xs
xsm
sm
md
lg

ผ่าทางรอด ครอบครัวตลกชวนชื่น “จอย” ไม่มีงาน “จิ้ม” งานน้อย เชื่อ “แจ๊ส” ไม่ปล่อยพี่น้องขอข้าววัดกิน!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“จิ้ม ชวนชื่น” เผย “จอย ชวนชื่น” ไม่มีงาน เพราะผ่านจุดพีก แต่อีกฝ่ายยังมีธุรกิจร้านกาแฟ บอกอย่างน้อยไม่ได้เล่นพนัน มีเงินเก็บบาลานซ์ชีวิต ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายอด ไม่ตกอับถึงขนาดขอกันกิน เชื่อ “แจ๊ส” ไม่ปล่อยให้พี่น้องขอข้าววัดกิน ชมอีกฝ่ายเลี้ยงพ่อดี ทำให้แอ็กทีฟ เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เหนือกว่าเงิน รับถึงยุคตลกเปลี่ยน ต้องเปลี่ยนสี แต่ขอคิดให้รอบคอบ โหยหารายการครอบครัว



“ดม ชวนชื่น” ตลกรุ่นลายคราม หลุดพูดในรายการหนึ่งระบุว่า “จอย ชวนชื่น” ไม่ค่อยมีงาน งานนี้ “จิ้ม ชวนชื่น” เลยออกมาเผยว่าเป็นเพราะอีกฝ่ายผ่านจุดพีกมาก่อน ถึงจะไม่มีงานแต่ไม่ตกอับถึงขนาดขอกันกิน และตนไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายอดแน่นอน

มันก็อยู่มาตั้งนานแล้ว และช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงพีกในยุคของเราที่เป็นตลก เล่นตลกโชว์ สมัยก่อนที่ตลกล้นเลย มีละคร มีนิทาน มีปริศนาที่ใช้ตลกเล่น แต่ตอนนี้เป็นยุคของรายการเพลงที่มันจะต้องมีการสลับสับเปลี่ยนตัวเอง แล้วอายุมันมากขึ้น จะให้ไปยืนเป็นพิธีกรมันก็ไม่ใช่เหมือนสมัยก่อน ทีนี้ภาพมันก็จะตกไปอยู่ที่ละครมากกว่าแล้ว”

คือเราคงไม่ปล่อยให้มันอดหรอกเนอะ เรื่องงานน้อยลงเขาก็ต้องมีเก็บ มีทำของเขา เขาก็ต้องมีทุกอย่างที่ต้องสร้างเอาไว้ เพราะว่าที่ผ่านมาในชีวิตน้องจอยก็ไม่ได้ไปเล่นการพนัน ไม่ได้ไปเสียหาย เขาก็มีเงินอยู่ ก็ต้องบาลานซ์กันตัวเอง เราเองก็มีงานน้อยลงก็สุดแล้วแต่ด้วยสภาวะที่เปลี่ยนไป สิ่งที่โหยหามากกว่าคืออยากมีรายการของชวนชื่นที่เป็นครอบครัวให้คงไว้อยู่ ชื่อจะได้ไม่หาย เพราะชวนชื่นก็ 30 กว่าปีแล้ว ก่อนหน้านี้ก็เคยมี แต่ด้วยรูปแบบที่มันเปลี่ยนไป ก็แยกกันไป”

“ตัวเราเองก็เบื่อรูปแบบที่เป็นแบบนั้นเหมือนกัน เราอยากได้รูปแบบที่คิดขึ้นมาใหม่ ยังไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะพลิกยังไง เพราะการพลิกคาแรคเตอร์การแสดงของตลก ถ้าหากว่ามันเน่ามันก็จะยิ่งเละเทะกันใหญ่ ฉะนั้นต้องคิดให้ดี ต้องค่อยๆ ก้าวหน่อย และสภาวะชวนชื่นน่ะเราอยากเป็นผู้ผลิต ไม่ได้อยากเป็นผู้จัด ถ้าเราอยากเป็นผู้จัดเราคงไปซื้อเวลาและบริหาร ซึ่งแบบนั้นมันไม่มีใครจะเป็นเฮด เพราะว่าเราเป็นครอบครัวที่มีผลประโยชน์เท่ากัน ถ้าเกิดใครไปเป็นนายทุนสักคนหนึ่ง รูปแบบของความเป็นครอบครัวของผมจะหาย ดังนั้นก็ไม่มีใครกล้าหรอก ก็เลยรออยู่ว่าใครจะจ้าง ก็เป็นธรรมดา ไปคุยที่โน่นที่นี่และบางครั้งด้วยสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้มันก็ไม่ลงตัว”

