“อำภา ภูษิต” ภูมิใจดังเปรี้ยงอีกครั้งตอนแก่ บท “อีปริก” ร้ายจนคนเกลียด เรียกมนุษย์ป้าแห่งอโยธยา โดนด่าจนไม่กล้าไปตลาด เผยตอนถ่ายทำคิดว่าอีปริกร้ายตลก แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าตนคิดไปเอง โอดรู้แบบนี้อยากเล่นเป็น “อีผิน-อีแย้ม” ยันตัวจริงต่างจากในละคร พร้อมเปิดใจถึงดารารุ่นใหม่บางคนว่างปุ๊ปเล่นโทรศัพท์ไม่อ่านบท ไม่ทำการบ้าน
ติดกันทั่วบ้านทั่วเมืองจนเกิดปรากฏการณ์ต่างๆ มากมาย สำหรับละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” ที่ตอนนี้ออเจ้ากันทั้งพระนคร นอกจากจะกวาดเรตติ้งให้ช่อง 3 อย่างถล่มทลายแล้ว นักแสดงในเรื่องก็ดังเป็นพลุแตกทุกคน หนึ่งในนั้นก็คือนักแสดงรุ่นใหญ่ “แอ๊ว อำภา ภูษิต” ที่รับบทเป็น “อีปริก” บ่าวช่างฟ้อง สาระแน ตอแ-ล แถมยังร้ายกับนางเอกสุดๆ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า ตั้งแต่ละครออกอากาศไม่กล้าไปตลาดเลย บอกคนด่าเยอะมาก เรียกมนุษย์ป้าสมัยอโยธยา รับถึงจะเสียวโดนเปลือกทุเรียนฟาดหน้าแต่ก็ภูมิใจที่ดังตอนแก่อีกครั้ง
“ตอนตัดสินใจรับเล่น เราเป็นคนไม่คิดมากเรื่องละคร เพราะมันเหมือนอยู่ในตัวเราอยู่แล้ว เราเล่นได้ทุกบท ไม่ปฏิเสธ แล้วเราเป็นตัวร้ายอยู่แล้ว เราไม่ใช่นางเอก หนักกว่านี้ก็ผ่านมาแล้ว อย่างเรื่อง ทองเนื้อเก้า หรือเรื่องนิราศสองภพ จะบอกว่าละครแรงๆ ที่ทำให้เราเกิดเป็นของช่อง 3 ทั้งนั้น วันที่ทีมงานติดต่อมาว่าให้เล่นบทอีปริก ตัวตามของคุณหญิงจำปา ก็คิดว่าคงไม่ธรรมดา ก็เลยตกลงรับแล่นทั้งที่ยังไม่เห็นบทด้วยซ้ำค่ะ รู้แค่ว่าเป็นคุณแม่บ้านอย่างที่นางเอกเรียก (หัวเราะ) รู้แค่ว่าเรื่องมันจะไปทางไหน และรู้จากคนรอบข้างบอกว่าอยากดูละครเรื่องนี้เพราะเขาอ่านนิยายมาชอบมาก เราไม่ได้ถามด้วยว่าทำไมทางทีมงานเลือกเรา”
เข้าฉากวันแรกก็โดน “เบลล่า” ตบหน้าคว่ำ หมากกระจาย ยากสุดคือการต้องพูดภาษาโบราณ เทคยับ
“ฉากแรกที่ถ่าย เบลล่าที่เป็นการะเกดตบอีปริกเลยค่ะ (หัวเราะ) ตบซ้ายตบขวากับอีบุ้ง เราก็โอ้โห…นางเอกร้ายขนาดนี้เลยหรอ วันที่ถ่ายฉากนี้พวกเราเพิ่งได้บทค่ะ พอได้บทมาเราก็ดูแค่ของเราก่อนที่เราต้องถ่าย พอถ่ายฉากนั้นเสร็จก็กลับไปอ่านบททั้งหมด ถึงได้รู้ว่านางเอกเป็นสองตัว เป็นภพปัจจุบันกับภพอดีต ตอนถ่ายเราก็ถามผู้กำกับว่าเอาแรงขนาดไหน ซึ่งอีปริกเป็นตัวตามคุณหญิงจำปา เป็นตัวสาระแน (หัวเราะ) แล้วที่เราเกลียดการะเกดมากเพราะนางทำทองหาย แล้วมาตบเราโดยที่เราไม่ได้ทำอะไรมันก็จะแค้นฝังใจ ผู้กำกับ(ใหม่ ภวัต พนังคศิริ)ก็บรีฟเราเลยว่าต้องเกลียดแม่การะเกด นางเป็นตัวร้าย เป็นผู้หญิงที่ไม่มีมารยาท แม้กระทั่งตอนที่การะเกดเป็นคนดีหลังจากที่เกศสุรางค์มาเข้าร่างแล้วอีปริกก็ยังไม่ชอบเพราะไม่เชื่อว่าจะกลับตัวกลับใจได้ คือที่อีปริกเกลียดนางเอกมันมีที่มาที่ไปทำไมเราถึงเกลียดเข้าไส้”
