xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) สารภาพสิ้นไส้! “ม้า” เปิดใจน้ำตาคลอ รีวิว “เมจิกสกิน” หลอกลวงปชช. แต่ยันไม่ได้เป็นฆาตกร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ม้า อรนภา” เข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวน คดีรับจ้างรีวิว “เมจิกสกิน” สารภาพรีวิวโดยไม่ได้ใช้สินค้าจริง ได้ค่าจ้าง 2 หมื่น เข้าข่ายหลอกหลวงประชาชน โต้หลบหนี ไม่ยอมรายงานตัววันที่ 4 พ.ค. ยันเพิ่งได้รับหมายเรียกเมื่อวาน งงถูกสังคมตราหน้าว่าผิด และไม่ยอมรับผิด สงสารแม่อายุ 93 ปีต้องทุกข์ใจและกลัวมาก น้ำตาคลอบอกไม่ได้เป็นฆาตกร ยินดีให้ความร่วมมือตำรวจ



เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในคดีรับจ้างรีวิวสินค้า “เมจิกสกิน” แล้ว สำหรับพิธีกรชื่อดัง “ม้า อรนภา กฤษฎี” โดยเมื่อเวลา 09.00น. ของวันนี้ (5 พ.ค.) เจ้าได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ที่กองบังคับการปราบปราม ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพ โดยใช้เวลาในการให้ปากคำประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เผยว่าตนได้รีวิวสินค้าเมจิกสกินไปโดยไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์นั้นจริง ยอมรับหลอกลวงประชาชน ลั่นตอนนี้เลิกรับรีวิวแล้ว ส่วนที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่าเจ้าตัวไม่ยอมมารายงานตัวตามหมายเรียกวันที่ 4 พ.ค.นั้น ม้า อรนภา น้ำตาคลอพร้อมยืนยันเพิ่งได้รับหมายเรียกเมื่อวาน ตนไม่ได้ทำผิดเป็นฆาตกร ยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่แล้ว

“ไม่เป็นยังไงเลยค่ะ ก็ถามตามที่มันเป็นเรื่องเกิดขึ้นว่าเป็นยังไงก็ตอบไปตามความจริง เราแค่รับรีวิวก็เหมือนคนอื่นๆ ค่ะ เรารับรีวิวครั้งเดียว นานมากแล้วนะ เมื่อกี้ให้ปากคำเท่าที่จำได้นะ เพราะย้อนหลังไปไม่ได้ ลบทิ้งไปตั้งนานแล้ว ก็น่าจะเป็นปีที่แล้ว ก็ได้ 2 หมื่นเอง

ถามว่าทำไมถึงรับรีวิวแบรนด์นี้ มันเป็นอาชีพค่ะ อันอื่นก็รับค่ะ(หัวเราะ) ได้ตรวจสอบสินค้าก่อนมั้ย ก็จริงๆ แล้วเวลาสินค้ามันมาอยู่ในมือเราก็คิดว่ามันคงจะผ่านทุกสิ่งทุกอย่างมาอย่างถูกต้องแล้ว ไม่งั้นก็คงเอาออกมาขายไม่ได้ ทุกคนก็คงจะคิดอย่างนั้นเหมือนกัน เราเห็นกล่อง เห็นซองมันก็มีรายละเอียด อย. มีวันหมดอายุอยู่ เวลาจะรีวิวหรือซื้อของเราก็จะเห็นอยู่แล้วว่ามันมี”

ยันไม่รู้จักเจ้าของสินค้า และไม่ได้ลองใช้ก่อน บอกคงเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน
“เขาติดต่อเรามาโดยตรงค่ะ เราไม่มีผู้จัดการ คนกลางเขาเป็นคนติดต่อมา ส่วนกับเจ้าของเราไม่ทราบเลย ไม่รู้จักเจ้าของ ตอนรีวิวเขาก็มีสคริปต์มาให้ ต้องมีสคริปต์อยู่แล้ว (ได้ลองใช้มั้ย?) ไม่ค่ะ คนอื่นเขาอาจจะลอง แต่ดิฉันไม่ลอง ไม่ได้ลอง ก็อาจจะเป็นความผิดพลาดของตัวเองก็ได้มั้งค่ะว่าไม่ได้ลองสินค้าก่อน ก็คงจะเข้าข่ายการหลอกลวงใช่มั้ย ก็คงจะอย่างนั้น แต่ว่าก็ไม่เคยลอง มันเป็นอาชีพของเรา รีวิวก็รีวิวไปเรื่อยค่ะ เขาติดต่อมาก็รีวิว หลังจากนี้ก็ไม่ต้องมาอะไรแล้ว ก็แค่มาให้ปากคำเป็นพยาน แค่นั้นเอง”

