พ่อแม่เผยค่าตัว "ปู วิชชุดา" นางเอกดังก่อนดับ เงินเก็บ 1 ล้าน ไม่เกินอีก 1 ปีหมด! รันทดต้องขายสมบัติลูกกินประทังชีวิต ตายด้านแล้วแตกหักลูกชายเพราะเมีย พ้ออาจผิดที่เรา
รายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.55 - 14.50 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (31 ม.ค.) "ดร. เสรี วงษ์มณฑา" ได้เปิดใจสัมภาษณ์ "แม่ต้อย กัญญา สวนสุวรรณ" และ "เลี่ยม สวนสุวรรณ" แม่และพ่อนางเอกในตำนานซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ "ปู วิชชุดา สวนสุวรรณ" ที่แม้เวลาจะผ่านมานานถึง 27 ปี แต่แม่ก็ยังโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองอยู่
ปูเสียชีวิตไป 27 ปีแล้ว ความรู้สึกคุณพ่อคุณแม่ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
แม่ต้อย : "เหมือนเดิมเลยค่ะ เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เมื่อวาน ยังคิดถึงเขาตลอดค่ะ"
ตอนที่เกิดเหตุ คุณแม่ทำใจไม่ได้ จนไม่พูดไม่จากับใคร?
แม่ต้อย : "จริงค่ะ ก็ได้พ่อกับลูกพยายามดึงออกไปข้างนอก เพราะไม่ไปไหนเลย ขังตัวเองอยู่ข้างใน"
เวลาพ่อไม่อยู่บ้าน แม่ก็ไม่อยู่เหมือนกัน?
แม่ต้อย : "ค่ะ นั่งอยู่หน้าบ้าน ไม่เข้า กลัวคนใกล้ตัวเราจะหายไปอีก กลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย"
แม่โทษตัวเองว่าลูกเกิดอุบัติเหตุเพราะแม่?
แม่ต้อย : "จริงค่ะ หนึ่งไม่น่าซื้อรถให้ลูก สองไม่น่าให้ลูกไปเรียนมหาลัยที่บางแสน สามไม่น่าให้ลูกขับรถเอง และสี่ไม่น่าให้ลูกเข้าวงการบันเทิง จะจับลูกล่ามโซ่ไว้ พอมาเจออย่างนี้ ถ้าเราไม่ให้ลูกมาตรงนี้ ลูกก็ยังอยู่"
กี่ปีแม่ถึงเลิกโทษตัวเอง?
แม่ต้อย : "ช่วงไม่กี่ปี แต่ก็ยังแอบโทษตัวเองอยู่"
ตอนที่ปูอยู่ เขาหารายได้เลี้ยงดูครอบครัวได้ดีแค่ไหน?
แม่ต้อย : "รายได้ตอนนั้นมันไม่ได้เยอะเหมือนตอนนี้ แต่ส่วนของเขาที่หาได้ก็จะเก็บ ส่วนที่ใช้ไปทุกวันคือส่วนที่พ่อหา ส่วนของเขาเก็บอย่างเดียวเลย บางทีตัวเองไม่มีเงินในกระเป๋า แต่มีเงินลูกปูในกระเป๋าเยอะ ไม่มีเงินเติมน้ำมัน ก็ไปกดเงินตัวเอง ไม่ใช้เงินลูกเลยค่ะ"
บ้านที่อยู่ตอนนี้ ปูเป็นคนซื้อ?
แม่ต้อย : "บ้านทาวน์เฮ้าส์นะคะ เอาเงินของเขาผ่อน ตอนนี้ก็ยังอยู่ค่ะ"
อาการคุณแม่เป็นแบบนั้น คุณพ่อช่วยยังไง เพราะแม่ยังโทษตัวเองอยู่?
เลี่ยม : "ไม่ว่าคุณแม่หรือผม ยังคิดถึงตลอด ผมก็พาเขาไปเที่ยวด้วยกัน"
ในช่วงปูทำงาน เก็บเงินได้มากพอที่จะให้ครอบครัวสบาย?
แม่ต้อย : "ตอนนั้นช่วงที่ปูเข้ามา เงินไม่ได้มากนะอาจารย์ เก็บเงินได้นิดเดียวเอง ช่วงที่เขาเสียเก็บเงินได้ล้านนึงได้มั้ง ตอนนั้นละครที่เล่นเรื่องแรก ตอนนึง 3,500 เองนะ มาอรุณสวัสดิ์ ถ้าจำไม่ผิด 4,500 มันไม่ได้เยอะ"
ตั้งแต่ปูเสียไป เงินที่ปูเก็บเอาไว้ แม่ก็ยังไม่เอามาใช้ คุณพ่อทำอะไร?