“เราเคยเล่นพีเรียดมาหลายเรื่องแล้วค่ะ แต่เรื่องนี้ยากตรงเป็นภาษาโบราณ ผิดนิดเดียวไม่ได้ต้องถ่ายใหม่ เรากับเหมียว ชไมพร(รับบทคุณหญิงจำปา)ก็เครียดมากเรื่องภาษา เพราะผิดไม่ได้แม้แต่นิดเดียว ถ้าผิดความหมายจะผิดทันที เราก็เลยต้องท่องบทอย่างหนักเลยค่ะ แค่ชื่อพระเอกก็ 3-4 ชื่อแล้วเพราะได้เลื่อนยศหลายครั้ง แล้วเราไม่ได้ถ่ายเรียงตามเนื้อเรื่อง แต่เราถ่ายสลับไปสลับมา ฉากนี้เรียกพ่อหมื่น ฉากนี้เรียกออกขุนท่าน หลายชื่อมากค่ะ ส่วนนางเอกเล่นเป็นสองยุค หนักสุดแต่เล่นน่ารักสุด เรื่องนี้เทคบ่อยสุดคือภาษา เวลาเราพูดผิด”
ไม่คิดว่าละครจะดังขนาดนี้ นักแสดงในเรื่องเตรียมรำแก้บน
“เราคิดแค่ว่าบอร์ดคาซท์ฯทำละครดังอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะดังขนาดนี้ ตอนถ่ายทำทีมงานทุกคนทุ่มเทหมด ฉากสวย นักแสดงทุกคนทุ่มเท ทุกอย่างดีหมด เบลล่าเล่นไม่ห่วงสวย แต่ออกมาน่ารักมาก ให้คนอื่นมาเล่นก็เล่นไม่ได้เหมือนเบลล่านะ เราจะมีรำแก้บนกันด้วยนะคะ (หัวเราะ) รำกันหมดทุกคน พระเอก นางเอก ผิน แย้ม ก็รำด้วย”
“ถามว่าอะไรที่ทำให้ละครเรื่องนี้ดัง อย่างแรกเลยคือตัวนางเอก สวยแต่เล่นไม่ห่วงสวย ฉันจะตบฉันจะเลว เบลล่าไม่กลัวเลยว่าคนจะเกลียด เขาเรียกคนเล่นเป็น สององค์ประกอบทุกอย่างในละครสวยหมด ผู้กำกับเราทำงานด้วยแฮปปี้ แกเป็นคนไม่เครียด กำกับถึงพริกถึงขิง ถ้าไม่ได้ต้องถ่ายใหม่ จะไม่มีการเออออห่อหมก คนเขียนบททั้งคุณรอมแพงและพี่แดง ศัลยา เก่งมาก ทุกอย่างเลยออกมาดี ละครสนุก ส่วนโป๊ป เราดูเขาตอนถ่ายยังเฉยๆ นะ แต่พอดูตอนออกอากาศแล้วมีออร่า หล่อมาก (หัวเราะ) มีเสน่ห์ แสดงเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่เสแสร้ง ตัวจริงเขานิสัยดีด้วย แล้วพอเขาเล่นด้วยกัน(เบลล่า-โป๊ป)เคมีตรงกันมาก รวมถ่ายรวมทำงานรอ 2 ปี กว่าจะได้ดูแต่คุ้มค่ามาก”
ปลื้มมากฟีดแบ็กอีปริกดีเวอร์ คนด่าไม่มีชิ้นดี มีชาวพม่ามาขอถ่ายรูป
“พอละครออกอากาศเราโดนด่าเยอะมาก บางคนโพสต์บอกอยากเข้าไปถีบในทีวี เข้าไปอ่านในในคอมเมนต์มีแต่คนด่า เราก็คิดว่าแสดงว่าเราเล่นดี ตีบทแตก (หัวเราะ) ตอนถ่ายเราคิดว่าเราไม่ร้ายมาก เราร้ายตลก แต่พอละครออกอากาศ โอ้โห.. คนด่าทั้งพระนครเลยนะออเจ้า สรุปเราคิดไปเองว่าอีปริกไม่ร้ายเท่าไหร่ (หัวเราะ) นังจวงรอดไป ตอนนี้ไม่ไปตลาด หยุดไปก่อนช่วงนี้ รอให้ดีกับการะเกดก่อนค่อยออกไปตลาด มีครั้งนึงเราไปทำบุญกับ เหมียว ชไมพร มีคนมาขอถ่ายรูป เราก็ดีใจว่าเออ… รอดเว้ยๆ (หัวเราะ) แต่ถ้าวันพุธ-พฤหัสบดี เราไม่ไปไหน เก็บตัว กลัวเจอเปลือกทุเรียน วันก่อนไปทานข้าวกับพี่สาว มีพนักงานซึ่งเป็นคนพม่ามาขอถ่ายรูป เราก็ถามว่าไม่เกลียดอีปริกเหรอ เขาก็บอกชอบอีปริกๆ เราก็ดีใจว่ารอดแล้ว (หัวเราะ)”
