“อาร์ต พศุตม์” เผย กรณีฉะมนุษย์ป้าในไอจี บอกลูกชายอีกฝ่ายขอโทษ ยอมรับงงอ้างแม่อ่านหนังสือไม่ออก แต่ตนไม่ติดใจอะไรแล้ว ชี้แจงออกโรงป้อง “น็อต กราบรถ” ไม่ได้เข้าข้าง แค่อยากให้สังคมให้โอกาส เตือนอีกฝ่ายให้ออกมายอมรับแบบลูกผู้ชาย เพราะไม่ได้ฆ่าใครตาย ปลื้มแม่ใจป้ำ ซื้อมอไซค์คันใหม่ให้ตนมาทำความดีที่สนามหลวง เผยตั้งใจบริการประชาชน 3 เดือน ดี๊ด๊ายามาฮ่าขายให้ในราคาพิเศษ
ถึงกับตั้งใจไว้เลยว่าช่วง 2 - 3 เดือนนี้จะงดงานรื่นเริงให้กับตัวเองทุกอย่าง แม้กระทั่งวันเกิดเมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา หนุ่ม “อาร์ต พศุตม์ บานแย้ม” ก็บอกกับเหล่าแฟนคลับไว้ก่อนเลยว่าไม่ขอฉลองแบบมีงานรื่นเริง งดเป่าเค้ก แต่ให้มาร่วมกันแจกของกับประชาชนที่ท้องสนามหลวงดีกว่า พร้อมขอเคลียร์กรณี โพสต์ไอจีขอให้ทุกฝ่ายให้โอกาส “น็อต กราบรถ”
“ตั้งใจไว้อยู่แล้วครับว่าปีนี้จะไม่จัดวันเกิด แต่ที่บอกว่าเป่าเค้ก แก้ไว้ก่อนนะครับ พอดีกองละครเขาเซอร์ไพรส์ คือ ที่ผมบอกไม่เป่าเค้ก คือ ไม่เป่าเค้กที่สนามหลวง บางคนอาจจะเห็นคลิปที่กองถ่ายเขาเป่าเค้ก อันนั้นสุดวิสัยของผมจริงๆ ไม่รู้จะห้ามยังไง แต่ถ้าที่สนามหลวงผมบอกแฟนคลับแล้วว่าไม่มีการให้เกิด เป่าเทียน ไม่เอา แต่ขอให้ทุกคนถ้าอยากมาขอให้เอาของมาแจกคนที่เขามาหาพ่อครับ”
“แฟนคลับก็มาเยอะครับ วันนั้นน่าจะของเป็นพันชิ้นนะครับ ประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง ก็หมดแล้วครับ ผมเคยบอกว่าเวลาคิดถึงในหลวงผมจะไม่เศร้า แต่ไม่เศร้าของผมคือไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายจนไม่ทำอะไร แล้วก็ไม่ได้ดีใจจนเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น เศร้าเก็บอยู่ในใจแต่เราอยากเอาเวลาที่เราเศร้ามาทำประโยชน์ให้กับสังคมมากกว่า อย่างเช่น มาขี่มอเตอร์ไซค์ ไปแจกของ และถ้าเราไม่ได้จัดงานวันเกิดแล้วเย็นวันที่ 3 เราทำอะไร ก็ไม่มีอะไรทำ เราก็เลยมาขี่มอเตอร์ไซค์แจกของดีกว่า”
บอกแม่ซื้อมอเตอร์ไซค์ให้ใหม่เพื่อใช้ในการรับส่งประชาชนโดยเฉพาะ ดี๊ด๊ายามาฮ่าขายให้ในราคาพิเศษ
“คือ อาร์ตขี่แกรนด์ฟิลาโน่ครับ มัน 125cc เอง คือ ถ้าขี่ใกล้ๆ อย่างบางแคมันก็โอเค แต่ถ้าขี่จากมหาชัยมาสนามหลวง มันก็ 40 กลับอีก 40 ขี่ในนั้นอีกประมาณ 40 วันหนึ่งประมาณ 120 - 130 กิโล อาร์ตขี่ไม่ไหว อาร์ตเมื่อย ก็เลยบอกแม่ เพราะแม่ถามว่าอยากได้อะไร ก็เลยบอกอยากได้มอเตอร์ไซค์ แม่ก็ถามว่าเอาไปทำอะไร ก็บอกว่าเอาไปรับส่งประชาชน รับส่งคน เขาก็พาไปซื้อเลย ต้องขอบคุณยามาฮ่าด้วยครับ เขาให้ราคาพิเศษ แต่อุบไว้นะไม่บอกว่าราคาเท่าไหร่ (ยิ้ม)”