รับข่าวนี้ไม่กระทบตัวเอง แต่ทำให้แม่อายุ 93 ทุกข์ใจ และกลัว ห่วงตนเพราะเป็นลูกคนเดียวที่ดูแลแม่ 
“จริงๆ แล้วมันไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรเลย นอกจากว่าทำไมมันถึงทำให้ตัวเองดังมากขนาดนั้น แค่นั้นเองนะ กับอันที่สองคือเวลามีข่าวอะไรออกไป แล้วก็เป็นข่าวที่ไม่ทราบว่าจะเกินจริงหรือว่าเป็นข่าวที่ออกกันไปเอง หรือว่าอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งตัวเราเองก็ยังไม่รู้เลยถึงขนาดนั้นเลยนะคะ แต่ข่าวนี้มีผลกระทบทางครอบครัวของดิฉันมาก คุณรู้มั้ยว่าทำให้คุณแม่ของดิฉันไม่สบายใจเลย ในขณะที่ท่านอายุ 93 ดิฉันดูแลเขาสุดๆ เลยนะ เพราะอายุขนาดนี้แล้ว เขาต้องมีความรู้สึกที่ดี สุขภาพจิตต้องดี แต่พอมีข่าวแบบนี้เขาทุกข์ใจนะ แล้วก็กลัวมาก เราเป็นลูกคนเดียวด้วย ดิฉันก็เป็นห่วงมากเลยตอนนี้”

“ถ้าถามว่าจะเลือกมากขึ้นมั้ย ดิฉันคิดว่าเจ้าของสินค้าคงจะคิดมากขึ้นมากกว่า ว่าจะต้องทำอะไรที่มันถูกต้องมากขึ้นเท่านั้นเอง ดิฉันเป็นผู้รับจ้าง เพราะฉะนั้นทุกๆ ครั้งที่รับจ้างก็คือคิดว่าทุกอย่าง เมื่อเวลาออกสู่ตลาดแล้ว หรือมาอยู่ในมือของเราแล้ว ให้เรารีวิวแล้ว มันก็น่าจะถูกต้อง (ที่รับรีวิวไปมีกี่ตัว?) ก็ไม่มีแล้วมั้งคะ นอกจากของตัวเองที่เพิ่งเปิดตัวไป แต่ของเรานั้นถูกต้อง ก่อนหน้านี้ก็คงจะเยอะอยู่ แต่ว่าอาทิตย์เดียวเลิกๆ

บอกเข้าข่ายโกหกหลอกลวง มีโทษปรับตั้งแต่ 3 หมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ
“มีเหตุการณ์ขนาดนี้ แล้วตำรวจไปทลายสิ่งปลอมๆ ทั้งหมดขนาดนี้ มันจะมีอีกมั้ยค่เนี่ย ก็ต้องไปถามคุณตำรวจดีกว่า ถามว่าตำรวจแจ้งอะไรเรามั้ย มันมีความผิดอยู่แล้ว ดิฉันก็ยอมรับว่ามันเป็นความผิด แต่ว่ามันจะเป็นความผิดที่เราไม่ได้รู้ ตำรวจเขาก็ชี้แจงค่ะว่าเข้าข่าย โกหก หลอกลวง เกินจริง ก็มีปรับตั้งแต่ 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จำคุก 1 ปี แล้วก็ปรับ 1 หมื่นบาท แล้วอันสุดท้ายคือปรับแค่ 5 พันบาท คือต้องเป็นประเภทที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่”

“เรื่องไม่ได้ใช้สินค้าก่อนรีวิวคือมันก็เป็นความผิดอยู่แล้วเป็นธรรมดา เราก็ยอมรับในสิ่งตรงนี้ ดังนั้นที่เรามาคุยกันในวันนี้ คือจริงๆ ทางกองปราบปราม ขอร้องดาราหรือคนที่มีชื่อเสียง หรือพวกเน็ตไอดอล เขาบอกว่าถ้าพวกคุณเป็นผู้ที่มีชื่อเสียง เวลาพูดอะไร ประชาชนเชื่อถือแน่นอน แล้วก็มักจะทำตาม ก็เลยของร้องว่าให้อยู่ในเรื่องราวของการประสัมพันธ์ในสิ่งที่ถูกต้อง ที่ดี ที่ใช่ ซึ่งอันนี้เราก็โอเคเราก็ให้ความร่วมมือได้อยู่แล้ว คืออะไรที่มันถูกต้องมา เราก็พูดของเราอยู่แล้ว เราก็ทำอยู่แล้ว ไม่ใช่มาหลอกเราว่ามันเป็นความถูกต้อง แล้วจริงๆ มันคือของที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบมาอย่างถูกต้อง เราก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็พอๆ กับประชาชนทั่วไป

