"ปั้นจั่น" รับมือลั่นโพสต์ภาพวิดีโอคอลกับเพื่อน บอกรีบลบเพราะไม่อยากให้เพื่อนมีปัญหา เผยตอนนี้ไม่ได้คุยกับ "ฐิสา" แล้ว เพราะจังหวะเวลาไม่ตรงกัน แต่ยังมีมิตรภาพดีๆ ให้กันเหมืิอนเดิม ทำใจทำอะไรก็เป็นข่าวไปหมด บอกปีหน้าค่อยเริ่มใหม่ ยันอักษรย่้อพระรองย่องขึ้นห้องนักข่าวไม่ใช่ตน บอกถ้าจะทำแบบนั้นตนไปอาบอบนวดปลอดภัยดีกว่า
ดูเหมือนปีนี้จะเป็นปีชงของนักแสดงหนุ่ม "ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย" จริงๆ เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็เป็นข่าวไปซะหมด ล่าสุดก็มีภาพเจ้าตัวกำลังวืดีโอคอลกับสาวนางหนึ่งออกมา จังหวะเหมาะกับที่ความสัมพันธ์เริ่มห่างกับนาวเอกสาว "ฐิสา วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร" เลยโดนเม้าท์ไปว่าสาวคนนี้หรือเปล่าเป็นสาเหตุให้ความสัมพันธ์กับนางเอกสาวไม่คืบหน้า โดยหนุ่มปั้นจั่นก็ออกมายอมรับแล้วว่าตนมืิอลั่นลงภาพนั้นไป แต่ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นแค่เพื่อน
"สำหรับเรื่องวิดีโอคอล คือผมต้องบอกก่อนว่ามันคืออุบัติเหตุ มือลั่น เพราะผมกำลังจะโพสต์อีกรูปหนึ่ง แต่ปรากฏว่ามันกลายเป็นรูปนั้น ซึ่งโดยปกติผมเป็นคนที่ชอบคุยวีดีโอคอลกับเพื่อนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเพื่อนผู้ชายหรือเพื่อนผู้หญิง ซึ่งก็เป็นไปตามที่บอก มือลั่น หลังจากนั้นผมก็รีบลบภาพออกไปทันที เพราะไม่อยากให้เพื่อนเดือดร้อน ส่วนเรื่องมือที่สาม มันไม่มีอยู่แล้วครับ มันไม่มีทางเป็นไปได้ มันไม่เคยเกิดขึ้น เพราะว่าผมยังไม่ได้มีแฟน หรือคบกับใคร"
"ส่วนกับน้องฐิสา ผมต้องบอกว่ามันเป็นเวลาที่ดีนะครับ และสิ่งที่ผมพูดไปทั้งหมดตั้งแต่แรก ผมพูดด้วยความจริงใจ ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ มาโดยตลอด แต่เมื่อเวลาผ่านไปด้วยหน้าที่การงานต่างๆ มันอาจจะทำให้จังหวะของเราสองคนไม่พอดี และทำให้เราต้องห่างกัน แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว มิตรภาพ รวมถึงความเป็นพี่น้องของเราก็ยังเหมือนเดิม ถามว่าไม่ได้จีบแล้วใช่ไหม คือไม่ได้คุยกันมาสักพักแล้วครับ เพราะต่างคนก็ต่างยุ่ง ผมเองก็ต้องเตรียมตัวสำหรับการบวช แถมยิ่งใกล้บวชมากเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนว่าปัญหาจะยิ่งรุมเร้า"
ปัดที่เลิกคุยไม่เกี่ยวกับที่อันฟอลโล่ไอจี เพราะตนก็อันฟอลโล่เพื่อนในวงการทุกคน
