“โบว์ แวนดา” แตกหัก “อาน้ำอ้อย” ผู้จัดการสามี “ปอ ทฤษฎี” ลั่นต่อจากนี้ขอให้ต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องเคลียร์ ไม่ต้องเข้าบ้าน ยอมรับความคิดไม่ตรงกัน แต่ยันไม่เกี่ยวเรื่องเงิน กรีดมีสมองพอที่จะไตร่ตรอง ไม่ใช่คนหูเบา อยากซัดปากคนบอกตีจากอีกฝ่ายเพราะอยากมีสามีใหม่ กร้าวไม่มีในหัว ออกตัวไม่ได้ร้องไห้เพราะถูกด่าเนรคุณ เห็นแก่เงิน แต่หลั่่งน้ำตาเพราะเสียใจต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ
หลังจากที่มีเรื่องดรามาเกิดขึ้นระหว่าง “โบว์ แวนดา สหวงษ์” ภรรยาพระเอก “ปอ ทฤษฎี สหวงษ์” กับผู้จัดการคู่บุญ “อาน้ำอ้อย ศรมนตรา” โดยเรื่องเกิดหลังจากที่โบว์โพสต์ข้อความดรามาในไอจีไม่รักไม่ว่า แต่อย่าทำร้ายกันลับหลัง ต่อมาโพสต์ชื่อและเบอร์โทรศัพท์คนที่จะมาดูแลรับงานให้ จนถูกพุ่งเป้าไปว่าข้อความดังกล่าวหมายถึงอาน้ำอ้อยหรือไม่ ในขณะที่อาน้ำอ้อยบอกว่าคงไม่ใช่ตน แต่งงมากที่อีกฝ่ายโพสต์ข้อความดังกล่าว เคยเตือนแล้วแต่ก็ไม่ฟัง บอกอาจจะได้ยินอะไรมา และไม่น่าหูเบา
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงดรามาดังกล่าวจากสาวโบว์ ในงานแถลงข่าวโครงการ from hat to heart ณ เดอะช็อปปส์ แกรนด์ พระราม 9 เจ้าตัวก็เผยว่าเรื่องนี้จบแล้ว แต่บอกเลยว่าไม่ต้องเคลียร์
“จบไปแล้วนะ ทุกสิ่งทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ถามว่าเกิดอะไรขึ้น คนเรามีเหตุผลทุกอย่าง เอาง่ายๆ เราอยากปกป้องตัวเรา ถามว่าไปรู้หรือเจออะไรมา มันจบไปแล้วไม่อยากจะพาดพิงถึงใครแล้วโบว์เชื่อว่าทุกคนก็คงทราบ สิ่งที่โบว์ทำไป ยอมรับว่ามีหลายๆ คนที่ไม่เข้าใจ แล้วทุกสิ่งทุกอย่างไตร่ตรองมาจากตัวเรา ไม่ใช่เอะอะอะไรมาโพสต์จะเอากระแส โบว์ไม่ได้อยากจะเอากระแส โบว์ไม่ต้องกระแส เพราะว่าโบว์เป็นอย่างไรมาก็อยากเป็นอย่างนั้น”
ลั่นไม่ต้องเคลียร์ ต่างคนต่างอยู่ เผยพ่อสามีออกมาซัปพอร์ตไม่เกี่ยวกับตนเป็นลูกสะใภ้ เชื่อมีวุฒิภาวะที่เป็นผู้ใหญ่พอ
“ไม่ (ลากเสียง) ไม่ได้คุยกันนานมากแล้วและคิดว่าต่างคนต่างอยู่และใช้ชีวิตของตัวเอง เรื่องที่คุณพ่อพี่ปอออกมาซัปพอร์ต ตอนที่ท่านสัมภาษณ์โบว์ไม่ได้คุยกับคุณพ่อ ด้วยตัวของโบว์ถ้ามีปัญหาไม่ได้บอกกับครอบครัว ก็อย่างที่คุณพ่อสัมภาษณ์มาก็ตามคุณพ่อเลย ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเราเป็นลูกสะใภ้ท่านแล้วท่านต้องซัปพอร์ตเรานะ โบว์เชื่อว่าคุณพ่อพี่ปอมีวุฒิภาวะที่เป็นผู้ใหญ่พอ”
ปัดแตกหักเพราะเงิน ถึงจะสำคัญแต่ไม่ได้สำคัญที่สุด บอกมาจากทัศนคติที่ไม่ตรงกัน