“หลายคนถามว่ารับส่งประชาชนในนั้นต้องเครื่องแรง มัน 155cc คือ ขี่ในสนามหลวงน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่เมื่อไหร่ที่ผมออกจากสนามหลวงมากาญจนาภิเษก พระราม 2 เราไม่แน่ใจว่าเราจะเจอเด็กแว้นหรือเปล่า บางทีอยู่ดีๆ เขาอยากจะหาเรื่องเขาก็หาเรื่องเราซะงั้นโดยที่เราไม่ได้ทำอะไร ผมก็เลยจำเป็นต้องมีเครื่องแรงไว้นิดหนึ่ง ไม่อยากปะทะก็คือบิดหนีแค่นั้นเอง เคยเจอครับ แต่ตอนนั้นขี่บิ๊กไบก์ก็เลยไม่มีอะไร แต่ถ้าเป็นมอเตอร์ไซค์เล็กวันนั้นก็ไม่แน่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“ส่วนใหญ่จุดที่ไปส่งประชาชน ก็คือ โบ๊เบ๊ หัวลำโพง เยาวราช แต่บอกว่าไปรังสิตพี่ไหวมั้ย ผมก็ไม่ไหวขนาดนั้น เราส่งให้แค่คุณไปขึ้นรถสาธารณะกลับบ้านได้เฉยๆ โดยที่ไม่ต้องเดินจากตรงนั้น เพราะว่าวันแรกๆ ต้องยอมรับว่า คนเสียใจมากและมาร่วมกัน ถนนปิดทุกสายไม่สามารถเข้าไปได้ มีแต่พวกผมที่ตระเวนพาออกไปๆ”
“แม่ก็เป็นห่วงครับ เพราะจริงๆ ผมไม่เคยขี่มอเตอร์ไซค์เล็กมาประมาณ 10 ปีแล้ว ขี่แต่บิ๊กไบก์อย่างเดียวเลยครับ มาขี่วันแรกๆ ก็มีหงุดหงิดนะ ทำไมมันไปได้แค่ 80 - 90 เอง แม่เลยบอกว่าดูแลตัวเองนะลูก เพราะเราติดนิสัยขับบิ๊กไบก์ เราจะชอบแซงตลอด แต่ด้วยกำลังของมันไม่พอ เขาก็เลยบอกว่าเบานะลูกเบา (หัวเราะ) ผมตั้งใจจะขับส่งประชาชน 3 เดือนเป็นอย่างน้อยครับ เมื่อวานก็ครบ 22 วันที่ไปทำ”
“เริ่มมีคนที่เขาเห็นเราทำความดีครับ อย่างพี่ที่ดาราเดลี่เขาก็เอายากันยุงมาให้ แต่ต้องบอกว่าใครที่เอามาให้ผม ไม่ต้องมาขอผม ผมไม่ให้ ไม่ได้เก็บไว้ใช้เองนะ แต่ผมจะคอยขี่ตระเวนให้คนที่นอนอยู่ ให้คนที่เขาไม่มีจริงๆ ถึงให้ ผมทำเสื้อมาทุกคนก็ถามว่ายังไม่แจกเหรอ ยังไม่แจกครับ รอแป๊บหนึ่ง แล้วผมจะขี่ไปตระเวนจากคนที่เขานอนอยู่ข้างถนนบ้าง เป็นคนเร่ร่อนบ้าง ตามหัวลำโพงบ้าง หมอชิตบ้างที่เขาไม่มีจริงๆ มีคนมาขอซื้อเยอะมากเลย แต่ผมไม่ขาย สำหรับผมช่วงนี้งดกิจกรรมรื่นเริงเลยครับ เราสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นะ ขอสัก 2 - 3 เดือนก่อนดีกว่าแล้วค่อยกลับมาเป็นปกติ”
เผยโต้ไอจีกับมนุษย์ป้ากรณีขอทียืนให้ “น็อต กราบรถ” ลูกชายขอโทษแทน อ้างแม่อ่านหนังสือไม่ออก บอกไม่ติดใจแล้ว