ร้ายขึ้นเรื่อยๆ ฉากล่าสุดอีปริกเฆี่ยนการะเกดด้วยหวาย ทำเอาคนเกลียดด่าเป็นมนุษย์ป้าแห่งอโยธยา
“ฉากนั้นคนด่าแน่นอน มีคนขอ 3 คำให้อีปริก (หัวเราะ) ตอนที่ถ่ายทำเราบอกกับผู้กำกับว่าเราตีไม่ได้เรากลัวโดนน้องจริงๆ เขาก็มาสอนว่าตียังไง ก็เอาอะไรมารองให้หนาๆ เพราะกลัวปลายหวายตวัดไปโดนน้อง เราต้องซ้อมกันก่อน แล้วก็ใช้แอ็คติ้งช่วย หน้าก็ทำแบบเอาเป็นเอาตาย หน้าอีปริกเหี้ยมมากเพราะเหมือนเราเอาคืนนางเอก พอมาถึงวันนี้ รู้สึกว่าทำไมฉันไม่เล่นเป็นอีผิน อีแย้ม (หัวเราะ) อีปริกไม่ตายตอนแก่ก็ดีแค่ไหนแล้ว”
“คนบอกอีปริกเป็นจุดเริ่มต้นของมนุษย์ป้ายุคอโยธยา น่าเกลียดมาก (หัวเราะ) แต่ก็โอเค เพราะไม่มีใครร้ายเท่าหล่อนแล้วมั้ง ตอนนี้ต้องอดทนไปก่อนค่ะ เดี๋ยวพอเราดีกับนางเอกคนก็น่าจะรักอีปริกบ้าง รอวันคนให้อภัยอยู่ค่ะ เราก็คิดว่าน่าจะได้ดั่งใจผู้กำกับนะคะ เพราะผู้กำกับบอกว่าเล่นแบบนี้เลย กับเบลล่ามีฉากตบตีกันแต่เราไม่เคยพลาดโดนจริง เพราะต่างคนต่างเซฟกัน ยิ่งฉากแรกที่เจอกันก็ตบกันเลย เราก็เกร็ง นางก็เกร็ง ก็เลยบอกหนูไม่ต้องยั้ง มันเป็นเรื่องของการส่งอารมณ์ ถ้าคุณเล่นไม่สุดอีกคนก็เล่นต่อไม่ได้ วันนี้ทุกคนด่าอีปริกแต่เรารู้สึกภูมิใจ แต่จะมีร้ายกว่านี้อีกค่ะ และจะมีเรื่องทำให้รักนางเอกด้วย”
มีความสุขที่ได้เห็นปรากฏการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น ยกบุพเพสันนิวาสเป็นโมเดลของละครไทย
“ปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น อย่างคนแห่ไปเที่ยววัดไชยวัฒนาราม ที่อยุธยา เยอะมาก เรายังอยากไปเลยแต่ไม่กล้าไปตอนนี้ (หัวเราะ) ความเป็นไทยเกิดขึ้นเยอะ คนกลับไปอ่านประวัติศาสตร์ ได้รื้อฟื้นความรู้เก่าๆ ด้วย คนใส่ชุดไทยไปวัดไชยวัฒนาราม ถ้าคนไทยใส่แบบนี้เยอะๆ จะสวยมากเลยค่ะ เรื่องนี้มีอิทธิพลในสังคม ช่วยได้หลายอย่างเลยค่ะ เรื่องนี้น่าจะเป็นตัวอย่างของละครไทยนะคะ เป็นโมเดลของละครไทย”
“ต่างชาติก็นิยมมากขึ้น เพื่อนเราอยู่อเมริกาบอกว่าติดเรื่องนี้มาก เรารู้ก็ดีใจ ไปดังที่จีนด้วย มีซับไตเติ้ลจีนออกมาแล้ว คิดว่าคงขายให้ต่างประเทศแน่นอน คิดว่าต้องมีคนมาซื้อละครไทยไปฉายบ้าง เราจะได้เอาชุดไทย เอาวัฒนธรรม ไปเผยแพร่ นักแสดงก็จะมีงานเยอะขึ้น มีแต่ได้กับได้ ปกติมีแต่เราซื้อละครเขามาฉาย คราวนี้เราไปเอาเงินเขามาบ้าง”