เลี่ยม : "ขับรถตู้"
แม่ต้อย : "แม่ก็มาทำแม่ครัวกองถ่ายละคร คนละช่องกับที่ปูแสดง ลูกชายเป็นคนบอกให้พ่อไปขับรถ"
ตอนนี้เริ่มใช้เงินที่ปูเก็บ?
แม่ต้อย : "ไม่เริ่มค่ะ ใช้เงินจะหมดแล้ว ช่วงที่ประสบอุบัติเหตุและมารักษาตัวนี่แหละค่ะ 28 พ.ย. 58 เกือบ 5 ปี ตอนนั้นไปกองถ่าย ไปถ่ายที่บ้านนา นครนายก ขับรถไม่เร็วเพราะลงเขา ทีนี้มาเจอรถคันนึง เป็นรถทีมงาน เขาหลบให้เรามาก่อน เสร็จแล้วก็ขับลงไป จนพ่อเขาอุทานว่ารถเบรกไม่อยู่"
เลี่ยม : "มันมืดไปเลย รถมีปัญหาที่เบรก"
อาการแม่กับพ่อเป็นยังไง?
เลี่ยม : "ก็สลบเลย"
แม่ต้อย : "แม่เหมือนวูบไปวูบมา กระดูกสันหลังหักค่ะ แขนหัก"
ทำงานไม่ได้เลย นานมั้ย?
แม่ต้อย : "ช่วยตัวเองไม่ได้เลย 4 เดือน"
ทำมาหากินไม่ได้นานมั้ย?
แม่ต้อย : "ตัวแม่รักษาอยู่เกือบ 2 ปีเต็มๆ ทำงานไม่ได้เลย"
เลี่ยม : "ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำ เพราะขาไม่ดี"
ค่ารักษาเท่าไหร่?
แม่ต้อย : "เฉพาะตัวแม่ประมาณ 2 แสนได้"
อยู่ยังไง?
แม่ต้อย : "อยู่รพ. 18 วัน ต้องไปหาหมออาทิตย์ละ 2 ครั้งที่นครนายก ต้องจ้างรถเขาไป ทีนี้ก็เอาเงินเก็บปูมาใช้ ไปกลับประมาณ 3 พันต่อครั้ง อาทิตย์ละสองครั้ง ปีเศษๆ ที่เป็นแบบนั้น"
ลูกชายเข้าสู่วงการได้ยังไง?
แม่ต้อย : "ตอนนั้นแม่เป็นคนฝากให้เขาไปเป็นผู้ช่วยช่างภาพกับน้องอีกคนนึง"
แม่กับเขามีความขัดแย้งกัน?
แม่ต้อย : "ตอนแรกไม่มีปัญหา เงินเดือนออกมาก็รีบส่งให้เดือนละ 2 พัน 3 พันก็แล้วแต่ เงินเดือนออกมาปั๊บก็เอามาให้ก่อนเลย เป็นคนที่ถ้าถามคนแถวๆ นั้น เป็นคนสุภาพ เรียบร้อย พูดจาเพราะ กลับบ้านพ่อแม่หายจะตามหา"
แล้วความขัดแย้งเกิดขึ้นได้ยังไง?
แม่ต้อย : "มันพูดยากนะอาจารย์"
เลี่ยม : "น่าจะมาตอนที่เขาแต่งงานแล้ว ก็มีส่วน"
แม่ต้อย : "ไม่มีใครเชื่อเลยว่าจะเป็นอย่างนี้"
ไม่คุยกันมา 3 ปีแล้ว?
แม่ต้อย : "จริงค่ะ จำได้แม่น 11 ส.ค. 59 ระหว่างสิบโมงถึงเที่ยง จำเวลาแม่นที่ไม่ได้คุยกันมา"
สาเหตุที่ทำให้สะบั้น?
แม่ต้อย : "จริงๆ มันสะสมมานานแล้ว แต่แม่เป็นคนไม่พูด เพราะเรารู้ว่าถ้าเราพูด ลูกเราก็เดือดร้อน เราก็ไม่สบายใจ ไม่พูดเลย และอัปเปหิตัวเองไปอยู่พัทยา ออกจากตรงนั้นไปเลย เขาก็อยู่บ้านของเขา แม่ก็ไปอยู่พัทยา ดูแลหอพัก"
เลี่ยม : "เราเอาตัวเองหนีออกไป ไปเสียดีกว่า"
ก่อนไปปรึกษาพ่อมั้ย?