“น่าจะเป็นแม่ของเจ้าของไอจีมาเล่นครับ แล้วเขาบอกว่า อ่านหนังสือไม่ออก ผมก็บอกว่าถ้าอ่านหนังสือไม่ออกแล้วพิมพ์มาได้ไง เขาบอกว่าพี่อาร์ตรู้มั้ยพี่อาร์ตทำให้เด็กน้อยคนหนึ่งเสียความรู้สึกมากเลยกับการที่พี่อาร์ตส่งไปบอก ผมก็ส่งรูปแคปที่เขาเมนต์ส่งไปให้เขา ใครส่งมาหาผมล่ะ คุณทำลายความรู้สึกของผมก่อนหรือเปล่า ผมไม่ต้องการเมนต์เพื่อเอากระแสของน็อตเข้ามาหาผม แต่ผมกำลังเมนต์บอกว่าให้สังคมเป็นการให้อภัย คุณทำอะไร และเกี่ยวอะไรกับที่ผมดังหรือไม่ดัง ถ้าผมไม่ดังไม่ได้เป็นดาราไม่มีสิทธิโพสต์ไอจีใช่มั้ย เขาก็เลยขอโทษผมมา เป็นลูกเขามาขอโทษครับ แต่ตัวคุณป้าเองผมก็ยังไม่รู้”
“ไม่ติดใจเลยครับ มีคนมาด่าผมหน้าคิววันเดียวผมก็หายแล้ว ผมอาจจะใจเย็นขึ้นมั้งและคิดว่าเขาเป็นผู้ป่วยทางจิตน่ะครับ ก็ขอพูดคำพูดเดิมแล้วกันว่าเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เขาทำดีหรือไม่ดี สิ่งที่เขาทำมันอาจจะดีในสายตาเขา แต่เลวสำหรับคนอื่น เราควรเตือนเขาด้วยคำพูดและยิ้มๆ ไปเท่านั้นเองครับ”
“ถ้าจะมองว่าโหนกระแสก็แล้วแต่จะคิดครับ ผมห้ามความคิดใครไม่ได้ สร้างภาพบ้าง ทำๆ ไมไม่มีงานเหรอถึงออกมาขี่มอเตอร์ไซค์ มันห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้เลย นอกจากระงับอารมณ์ตัวเองให้อยู่กับตัวเราเอง อยู่กับสิ่งรอบข้าง อยู่กับครอบครัวเรา อยู่กับเพื่อนเรา พอแล้วจบแล้ว เราไม่ต้องไปโหนกระแสคนอื่นเขา เราไม่ต้องไปดรามากับคนอื่นเขา เราไม่สามารถแคร์ความรู้สึกคนทั้งโลกได้ด้วยเราคนเดียว”
ฝากเตือนถึง “น็อต กราบรถ” บอกให้ออกมายอมรับผิดแบบลูกผู้ชาย และขอให้สังคมให้อภัย
“อย่างมุมมองในเรื่องของน็อต ขอออกความเห็นหน่อยแล้วกันนะครับ ผมคิดว่าการที่สังคมไม่ยอมรับเขาคือถ้าน้องดูอยู่นะครับ ฝากบอกแล้วกันว่า คุณไม่ยอมรับความผิดที่คุณทำ พี่เคยโดนรถชนและหนีแบบนี้เหมือนกัน เราดึงกระชากคอเขามาเหมือนกัน แต่ให้เขาเรียกพ่อแม่เขามาคุย ไม่ใช่การทำแบบนี้ สิ่งที่ตอนนี้เขาทำอยู่มันไม่ถูก ถ้าเขาต่อยได้ทุกคน เขาก็ต่อยทั้งเมืองแล้วสิครับเดี๋ยวนี้ถูกมั้ยครับ”
“เมื่อ 2 - 3 วันก่อนจริงๆ ผมก็โดนนะ ยังมีรูปอยู่เลย ผมบอกพี่ไปเถอะ ประกันผมมี แต่ถ้าเกิดผมเป็นอย่างเขาผมก็ต้องต่อยเขาหรือเปล่า แค่นั้นเอง อยากให้ออกมารับเป็นผู้ชายหน่อย แมนๆ แค่นั้นเอง ไม่มีอะไรเลยครับ คุณไม่ได้ไปฆ่าใครตายไม่ได้เอามีดไปแทงเขากลางถนน แค่ต่อยคน ผมว่าต่อยคนแล้วโดนประณามขนาดนี้ผมคงอยู่ในนรกนะ ต่อยคนยับเหมือนกันนะผม ก็อยากให้สังคมให้โอกาสครับ แต่น้องจะไขว่คว้าโอกาสได้มากน้อยแค่ไหนอันนี้เป็นเรื่องของเขาเองแล้ว”