“ไม่เคยมี และที่ผ่านมาเรื่องเงินเรื่องทองไม่ใช่ปัจจัยสำคัญสำหรับโบว์ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินสำคัญกับชีวิต แต่เรื่องเงินเรื่องทองไม่ได้สำคัญที่สุดในชีวิต มันเกิดจากทัศนคติไม่ตรงกัน มันไม่มีใครผิดหรอกนะ สิ่งที่โบว์ทำไปหลายคนก็ด่าโบว์ก็ว่าโบว์ ก็บอกตัวเองว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป”
“ถามว่าพอเปลี่ยนผู้จัดการแล้วงานน้อยลงมั้ย โบว์ไม่ได้รับด้วยนะ ก็ไม่ได้อยากจะเป็นกระแสแล้วเรียกงานนะ โบว์คงไม่เอากระแสแบบนี้มาทำให้ครอบครัวโบว์ต้องรู้สึกเจ็บปวดหรืออะไร โบว์ไม่ต้องการ ถ้าไม่ใช่งานในวงการโบว์คงทำงานอย่างอื่นที่เราถนัดได้”
ความคิดไม่ตรง แต่ยังเคารพอาน้ำอ้อย
“ไม่มีเรื่องงานเลย จะมีงานหรือไม่มีงานในวงการมันไม่ใช่สิ่งที่แบบ เฮ้ย มันต้องมี มันไม่ใช่ คืออย่างที่บอกโบว์เจออะไรมาเยอะมาก ทั้งครอบครัวของคุณปู่คุณย่า มันผ่านภาวะนั้นมาแล้วคือมันทำให้โบว์คิดและโตขึ้นเยอะ มองว่า เงินไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต มันเกิดจากความคิดไม่ตรงกัน ก็ยังเคารพคุณอาเหมือนเดิม”
ไม่ถึงขนาดไม่เผาผี แค่อยากอยู่ในจุดที่สบายใจ
“เรื่องเคลียร์หรือปรับความเข้าใจกัน ไม่มี (เรียกว่าไม่เผาผี?) ไม่ขนาดนั้นเราเลยอยู่ในจุดที่เราสบายใจ เลือกในจุดที่เรามีความสุขครอบครัวมีความสุข คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายมีความสุขแค่นั้นพอ แล้วทุกวันนี้เรายังคงห่วงใยท่าน แต่ด้วยว่าคนเรามีทางเลือกให้เรายืนอยู่ตรงจุดไหนให้เราสบายใจทั้งสองฝ่ายมากกว่า”
“เรื่องแฟนคลับแบ่งทีม อย่างแฟนคลับทุกคนโบว์พยายามบอกว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของโบว์ อย่าให้มีความรู้สึกข้างใดข้างหนึ่ง มาทำความรู้สึกที่เราเคยดีๆ ต่อกันทั้งสองฝ่ายมันแย่ ทุกคนมีเหตุผลแต่เราไม่สามารถอธิบายให้คนทั้งโลกเข้าใจ รู้อยู่ว่าทำแล้วโดนด่าแน่นอน คิดเลยว่าวันที่ลงต้องโดนด่าแน่นอนว่าอกตัญญู เนรคุณ เห็นแก่เงิน ยิ่งกว่านี้ก็โดนด่า เก็บตัวอยู่ในบ้านอาทิตย์หนึ่ง เครียดมั้ยก็เครียดนะ ที่ผ่านมาก็มีเรื่องเครียดอยู่แล้ว บอกตัวเองเดี๋ยวมันก็ผ่านไป คำด่าแรงที่สุดก็คงเนรคุณมั้ง อกตัญญู”
ไม่เคยร้องไห้ที่โดนด่า แต่ร้องไห้เพราะเป็นสิ่งที่ไม่อยากทำ ลั่นอยากปกป้องตัวเอง
“โดนด่า โดนว่าไม่ร้องหรอกค่ะ เพราะโดนมาเยอะแล้ว แต่ที่ร้องคือเราร้องในสิ่งที่เราไม่อยากจะทำแต่เราต้องทำ ร้องไห้เพราะถึงเวลาที่เราต้องทำ เราไม่อยากทำร้ายใคร ไม่อยากโดนด่า เมื่อคนมันถึงที่สุดแล้วมันต้องลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง วันนี้ก็ไม่อยากให้สัมภาษณ์เรื่องนี้เลยเพราะไม่อยากให้กระทบอีกฝั่ง เขาก็ใช้ชีวิตของเขาดีแล้ว ต่างคนต่างทำมาหากิน ยังยืนยันว่าไม่อยากให้มีแบบนี้เกิดขึ้น ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ไม่อยากให้คนในสังคมต้องมารับรู้เรื่องราวแบบนี้ที่มันเป็นเรื่องราวส่วนตัวของโบว์”