เลี่ยม : "บอก จะยังไงก็ได้ ผมได้ทั้งนั้น"
แม่ต้อย : "พ่อเขาขับรถอยู่แล้ว และอยู่บ้านคนเดียว"
ช่วงที่ขัดแย้ง เขาให้เงินแม่ใช้มั้ย?
แม่ต้อย : "ไม่ หยุดไปเลย ตอนนั้นยังทำงานอยู่ พ่อยังขับรถได้อยู่ ก็ใช้เงินตรงนั้นได้อยู่"
หวังว่าจะกลับมา?
เลี่ยม : "กลับมาก็ยินดีต้อนรับ ไม่เคยโกรธ"
แม่ต้อย : "แม่จะหนักไปทางเสียใจ น้อยใจ เราก็สอนลูกมาดีนะ สอนว่าถ้าแต่งงานแล้วพ่อแม่แฟนเราเขาจะยังไงก็ให้ดูแลไป เขาจะให้พ่อแม่เขาเดือนละเท่าไหร่ก็อย่าไปยุ่ง ส่วนทางนี้เขาจะดูแลยังไงก็อย่าไปยุ่ง จะให้เดือนสองพันสามพันหรือไม่ให้เลยก็แล้วแต่ เวลาทะเลาะกัน พ่อแม่ไม่ได้รู้เรื่องใช่มั้ยคะ แต่เวลาทะเลาะกัน ขึ้นพ่อลงแม่กันทั้งนั้น"
ทะเลาะกันมีการด่าบุพการี?
แม่ต้อย : "ถูกค่ะ แม่รู้จากปากเขา ตอนแรกรู้จากคนอื่นมาบอก เราก็ไม่รู้ว่าเขาประสงค์ดีหรือยังไง เราก็เก็บเอาไว้ไม่พูด ไม่ถาม ตอนหลังเขาพูดเอง"
แม่มีลูกสองคน วิธีสอนลูกหญิงกับชายต่างกันมั้ย?
แม่ต้อย : "จะสอนทั้งคู่ให้พูดจาเพราะ อ่อนน้อมถ่อมตน และรักษาคำพูด"
ลูกสองคนได้ดั่งใจมั้ย?
แม่ต้อย : "ได้นะคะ ตั้งแต่ปูอยู่มาจนเสียชีวิตก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง อีกคนก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง จนกระทั่งมีครอบครัว เราก็ไม่ทราบว่าอะไรของเขา"
เลี่ยม : "ลูกชายเป็นคนดีมาก"
แม่ต้อย : "ดีสุดๆ ในตอนนั้น"
ผิดหวังรุนแรงมาก?
แม่ต้อย : "ตอนเจอคำพูดนั้นเหมือนตัวมันเล็กลงและหยุดหายใจไปช่วงนึง มันเหมือนหยุดไปเลย ก็เลยบอกว่าแล้วแต่ลูก แต่แม่ก็ยังรักลูกตลอด"
แม่ไม่ชอบใจฝ่ายโน้นเพราะพฤติกรรมก่อนแต่งเป็นพฤติกรรมที่แม่รับไม่ได้ แม่ต้องการผู้หญิงที่รักนวลสงวนตัว?
แม่ต้อย : "อันนั้นก็มีส่วนนะคะ แม่หัวโบราณ"
พอมาอยู่ด้วยกัน มีเรื่องขัดใจเยอะ แม่เก็บกดไม่พูดให้ลูกชายรู้?
แม่ต้อย : "ไม่พูด"
เลี่ยม : "แม่เขาเคยบอก แต่ผมเฉยมากกว่า ไม่ได้ยุให้ทางโน้นได้ยินแล้วมาทะเลาะกัน"
วันนึงแม่ระเบิดเพราะรับไม่ได้ จริงหรือไม่ วันที่แม่ระเบิดเป็นวันที่ลูกชายพูดถึงฝ่ายโน้นว่าไม่ต้องมาดูแลพ่อแม่แล้ว ให้พ่อแม่อยู่อย่างนี้ ถ้าจะมาดูแลก็ให้เลิกกัน?
แม่ต้อย : "ค่ะ 80 เปอร์เซ็นต์ทำให้น็อตหลุดจากตรงนี้"
แม่ได้ระบายจากสิ่งที่ไม่เคยพูด บอกว่าถ้าพูดจะเล่าให้หมด?
แม่ต้อย : "จริง ถ้าไม่ถามแม่จะไม่พูด แต่มีเล่าบ้าง"
ต่างคนต่างอยู่ ออกจากปากแม่หรือเขา?