ไม่ตกอับถึงขนาดขอกันกิน เชื่อ “แจ๊ส ชวนชื่น” ไม่ปล่อยให้พี่น้องขอข้าววัดกิน ชมอีกฝ่ายเลี้ยงพ่อ ทำให้แอ็กทีฟ เหนือกว่าเงิน
“มันยังไม่ถึงขนาดนั้น มันยังไม่ถึงขนาดไปขอกันกิน แต่ว่าถ้าถึงขนาดขอกันกิน ไอ้คนที่มีก็น่าจะพอเลี้ยงได้ทั้งครอบครัวแหละ (ยิ้ม) ไอ้แจ๊สมันคงไม่ปล่อยให้พี่ๆ น้องๆ ไปขอข้าววัดกินหรอก

ถามว่าแจ๊สช่วยเหลือครอบครัวยังไง มันก็ยังไม่ได้มีถึงขนาดนั้น แค่เอาพ่อไปดูแลได้นี่ก็ฟลุกแล้ว เพราะเราก็เป็นห่วง เราเองก็ยังไปได้ แต่เอาพ่อมาเลี้ยงเขาก็คงไม่ปลื้ม เขาน่าจะยังมีความสนุกกับการทำงานที่ยังโลดแล่นอยู่ เอาพ่อไปคอนเสิร์ตกับแจ๊สได้ตลอด เราก็ถือว่าได้เห็นความแอ็กทีฟของพ่อ ก็แสดงว่าเขาจะยังอายุยืนได้ เขายังสนุกได้ ยังไม่เหี่ยวเฉา เหนือสิ่งอื่นใดที่จะมีเงินเลี้ยงพ่อก็คือมีที่ให้พ่อได้แอ็กทีฟตัวเอง ทำให้ตัวเขาไม่แก่ นี่เหนือกว่าเงินอีก เราดีใจนะ”

พ่อเขาก็ทิ้งให้ผมเป็นพี่ใหญ่อยู่แล้ว ก็ไม่ได้กดดันนะ เพราะเวลาจะเรียกน้องๆ ทำงานแต่ละโปรเจกต์นี่ลำบากมากเลย เพราะแต่ละคนอยู่คนละที่ เป็น 10 คน ยากมากกว่าจะมานั่งห่วงเขาอีก เพราะน้องๆ มันมีที่ไป ยังมีงานทำอยู่ เราก็สบายใจมากกว่า แต่เราก็อยากให้มีรายการชวนชื่นแค่นั้นเอง”

ไม่อยากพูดเรื่องจอยให้ดูดีหรือดูแย่ เผยอีกฝ่ายมีธุรกิจร้านกาแฟ ส่วนตัวยังไม่ปิ๊งไอเดียดีๆ บอกการเปลี่ยนสีต้องค่อยเป็นค่อยไป
“ก็ไม่รู้จะพูดยังไงนะ เพราะบางอย่างพูดไปแล้วไม่รู้ว่ามันจะดูดีหรือดูแย่ หรือเราควรปล่อยให้เป็นไปตามกระแสที่คนคิดกันอย่างนั้น นี่มันก็เพิ่งกลับมาจากเกาหลีนะ ไปกันทั้งครอบครัวเลย (ยิ้ม) ไปดูไอจีมันสิ มันคงไม่พายเรือไปเกาหลีหรอก (หัวเราะ)

“เขาก็มีธุรกิจกาแฟของเขานะ เห็นเขาไปขายหลายที่เหมือนกัน เขามีกาแฟของเขาที่ร่วมทำกับกลุ่มของเขา วงการเปลี่ยนก็มีผลกระทบต่อตลก ที่โผล่มันก็น้อยลง แต่ถ้าเราบาลานซ์ตัวเองดี ที่ผ่านมาผมก็ไม่ใช่นักลงทุน เพราะฉะนั้นเงินที่เราทำมาหากินมันก็อยู่ตามจำนวนของเรานั่นแหละ ก็เอามาแบ่งใช้เอา ทุกคนก็เป็นอย่างนั้น เพราะว่าเศรษฐกิจมันเป็นอย่างนี้ นอกจากเราจะปิ๊งไอเดียแล้วเกิดทำอะไรขึ้นมา มันก็จะเป็นผู้นำแฟชั่นและเป็นอะไรที่ทำให้เราได้หวือหวือกันการขายงานเท่านั้นเอง”

แต่ตอนนี้ยังไม่ปิ๊งไอเดียอะไรเลย รูปแบบมันก็เก่า แต่มันก็เป็นสิ่งที่เป็นตัวเรา การที่จะเปลี่ยนสีแต่ละครั้งเปลี่ยนแล้วมันกลับไปกลับมาไม่ได้ มันต้องคิดให้ดี ก็ค่อยๆ คิดค่อยๆ เรื่อยๆ เพราะน้องๆ มันยังทำมาหากินอยู่ได้ เราก็ไม่ต้องรีบ ยังไม่ต้องถึงขนาดมาขอข้าวกินกันก็ยังไม่เป็นไร ทุกคนก็ยังโผล่โน่นโผล่นี่กันอยู่”

(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)



กำลังโหลดความคิดเห็น