ไม่ต้องเข้าบ้าน ต่างคนต่างอยู่ รับอยากซัดปากคนบอกตีจากอีกฝ่ายเพราะอยากมีสามีใหม่ ย้ำมีสมอง ไม่ใช่คนหูเบา
“โอ้ย...อยากตีปากคนที่พูดจังเลย(หัวเราะ) ไม่มีหรอกค่ะ สามงสามีก็ไม่มี ก็ยังคงเป็นพี่ปออยู่ ส่วนที่บอกว่าเราหูเบา ฟังคนมายุ โบว์มีวุฒิภาวะพอ มีสมองพอที่จะไตร่ตรองก่อนว่าใครเป็นยังไง ถ้าโบว์เชื่อโบว์หูเบาก็คงไม่มีความเป็นตัวโบว์ เพราะที่ผ่านมา ตั้งแต่คนรู้จักโบว์ครั้งแรก ก็เห็นอยู่ว่าคนรอบข้างโบว์เยอะแค่ไหน ถ้าโบว์ไม่เข้มแข็งพอ ถ้าโบว์คิดเองไม่เป็น คิดเองไม่ได้ ก็คงเลอะเทอะไม่มีจุดยืนในชีวิตแล้ว (ผู้สื่อข่าวถามว่าอาน้ำอ้อยสามารถมาเจอหน้าหรือเข้ามาหาที่บ้านได้มั้ยเจ้าตัวนิ่งก่อนเปิดใจ) โบว์ว่าต่างคนต่างอยู่ดีกว่า ทุกคนมีจุดยืนของตัวเอง”
“สิ่งที่โบว์โพสต์ โบว์ไม่ได้บอกว่าใครนะคะ แต่พอหลังจากนั้นคุณอาก็ออกมาให้สัมภาษณ์ วันนี้ก็กำลังจะสัมภาษณ์ในเรื่องที่คุณอาให้สัมภาษณ์ แต่สิ่งที่โบโพสต์โบว์ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร ถามว่าจะกระทบถึงมะลิมั้ย ความสัมพันธ์มันยังอยู่ เวลาน้องถามถึงคุณอาก็จะบอกว่าคุณอาไปทำงาน คุณอาไม่มีเวลา อย่างที่บอกว่าโบว์ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ อยู่ดีๆ จะมาหาเรื่องให้คนด่าโบว์ก็ไม่ใช่เรื่อง แต่ก็ยังยืนยันว่าถึงเวลาที่ต้องออกมาปกป้องตัวเอง”
ช่อง 3 ไม่ได้เรียกให้ร่วมงานบอล บอกช่องให้เกียรติในช่วงสามีเสียชีวิต แต่ยังคิดถึง "น้องมะลิ" เสมอ “ที่ช่องก็ไม่ได้อะไรนะคะ ไม่ได้ว่าต้องเรียกเราเข้าไปทำงานอะไร ก็ไม่ได้อะไร อย่างงานบอลก็มีช่วงที่เสียพี่ปอก็เท่านั้นเอง ทางช่องยังให้เกียรติพี่ปอ ยังคิดถึงพี่ปอก็เลยชวนเราไปร่วมด้วย แต่หลังจากนั้นก็ไม่ใช่ว่าช่องจะต้องเอาไปอยู่คนนั้นคนนี้ คือไม่ใช่ แค่ทางผู้ใหญ่ที่ช่องก็ยังคงติดตาม ยังเอ็นดูน้อง ให้กำลังใจ”
“ถ้าเรื่องงาน เรื่องช่อง ถ้าผู้ใหญ่ทุกๆ คนที่ให้โอกาสโบว์ ยินดีค่ะ ยังคงความคิดไว้เสมอว่ามีโอกาสดีๆ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องปฏิเสธ โบว์ยังตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินเพื่อดูแลคนในครอบครัวต่อไป ตอนนี้ก็โฟกัสธุรกิจ โฟกัสเรื่องลูก เรื่องครอบครัว ส่วนเรื่องสามีใหม่ ไม่มีในหัวค่ะ”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)