แม่ต้อย : "ทางเขา แม่ไม่มีทางพูด แม่คนไหนก็ไม่พูด"
ตอนนั้นช็อก เสียใจหรือน้อยใจ?
แม่ต้อย : "ทุกอย่างที่พูดมาหมดเลย เหมือนเราหยุดหายใจไปชั่วขณะนึง ก็บอกว่าแล้วแต่เลย เอาที่ลูกสบายใจ แต่แม่ก็ยังรักลูกตลอด"
จากนั้นได้ติดต่อกันมั้ย?
แม่ต้อย : "ไม่มี เบอร์โทรเขาตอนแรกบล็อก ตอนหลังลบ เราเป็นแม่ เราคิดถึงเขาก็กลัวว่าถ้าเราโทรไปเขาไม่รับ เขาตัดสาย เขาว่าอะไรมา เราจะยิ่งเจ็บมั้ย เลยเอาแบบนี้ดีกว่า"
ถ้าลูกจะกลับมา ต้อนรับมั้ย?
แม่ต้อย : "แม่เหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ก็ไม่ทราบทางโน้นจะเป็นยังไง มันอยู่ที่คนของเรา"
ถ้าลูกกลับมาจะตั้งเงื่อนไขอะไรในการกลับมาอยู่ด้วยกัน?
แม่ต้อย : "ไม่มีเงื่อนไข"
ถ้าทางฝ่ายโน้นไม่อยากให้กลับมาดูแล?
แม่ต้อย : "ตอนนี้แม่ด้านไปแล้วมั้งอาจารย์ (หัวเราะ) ไม่รู้จะใช้คำไหน"
อยากบอกอะไรกับคนที่บอกลูกชายไม่ให้มาดูแลพ่อแม่ ถ้ามาดูแลให้เลิกกัน?
แม่ต้อย : "ก็อยากถามว่าถ้ากลับกันเธอได้รับคำพูดนี้ เธอจะรู้สึกยังไง"
เงินของปู เก็บไว้ตลอดไม่เคยใช้?
แม่ต้อย : "ช่วงทำมาหากินกันได้ ไม่เคยเอาออกมาใช้เลย นอกจากผ่อนบ้าน แต่ตอนนี้จะหมดแล้ว ขายแล้ว รัดเข็มขัดสุดฤทธิ์ ปีนึงก็หมดแล้ว"
ตอนนี้จะทำยังไง?
แม่ต้อย : "ตอนนี้เอาข้าวของของปู มาขายในเฟซ ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง เป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ เสื้อผ้าเขาไม่ได้เยอะ มีรองเท้า เครื่องประดับ กล่องดนตรี 27 ปีเก็บสมบัติปูเอาไว้หมดเลย"
ความรู้สึกที่เอาของของปูมาขายประทังชีวิต?
แม่ต้อย : "คิดไปคิดมา ถ้าเราตายไป ของนี้จะเอาไปไหน เขาก็คงเก็บทิ้ง ก็เลยตัดสินใจว่าให้คนอื่นที่เขาอยากได้ เราก็มีเงินมาประทังชีวิต"
อยากให้เขากลับมา?
แม่ต้อย : "ความเป็นแม่มันก็อยาก ลูกจะดีจะชั่วก็อยากให้กลับมา ถ้าประวัติศาสตร์จะซ้ำก็ซ้ำไป ตอนนี้ด้านชาไปแล้ว (หัวเราะ)"
อยากพูดอะไรกับเขา?
แม่ต้อย : "อยากบอกว่าแม่ก็รู้ลูกอยู่ตรงไหน ลูกก็รู้ว่าแม่อยู่ตรงไหน จะมาไม่มาก็ตัดสินใจเอาเอง อย่าให้คนอื่นจูง คิดเอาเองนี่พ่อแม่นะ คิดว่ามีพ่อมีแม่อยู่มั้ย เอาที่สบายใจ"
ไม่ได้อยากให้เขาเลิก?
แม่ต้อย : "ไม่เลยค่ะ เขาก็มีลูกแล้วค่ะ จะดูแลครอบครัวนั้นก็ดูแลไป เมื่อก่อนแรกๆ ทางโน้นก็น่ารัก แต่มาเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้เหมือนกัน แม่ผิดก็ได้มั้งอาจารย์ นึกไม่ออกว่าเป็นเพราะอะไร เราไม่ใช่คนที่มองคนในแง่ร้าย ใครจะทำอาชีพอะไรก็ทำเลี้ยงตัวเอง ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน"