“เพ็ชร ฐกฤต” เคลียร์ซะที ดรามา “อุ๊บ วิริยะ” รับเด็กกว่าไม่อยากตอบโต้ แต่ยอมรับมีอารมณ์ ด่าเนรคุณไม่ยอมจบ บอกอีกฝ่ายน้อยใจไม่เซ็นสัญญา ยันไม่เคยลืมบุญคุณ ทดแทนด้วยเงินมหาศาล แต่ไม่จำเป็นต้องตอบแทนด้วยชีวิต พ่อโพสต์แรงแค่ปกป้องลูก หลังจากนี้ขออยู่ห่างๆ
รูดซิปปากไม่ยอมตอบโต้มานาน กรณีที่ “อุ๊บ วิริยะ” อดีตผู้จัดการโพสต์ด่าแรง ทั้งอกตัญญู เนรคุณ ดังแล้วตีจาก ไม่มีวันเจริญ รวมไปถึงกรณีที่ถูกถอดจากละคร “บุพเพสันนิวาส” ทั้งที่ตอนแรกวางตัวเป็น “เพ็ชร ฐกฤต ตวันพงค์” ในบทหมื่นเรือง จิกเบื้องบนไม่รับ วาสนาไม่ถึง ล่าสุดหนุ่มเพ็ชรก็ขอออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว ยอมรับว่าพ่อโพสต์แรงถึงอีกฝ่ายเพื่อปกป้อง และย้ำว่าตนยังเคารพรักพี่อุ๊บเหมือนเดิม แต่อีกฝ่ายชอบพูดแทงใจดำให้น้อยใจจนมีอารมณ์ตลอด
“จริงๆ แล้วไม่มีอะไรเลยครับ คุณพ่อเขียนในเฟซบุ๊กหรือในไอจีมันคือการปกป้องลูกตัวเอง จริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น บอกว่าโดนเสียบแทน โดนโน่น โดนนี่ แต่จริงๆ แล้วคิวเราไม่ว่างจริงๆ คิวเราไม่ตรงกัน ถามว่าถูกทาบให้ลงละครบุพเพสันนิวาสจริงมั้ย คือวางไว้ก่อน ทาบทามไว้ก่อน คือคุยกับพี่หน่อง (อรุโณชา ภาณุพันธ์) แต่เขายังไม่ฟันธงว่าเราต้องไปเล่น ต้องดูคิวกันก่อน ไม่ใช่ว่าเราโดนเสียบอะไร”
“ตอนนั้นคุณพ่อก็มีโมโหนิดหน่อยครับ หงุดหงิดนิดหน่อย แต่ก็ผ่านไปได้ เราก็เห็นข้อความที่เขาเขียน คุณพ่อเห็น แล้วแฟนคลับเขาก็ส่งเข้ามา แชร์มาให้เราดู แต่เราก็บอกว่าไม่ได้มีอะไรอยู่แล้ว ซึ่งผมไม่ได้คุยกับเขาครับ ไม่ได้คุยเลย ไม่ได้ติดต่อ ไม่ได้อะไรเลยครับ”
“คือต้องคุยกันก่อนครับ เราเข้าใจว่าคุณพ่อเขาเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่ว่าสิ่งที่เขาได้พิมพ์ ได้ออกสื่อไปนั้น มันคือการกรองคำพูดเรียบร้อยแล้ว อย่างเช่นคำว่า ถ้าผู้ใหญ่ไม่ห้ามไว้ผมเอาแน่ เอาแน่ หมายถึงเราโต้กลับด้วยการพูด การคุยกันมากกว่า ไม่ได้ไปทำร้ายร่างกายอะไรขนาดนั้น และพี่อุ๊บเขาไปตีความว่าคุณพ่อไปทำร้ายร่างกาย มันไม่ใช่ครับ ไปขู่ มันไม่ใช่ครับ มันไม่ใช่การขู่ การทำร้ายเลยแต่เขาเอาไปตีความ เขาก็ไม่ได้ติดต่อมาครับ ตอนนี้ยังไม่ได้มีการเคลียร์ครับ”
ยังรักและเคารพ ไม่ลืมบุญคุณ เป็นคนที่พาเข้าวงการ แต่พูดบางอย่างให้น้อยใจ ทั้งที่ตนไม่เคยทำอะไรไม่ดี
“จริงๆ แล้วเขาไม่ได้รังแกหรอก แต่ด้วยความที่เราเข้าใจเขา เขาก็มีความรู้สึกน้อยใจ อย่างเช่นพี่อุ๊บก็เป็นอดีตผู้จัดการ เราก็ยังรัก ยังเคารพ นับถือเขา เขาเป็นผู้ใหญ่ที่นำเราเข้ามาในวงการ ไม่เคยลืมเลย แต่ว่าด้วยบางสิ่งบางอย่าง ด้วยคำพูดของแกเนี่ย เราก็น้อยใจนะ ว่าทำไมแกถึงพูดแบบนั้น พูดในทางที่ไม่ดี ทั้งๆ ที่เราไม่เคยทำไม่ดีกับแกเลย”
ทดแทนบุญคุณด้วยเงินมหาศาลจริง แต่ไม่จำเป็นต้องตอบแทนด้วยชีวิต