"ที่ผ่านมาผมไม่เคยออกมาพูดแก้ตัวหรืออะไรเลย เพราะผมรู้สึกว่าการแก้ตัวมันไม่ใช่การที่ทำให้คนที่เขาไม่ชอบเรา กลับมาชอบเราได้ แถม ณ เวลานี้ไม่ว่าผมจะทำอะไรมันก็เป็นข่าวไปซะหมด ดังนั้นสิ่งที่ผมทำได้ดีที่สุดก็คือการทำใจและเข้าใจมันครับ เหตุผลที่เลิกคุยกันเหรอ เรื่องนี้ขอเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัวนะครับ แต่เอาเป็นว่าเราเข้าใจในตัวของกันและกันก็พอ เรายังคงมีมิตรภาพที่ดี เป็นพี่น้องที่ดีต่อกันครับ"
"ถามว่าเป็นสาเหตุทำให้เลิกติดตามอินสตาแกรมเขาด้วยไหม ไม่เกี่ยวครับ แต่ที่ผมเลิกติดตามเป็นเพราะผมไม่อยากเสพข่าวบันเทิงให้มันมากนัก จริงๆ ผมไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนในวงการเลยสักคน ผมพูดตรงๆ เอ่อ...ผมไม่ได้ตัดขาดนะ ผมรักวงการนี้ ผมชอบอาชีพนี้ แต่ผมก็รู้สึกอีกเหมือนกันว่าบางทีผมอาจจะอยู่กับมันไม่ได้ เพียงแต่ผมต้องอยู่ เพราะพ่อแม่ผมยังต้องกิน ผมยังมีแฟนๆ ที่รักผม เพียงแค่ผมเลิกเสพสื่อทางโลกโซเชียลฯ ก็เท่านั้นเอง"
"ถามว่าความรักมันเคยเกิดขึ้นไหมสำหรับเรากับเขา คืออย่าไปเจาะถึงขั้นนั้นเลยครับ เพราะถ้าเจาะไปมันก็จะกลายเป็นประเด็นเปล่าๆ แต่อย่างที่ผมเคยบอก ทุกครั้งเราทุกคนทำเต็มที่ และเราก็หวังว่าจะให้มันดี แต่ในเมื่อมันไม่ใช่ เราก็แค่ต้องยอมรับมัน เหมือนอกหักไหมเหรอ ผมเชื่อว่าทุกคนต้องมีอารมณ์นั้น แต่ The Show Must Go On ไง ผมยังต้องทำงาน ผมยังต้องยิ้มให้กับทุกคน แต่สิ่งที่ผมมองว่ามันเป็นสิ่งที่เหนื่อยที่สุดของคนทำงานในวงการนั่นก็คือ ข่าวและคอมเมนต์ต่างๆ จากบุคคลอื่น ผมกล้าพูดเลยว่า ณ เวลานี้ไม่ว่าใครสะดุด หรือใครหกล้มสักนิดหนึ่ง ต้องโดนถล่ม ฉะนั้นคนที่เป็นนักแสดงเขาอดทนกันมากนะ ถึงแม้อาชีพของเราจะเป็นคนของประชาชน เป็นบุคคลสาธารณะ แต่ก็อยากให้เห็นใจเราสักนิด เราก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง การที่คุณจะว่าจะด่าทอเรา เราก็อยากให้คุณมารู้จักกับเราจริงๆ ก่อน"
ทำใจจากเคยเป็นสามีแห่งชาติ ตอนนี้เป็นได้แค่ไอ้ปั้นจั่น
"ถามว่าเพราะผมไม่ค่อยโอเคกับกระแส Bully ในโซเชียลฯ หรือเปล่า มันก็ไม่เกี่ยวหรอกครับ แต่ว่าปีนี้ผมโดนมาตลอดไง หน้ามือเป็นหลังมือเลย ทำอะไรก็ผิดไปหมด จากที่เคยเป็นสามีแห่งชาติ ตอนนี้กลายเป็นไอ้ปั้น คำหยาบมีเข้ามามากจนผมเลิกอ่าน แต่ก็เข้าใจนะครับ และเวลาเห็นเพื่อนคนอื่นๆ โดน ก็คิดด้วยว่า อีกหน่อยคงไม่มีใครกล้าพูด หรือกล้าสร้างสรรค์อะไรแล้ว"