พร้อมเผยความรู้สึกถึงรุ่นน้อง “โป๊ป-เบลล่า” เห็นตบกันสนั่นจอ แต่นอกจออีปริกปลื้มพี่หมื่นกับการะเกดมากๆ นะออเจ้า
“เรื่องการแสดงโป๊ปเต็มสิบให้สิบเลยค่ะ เราจะดูออกว่าคนไหนเล่นไม่อินเล่นไม่ธรรมชาติ แต่โป๊ปเต็มสิบ ไม่ว่าบทดุ บทรัก บทน่าเอ็นดูเขาทำได้หมด เรารู้สึกว่าน้องทำการบ้านมาดี โป๊ปต้องพูดภาษาโบราณตลอด แล้วบทยาวด้วย ส่วนเบลล่าเขาเล่นเกินร้อย ทั้งเล่นร้ายและเป็นคนดี ถ้าเต็มสิบเขาก็ได้สิบ เบลล่าเล่นดีมาก บรรยากาศในกองถ่าย ทุกคนรักกันนะ เข้าฉากกันบ่อย ก็จะมีคุณหญิงจำปา เบลล่า พ่อหมื่น อีผิน อีแย้ม จวง มีอยู่ช่วงนึงที่เราถ่ายทำกันอยู่ แล้วคุณพ่อของน้องเบลล่าเสีย น้องก็ร้องไห้ แต่น้องสามารถถ่ายละครได้มีสปิริตมาก เราประทับใจมากในความเป็นมืออาชีพของเขา แล้วน้องน่ารักมาก เราโชคดีที่เจอนางเอกน่ารักหมดเลย”
“ส่วนเทคนิคการแสดงของเราคือต้องตีบทให้แตก ต้องอ่านบททุกตัวละคร ละครทุกเรื่องที่เล่นเราจะอ่านบทตั้งแต่ต้นจนจบและอ่านทุกตัวละครของทุกคน เพื่อให้รู้ว่าคาแร็กเตอร์ของเราเป็นอย่างนี้ๆ อย่างเบลล่าไม่ต้องห่วง น้องทำการบ้านมาดี บางทีเราเล่นละครกับเด็กรุ่นใหม่ เราจะบอกเลยว่าพอแม่พูดคำนี้หนูต้องสวนมาเลย ไม่อย่างนั้นแม่เล่นต่อไม่ได้ อารมณ์มันต้องส่งกันน่ะ เด็กสมัยนี้ต้องทำการบ้านมานะ บางคนพอว่างปุ๊บจะจับโทรศัพท์เขาจะไม่อ่านทุกตัวละคร แต่เราอ่านหมด เพราะฉะนั้นเราจะรู้เลยว่าลีลาของแต่ละคนเป็นยังไง”
ยืนยันตัวจริงกับอีปริกต่างกันมาก ตัวจริงสวดมนต์ไหว้พระ
“อีปริกจะขี้ฟ้อง ชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้านและตอแหลด้วย (หัวเราะ) เราตอแหลแค่ในละคร แต่ตัวจริงเป็นคนจริงจังกับชีวิต ชีวิตผ่านอะไรมาเยอะ เป็นคนที่ไม่ค่อยอยากยุ่งเรื่องใคร เป็นตัวของตัวเองแต่เป็นคนไม่แรง จะเป็นคนอะไรก็ได้ ถ้ามีคนด่าเราจะเงียบจะนิ่ง จะไม่สู้เหมือนอีปริก เพราะรู้สึกสู้ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่เสียกับเสีย ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจหรือทำให้เราอึดอัดใจเราจะเข้าบ้าน แล้วมันก็จะหายเพราะเราเป็นคนสวดมนต์ไหว้พระ สิ่งเลวร้ายมันจะหลุดพ้นไปเอง”
“กับกระแสที่ทุกคนพูดถึงเราก็ภูมิใจค่ะ ตอนนี้ถ้ามีคนมาเรียกอีปริกๆ ไม่โกรธค่ะ (หัวเราะ) แปลว่าเขาดูจริง เขาอิน แปลว่าเราดัง แต่อย่าตบเราก็พอ เวลาเราเจอใครเราจะยิ้มให้ก่อนอยู่แล้ว ความอยากตบเราจะลดลงไปครึ่งนึง ตอนนี้เราร้ายกับนางเอกคนเกลียดเราจริงๆ แต่ถึงเวลาที่เราดีกับนางเอกต้องรักเราจริงๆ ด้วยนะคะ รักเหมือนตอนเกลียดด้วยนะ (หัวเราะ)”
...
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)