“ประวิช” นำผู้บริหาร กกต.จับมือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนเตรียมการเลือกตั้ง เผย 54 พรรคตอบรับเข้าร่วมประชุมกับกกต.แล้ว เพื่อเตรียมปรับให้เป็นไปตามกฎหมายใหม่ ย้ำยืนยันสมาชิกต้องให้เสร็จใน 30 วัน เชื่อพรรคเก่าไม่ยุ่งยาก
วันนี้ (26 มี.ค.) นายประวิช รัตนเพียร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงาน กกต. ประชุมร่วมกับอุปนายกในนามสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย หรือ สสอท. และผู้บริหารของสมาคม หารือภารกิจการรณรงค์เผยแพร่และประชาสัมพันธ์เตรียมการเลือกตั้งทุกระดับ นายประวิชกล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการส่งเสริม และสร้างความรู้ ความเข้าใจให้แก่สถาบันการศึกษาเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน การตรวจสอบการเลือกตั้ง และพิจารณาการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมกัน โดยมุ่งหวังว่าภายหลังจากการหารือร่วมกันแล้ว ผู้บริหารของที่ประชุมใหญ่อธิการบดีแห่งประเทศไทย และสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย จะได้ให้ความร่วมมือและสนับสนุนภารกิจของสำนักงาน กกต.ในการรณรงค์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง และแนวทางการดำเนินกิจกรรมร่วมกันในหลายรูปแบบ ก่อให้เกิดผลอย่างกว้างขวาง และมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รักษาการเลขาธิการ กกต.กล่าวว่า สมาคมมหาวิทยาลัยที่ได้ลงนามร่วมกับ กกต.ในหลักสูตรเสริมสร้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ประกอบด้วยมหาวิทยาลัยในต่างจังหวัด 66 แห่ง และใน กทม.25 แห่ง ที่พร้อมจะเข้าร่วมโครงการ และนำหลักสูตรไปเผยแพร่ในการเลือกตั้ง รวมทั้งอาจมีการเปิดให้จัดหน่วยเลือกตั้งในมหาวิทยาลัยด้วย
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ยังกล่าวถึงการประชุมชี้แจงแนวปฏิบัติตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองให้กับพรรคการเมืองที่ดำเนินกิจการอยู่ในวันที่ 28 มี.ค. ว่ามีพรรคการเมืองที่ตอบรับเข้าร่วม 54 พรรค จากที่มีพรรคเมืองซึ่งดำเนินกิจการอยู่ในปัจจุบัน 69 พรรค โดยผู้เข้าร่วมประชุมจะประมาณ 300 คน โดยทาง กกต.จะได้ชี้แจงถึงแนวทางในการปฏิบัติตามกฎหมายในหลายเรื่อง ทั้งการยืนยันการเป็นสมาชิกพรรค คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะเป็นสมาชิก การจ่ายเงินบำรุงพรรค การทำไพรมารี่โหวต รวมถึงแนวทางการยื่นหนังสือขออนุญาต คสช.ในการจัดประชุมพรรค ซึ่งในส่วนการยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคนั้น สมาชิกของแต่ละพรรคเดิมหากยังประสงค์ที่จะเป็นสมาชิกอยู่ก็ต้องยื่นหลักฐานยืนยันเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. โดยพรรคต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 30 วัน หากพ้นกำหนดเวลาแล้วไม่ยื่นยืนยันก็จะถือว่าพ้นจากการเป็นสมาชิก ส่วนกรรมการบริหารพรรคหากพรรคยังจะใช้ชุดเดิมก็สามารถยืนยันได้ แต่กรรมการบริหารที่จะดำรงตำแหน่งต่อต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายใหม่กำหนด ทั้งนี้ เชื่อว่าการดำเนินการของพรรคการเมืองเก่าจะไม่ยุ่งยากซับซ้อน หรือทำให้เกิดปัญหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 มี.ค.) ยังคงมีกลุ่มการเมืองเดินทางมายื่นขอจดจองจัดตั้งพรรคการเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเช้า นายทวีลาภ แสไพศาล มายื่นขอจัดตั้งพรรคพึ่งตนเอง เป็นลำดับที่ 71 จากนั้น พ.ต.อ.ศรศักดิ์ แก้วรักษา อดีตรอง ผบก.ปปป.มายื่นขอจดแจ้งพรรคพลังเสียงประชาชน เป็นลำดับที่ 72 โดยมีกลุ่มคนหน้าคล้ายศิลปินมาให้กำลังใจในการยื่นสมัครในครั้งนี้ด้วย เช่น ป๋าเทพ แจ๊ส ชวนชื่น พี่อี๊ด-วงฟลาย และไมค์ ภิรมย์พร ได้รับความสนใจและสร้างความคึกคัก จากนั้นลำดับที่ 73 พรรคกรรมาชีพ ยื่นคำขอโดยนางสมพร ทองตะนุนาม และลำดับที่ 74 พรรคไทยอาสา ยื่นโดย ว่าที่ ร.อ.อมร ย่อจันทร์