถบลอสแอนเจลิส

สุดท้ายโอกาสของ ซุงกัง เมื่อเขาได้รับเลือกให้ร่วมแสดงในหนังแก็งสเตอร์เกี่ยวกับนักเลงวัยรุ่นชาวเอเซียในแถบแคลิฟอร์เนียของผู้กำกับหนุ่มหน้าใหม่แกะกล่องชาวไต้หวันที่ชื่อว่า "จัสติน ลิน"


"ฮาน" คนรักรถตัวจริงแห่ง The Fast and the Furious

แม้บทของเขาจะไม่ใช่บทนำ แต่ จัสติน ลิน ก็ประทับใจในการแสดงของ ซุงกัง มาก และตัดสินใจเลือกให้หนุ่มเกาหลีมาร่วมรับบทนำเมื่อ จัสติน ลิน ได้มีโอกาสจับงานใหญ่อย่าง The Fast and the Furious: Tokyo Drift ลิน พยายามโน้มน้าวให้ผู้สร้างฮอลลีวูดเลือกให้ตัวละครที่จะมีบทคล้าย ๆ กับ "ดอม" ในหนังภาคนี้ให้เป็นคนเอเซีย ซึ่งตอนนั้นยังไม่ค่อยมีใครกล้าเสียง สุดท้าย Tokyo Drift ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ที่สำคัญก็คือ จัสติน ลิน ได้ถูกเลือกให้มาปลุกชีพหนังชุดนี้ในเวลาต่อมา ส่วน ซุงกัง ก็แจ้งเกิดได้อย่างเป็นทางการ

ปัจจุบัน ซุงกัง เป็นที่รู้จักในนาม "ฮาน" แห่งหนัง Fast and the Furious ไปแล้ว แม้จะปรากฏตัวในหนังเพียงไม่กี่ภาค แต่ตัวละครของเขาก็ยังเป็นที่จดจำ และยิ่งเมื่อ "ฮาน" ได้ฟื้นคนชีพมาแล้วในหนังภาคล่าสุด ก็ยิ่งทำให้ตัวละครของเขาถูกพูดถึงมากที่สุดในหนังภาค 9

ฮาน อาจจะไม่ใช่สมาชิกที่โดดเด่นที่สุดของ "ครอบครัว Fast" แต่หากพูดถึงชีวิตจริงแล้ว ซุงกัง น่าจะเรียกได้ว่าเป็น "Fast and the Furious" ในหมู่นักแสดงหนังชุดนี้ก็ว่าได้ ซุงกัง ไม่เพียงเป็นคนรักรถ, ไม่ได้แค่สะสมรถยนต์ แต่ยังใช้ความชื่นชอบส่วนตัวมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็ก ๆ ที่อาจจะเติบโตมาด้วยความยากลำบาก เหมือนที่เขาเคยใช้ความประทับใจในรถยนต์เป็นแรงผลักดันให้ตัวเองมาแล้ว


Project Underdog โครงการแต่งรถเพื่อเด็ก ๆ

"ผมสนใจเรื่องรถมาตั้งแต่เด็กแล้ว มีเพื่อนบ้านคนหนึ่งที่ใช้เวลาทั้งวันกับการแต่งรถ Impala ปี 1963 สีขาวอยู่ในอู่ส่วนตัวของเขา ซึ่งเขาก็ใจดีพอที่จะอนุญาตให้เด็กอย่างผมเข้าไปดูรถ แล้วก็ใช้เวลาอยู่กับเขา คอยถามโน้นถามนี่ ดูเขาแต่งรถไป จนที่นั่นกลายเป็นเหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของผมไปเลย ผมจะไปที่นั่นเมื่อไหร่ก็ได้ สิ่งความรู้สึกแบบนั้นติดอยู่กับผมมาตลอด เมื่อโตขึ้นก็เลยอยากจะทำแบบนั้นกับคนอื่นบ้าง"

สุดท้ายความประทับใจในวัยเด็กจึงทำให้ ซุงกัง ตัดสินใจริเริ่มองค์กรการกุศลขึ้นมา Project Underdog คือโครงการที่ ซุงกัง ริเริ่มขึ้นมา และไม่ใช่แค่เป็นโครงการที่จะสอนให้เด็กรู้สึกรถยนต์ หรือการแต่งรถเท่านั้น แต่ยังสอนให้เด็ก ๆ รู้จักกับการสร้างแรงบันดาลใจในชีวิตด้วย

"สำหรับผมล้วความสำเร็จทั้งหมดเกิดขึ้นมาจากวัยเด็ก และเพื่อนบ้านคนนั้น Project Underdog จึงเป็นโครงการที่ผมจะเลือกเด็กจากย่านแออัดมา 3 คน มาช่วยกันประกอบรถขึ้นจนสมบูรณ์แบบเลย แล้วก็นำรถคันนั้นไปเปิดประมูล ซึ่งเงินทั้งหมดจะกลายเป็นทุนการศึกษาสำหรับพวกเขาด้วย"

"เราจะได้เรียนรู้อะไรมากจากกิจกรรมแบบนี้ ไม่ใช่แค่การสร้างรถ แต่ยังเกี่ยวข้องกับการพูดคำไหนคำนั้น และความซื่อสัตย์ด้วย เวลาทำรถคุณจะโกงเอาไม่ได้เด็ดขาด ถ้าเราทำทุกอย่างให้ลูกต้อง มันก็จะกลายเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุด" เจ้าของบท ฮาน บอก


กำลังโหลดความคิดเห็น