"จริงๆ ตัวผมเอง ผมไม่ได้อยากเป็นข่าวเลยนะ ผมอยากจะแค่ทำงานแล้วเดินกลับบ้านด้วยซ้ำ ผมอยากสร้างสรรค์ผลงานให้กับคนที่ชอบดูละครของผม และผมก็กลับบ้านมากกว่า ผมไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้น แต่ในเมื่อวงจรมันเป็นแบบนี้ ดาราต้องมาพร้อมกับสื่อ ออกมาพูดนู่นพูดนี่ ฉะนั้นมันก็ยังจำเป็นที่จะต้องอยู่ต้องพูด"
"จริงๆ เวลาที่ผมพลาด ผมก็อยากตบหัวตัวเอง อยากจะชกหน้าตัวเองให้ปากแตกเลยนะ เพราะผมพลาดอ่ะ ผมทำให้ตัวเองถูกด่าอีกแล้ว ซึ่งมันเหนื่อยนะ ผมท้อ ผมพูดจริงๆ ปีนี้เป็นปีที่แบบ...ซิกมาก เอาไว้ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่ ส่วนพวกโรคซึมเศร้าโรคอะไรต่างๆ มันต้องเอามาอ้างหรอก เพราะไม่มีใครเขาเชื่อ ถึงพูดไปคนก็ไม่เชื่อ พูดไปคนก็หาว่าสำออยอีก ฉะนนั้นสิ่งที่ทำได้สำหรับคนในวงการก็คือ แข็งแกร่งที่สุด อดทนที่สุด ระวังที่สุด ระวังแล้วระวังอีก เอาตรงๆ นะ ตอนนี้ผมปิดช่องทางโซเชียลฯ หมดทุกอย่าง ยกเว้นอินสตาแกรม เพราะผมยังมีลูกค้า แต่ถ้าผมไม่มีลูกค้าผมลบไปแล้วครับ"
"เหนื่อยครับ เหนื่อย ตอนนี้ผมคิดแค่อย่างเดียวว่าผมทำงานเพื่อครอบครัว และงานนี้มันก็เป็นอาชีพที่ผมถนัดที่สุด ผมทำมันมาเกือบทั้งชีวิตแล้ว ดังนั้นถ้ายังมีคนดู มีคนรัก มีแฟนละครที่ติดตามผม ผมก็จะยังคงทำงานต่อไป ถามว่าเคยคิดอยากพักงานในวงการบ้างไหม ผมมองว่าใครๆ ก็อยากเข้ามาในจุดนี้นะ ฉะนั้นในเมื่อผมก้าวมาทั้งตัวแล้ว ผมก็คงจะต้องคุมพื้นที่ของผมให้ดี ผมยังรักในการแสดงอยู่ แต่ถามว่าความเหนื่อยมันมีไหม แน่นอนครับว่ามันมี แต่ผมเชื่อว่าเวลามันจะช่วยเยียวยาทุกอย่าง การตัดสินใจบวชของผม ไม่ใช่เพราะผมอยากบวชหนีปัญหา แต่ผมมีแพลนของผมมาตั้งนานแล้ว"
ยันข่าวเม้าท์ พระรองอดีตนักร้องเคาะประตูห้องนักข่าวไม่ใช่ตนแน่นอน
"อันนี้ก็ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก เรื่องนี้มันตลกมาก เพราะมันไม่มีทางที่จะเป็นผม แต่คงเพราะผมเป็นที่รักของชาวเน็ตมั้ง เขาก็เลยเขียนกันมา ปจ. ปจ. ปจ. ซึ่ง ปจ. ก็มีอยู่คนเดียว ปั้นจั่น ที่หลังไม่ต้อง ปจ. หรอก เขียนชื่อเต็มให้แม่กูรู้ไปเลยว่ากูไปขึ้นห้องนักข่าว (หัวเราะ) แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็คือ ข่าวนี้มั่วมากๆ ผมไม่ได้ขึ้นห้องใครทั้งนั้น คือ...ถ้าผมจะไปจบอย่างนั้น ผมไปอาบอบนวดดีกว่า ผมพูดตรงๆ นักแสดงทุกคนครับ อาบอบนวดปลอดภัยที่สุด"