ยันไม่ฟ้อง อายุเยอะแล้ว คาดไม่ถึงจะต้องมาเจออะไรแบบนี้
ไม่ค่ะๆ จะไปฟ้องอะไรล่ะคะ เรื่องค้าความไม่สมควรจะมี เราก็ถูกสอนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร มันเป็นเรื่องวุ่นวาย แต่ถ้ามันเจอซึ่งดิฉันเองก็ไม่คิดว่ามันจะเจอ แล้วก็ไม่คิดว่ามันจะใหญ่โตขนาดนี้ เมื่อมาเจอในเรื่องค้าความแบบนี้ ก็ต้องค่อยๆ แก้ไขไปเป็นเรื่องราวไป ดิฉันอายุก็เยอะแล้วนะคะ ก็ยังงงอยู่นะคะ ว่าไม่น่าจะเจออะไรอย่างนี้(ยิ้ม)”

เผยถูกตราหน้าเป็นคนผิดที่ไม่ยอมรับผิด หลบหนีหมายเรียก ยันไม่ได้เป็นฆาตกร พร้อมให้ความร่วมมืออยู่แล้ว
“ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่าดิฉันเป็นรายแรกเลยที่ถูกหมายเรียกมาพบ แล้วก็มีวันนัดหมายเสร็จเรียบร้อย ดิฉันเองก็ได้ทราบพอๆ กับประชาชนทั่วไป ในการออกข่าวตามโทรทัศน์ แล้วพอมาอีกทีหนึ่ง ข่าวก็บอกว่า ดิฉันไม่ยอมมา ต้องการที่จะหลบหนี อันนี้ก็แบบดิฉันจะหลบหนีได้ยังไง หน้าออกโทรทัศน์ทุกวัน อ่านข่าวอยู่ทุกวัน ไม่ทีทางหลบหนีไปไหนใดๆทั้งสิ้น ดิฉันก็เลยสอบถามกับทางผู้ใหญ่ทุกคน บอกว่าควรจะต้องทำยังไง ในเมื่อมันไม่มีการแจ้งมาก่อน ไม่ได้มีการติดต่อมา ไม่ได้มีหมายเรียกที่จะให้มาพบ เราก็คงไม่ต้องไปหรือว่ามาปรากฏตัว หรือมาสอบสวนเป็นพยานทั้งสิ้น ดิฉันก็ทำตามนี้ถูกต้องแล้ว แล้วข่าวก็ไปออกว่าดิฉันหนี ต่างๆ นานา ( น้ำตาคลอ) จนกระทั่งในโซเชียลก็ตราหน้าว่าดิฉันเป็นคนทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด มันคืออะไร ต้องบอกว่าอะไรก็แล้วแต่ที่มันเกิดขึ้นมันยังไม่มีหมายใดๆ ทั้งสิ้นเลยนะคะ ไม่งั้นดิฉันก็ไม่รู้จะมาทำไม สอบถามผู้ใหญ่หมดทุกคนแล้วด้วย ว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง จนกระทั่งเมื่อวานนี้ มีหมายมา ส่งมาพอได้รับ ดิฉันก็โทร.มาที่กองปรางปรามทันที แล้วก็นัดหมายทันที แล้วก็เข้ามา เราให้ความร่วมมืออยู่แล้วค่ะ ต้องบอกว่าดิฉันไม่ได้ทำผิด เป็นฆาตกร ก็ไม่ต้องทำอะไรหรือคิดอะไรมากถึงขนาดนั้น ขอบคุณมากค่ะ”

อย่างไรก็ตาม ตามที่ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนคดีเมจิกสกิน ออกหมายเรียกศิลปินนักร้อง-นักแสดงที่รีวิวสินค้าดังกล่าว รวมทั้งสิ้น 12 คน ขณะนี้ได้ติดต่อเข้ามาขอให้ปากคำต่อ พล.ต.อ.วิระชัย ครบ โดยได้เข้าให้ปากคำแล้วจำนวน 6 คน และได้กำหนดนัดหมายเข้าพบเพื่อให้ปากคำแล้ว 6 คน ประกอบไปด้วย ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ, โฟร์ ศกลรัตน์ วรอุไร, กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย, มาร์กี้ ราศรี บาเล็นซิเอก้า, ป๊อก ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ และ เจสซี วาร์ด

(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)













กำลังโหลดความคิดเห็น