“มันก็มีส่วน จริงๆ การตอบแทนเราไม่ได้จำเป็นต้องตอบแทนด้วยชีวิต ถามว่าที่แกบอกว่าจะอยู่ดูแลแก จริงๆ ผมก็ดูแลพี่ไปเรื่อยๆ แต่ว่าเราไม่ได้สัญญาอะไรขนาดนั้น แต่พอเราโตขึ้นอะไรหลายอย่างมันก็เปลี่ยนไป แต่ว่าคือจริงๆ เราไม่เคยเปลี่ยนเลย ก่อนหมดสัญญาเราก็คุยกันเรียบร้อยแล้ว ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว แต่พอเราไม่เซ็น เขาก็เลยเกิดอาการน้อยใจ”
“ถามว่าเขาทำร้ายเรามั้ย ก็มองว่าเป็นการน้อยใจมากกว่าครับ พอน้อยใจปุ๊บมันมีผลกระทบมาถึงการไม่หวังดีกับเรา ถามว่าเบื่อมั้ย ก็ไม่เบื่อครับมันมีอะไรให้อ่าน มีอะไรให้เยอะ (หัวเราะ) เราต้องมองโลกในแง่ดีครับ ถ้ามองลบมันก็มีผลกับเรา”
ยอมรับมีอารมณ์ เด็กกว่าไม่อยากต่อว่าผู้ใหญ่
“พูดตรงๆ นะครับว่าก็มีอารมณ์ แต่ด้วยความที่เราเป็นเด็ก เราก็ไม่อยากจะไปว่าผู้ใหญ่ ไปว่าคนที่มีบุญคุณกับเราขอนิ่งๆ ดีกว่า แต่เราก็ขออกมาพูดบ้างเผื่อว่าคนทางบ้านหรือคนที่ไม่เข้าใจว่าเพ็ชรเป็นอย่างนี้จริงๆ เหรอเพ็ชรเนรคุณจริงๆ เหรอ แต่จริงๆ เราไม่ได้เนรคุณเลย ใครๆ ก็รู้ว่าเพ็ชรเป็นคนยังไง บอกว่าเราเป็นคนอกตัญญู จริงๆ เราไม่ได้อกตัญญู ทุกอย่างคือน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าเราต้องช่วยกัน”
“เราออกมาพูดวันนี้ เขาก็ไม่จบไม่สิ้นครับ มาเรื่อยๆ ก็ไม่เป็นไร เราก็รับฟัง อ่านครับ แต่ว่าเราก็ปล่อยผ่าน คุณพ่อจะปล่อยผ่านได้มั้ยก็อยู่ที่คุณพ่อครับ เพราะว่าคนละคนกัน คือเราเป็นลูกชายคุณพ่อต้องออกมาปกป้องสิ่งที่ถูกต้อง เพราะเขาเป็นห่วงและกังวลว่าคนภายนอกจะมองลูกชายในแง่ที่ไม่ดี มองในแง่ลบว่าลูกชายเป็นคนเนรคุณต่อคนที่มีบุญคุณพาเราเข้าวงการมา”
ยอมรับอีกฝ่ายพูดแทงใจดำมากๆ ก็น้อยใจเป็น
“เรื่องมาตรการจัดการเขา ถ้าออกมาดูดอีก อันนี้เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกทีหนึ่งครับ เพราะว่าจริงๆ แล้วอย่างที่แกออกมาพูดหรือว่าอะไรเรา เราไม่เคยตอบกลับแก ไม่เคยด่าแก เรายังนับถือแกเหมือนเดิม คืออายุปูนนี้แล้วเราต้องพึ่งพากัน ตอนนี้ถามว่าถ้ามีงานอะไรเพ็ชรคอยช่วยอยู่แล้ว แต่ว่าพอแกมาพูดบางสิ่งบางอย่างมันแทงใจดำเราเนี่ย มันก็ทำให้เราน้อยใจเหมือนกัน แค่เราไม่เซ็นสัญญา แต่เราได้คุยกันแล้วว่าเซ็นกับไม่เซ็นมันไม่ได้ต่างกัน เราก็ช่วยเหลือกันอยู่แล้ว พี่หางานมาก็หักให้พี่ปกติ แต่แค่เราเปิดกว้างมากขึ้น แค่เรารับเองด้วย มันก็หลายๆ ทางเราก็ช่วยกันได้ เรื่องดิสเครดิตเพ็ชรว่าไม่เกี่ยวครับ เพราะว่ามันไม่มีผลอะไรกับเพ็ชรอยู่แล้วครับ คือเราไม่รู้จะโกรธแกไปทำไมเนอะ”
ยิ่งพูดยิ่งเคลียร์จะไม่จบ เลือกอยู่ห่างๆ ดีกว่า
“ใครๆ ก็รู้ว่าแกเป็นคนยังไงยิ่งพูดไปเรื่อยๆ ยิ่งไม่จบครับ วิธีเดียวคือนิ่งๆ เงียบๆ ดีกว่ามันจะห่างๆ ไปเรื่อยๆ ดีกว่าต้องมาคอยด่าทอกันมันเป็นเรื่องยาวครับ ตอนนี้คุณพ่อก็ใจเย็นลงแล้ว เขาปล่อยวางแล้ว (พ่อบอกจะไม่เผาผี?) จริงๆ ใครเป็นคนพูดก่อนครับ ว่าไม่เผาผีกัน คือเราไม่ได้ตอบโต้ในทางที่ไม่ดีหรือคำหยาบคายเลย แต่แกมาพูดใส่ๆ ฝ่ายเราอย่างเดียวเลยบางทีเราก็ต้องออกมาตอบโต้บ้างว่าสิ่งที่แกพูดไปนั้นมันไม่ได้เป็นความจริง พ่อแค่ปกป้องเรามากกว่าครับ”