xs
xsm
sm
md
lg

“น็อต” ตัวสั่น แถลงข่าวสำนึกผิดแล้วไหว้ขอโทษตลอดเวลา จะดูแลคู่กรณีและขอปรับปรุงตัวใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“น็อต กราบรถ” ตัวสั่นนั่งเหงื่อแตก แถลงข่าวขอโทษคู่กรณี และทุกๆ คนที่ทำให้ผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ผู้ใหญ่ที่ให้การสนับสนุน โรงเรียน - มหาวิทยาลัยที่เคยเรียน ที่ได้รับผลกระทบหมด เผย สำนึกผิดแล้ว รู้สึกแย่ที่ไม่มีสติ ขอรับผิดชอบทุกอย่าง และจะปรับปรุงตัวใหม่ให้ดีขึ้น ขอบคุณทุกคำเตือนและคำติ จากนี้จะไปปฏิบัติธรรมเรียกสติ

จากกรณีที่ “น็อต อัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล” เจ้าของวาทะเด็ด “กราบรถกู” ถูกแชร์คลิปใช้อารมณ์ต่อยคนขี่จักรยานยนต์เฉี่ยวชนรถมินิคูเปอร์สีเหลือง จนจมูกหักในโลกออนไลน์ และได้กลายเป็นประเด็นสังคม ถูกบทลงโทษจากต้นสังกัดแกรมมี่ยกเลิกสัญญา และปลดจากทุกรายการ รวมทั้งงานที่ทำกับทางช่องไทยพีบีเอส ก็ถูกระงับด้วย เพราะถือว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อเยาวชน

ล่าสุด วันนี้ (14 พ.ย.) น็อตได้นัดสื่อมวลชนมาแถลงที่ สน.ยาวนาวา โดยไร้เงาทนายความส่วนตัว เพื่อให้ปากคำ ตร. เพิ่มเติม โดยยืนยันว่า ตนไม่ได้แจ้งความคู่กรณีตั้งแต่แรก อีกทั้งยังประกาศไม่เอาความอีกฝ่ายทุกกรณี โดยระหว่างสัมภาษณ์ เจ้าตัวก้มหน้ายอมรับผิด เสียงสั่นเครือ และยกมือไหว้ขอโทษตลอดเวลา

“วันนี้นะครับผมก็มาให้ปากคำเพิ่มเติม ยืนยันว่า ผมไม่เอาผิดอะไรน้องบอย (คู่กรณี) นะครับ ผมไม่เอาอะไรแล้วครับ (เพราะอะไร?) จริงๆ ผมไม่ได้แจ้งความอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ ไม่ได้แจ้งความครับ ผมก็รู้สึกผิดมากๆ ครับ ตอนนี้มันแย่จริงๆ ครับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมก็เลยอยากจะมาให้ปากคำเพิ่มเติม ยืนยันครับว่า ผมไม่เอาเรื่อง ไม่อะไรกับน้องบอยแล้วครับ (ขัดกันกับครั้งแรก?) คือ จริงๆ ก็ไม่ได้แจ้งความครับ แค่มาให้ปากคำเพิ่มเติม แต่ในเรื่องของการดำเนินคดีผมก็ไม่ทราบจริงๆ ครับ (ยกมือไหว้)”

ยันไม่ได้แจ้งความบอย มาแถลงวันนี้เพราะรู้สึกผิด ขอโทษทุกฝ่ายที่ทำให้เดือดร้อน ทั้งแกรมมี่ ไทยพีบีเอส - สถาบันที่ศึกษา - เพื่อนฝูง และทุกคนที่เอ็นดู รับผิดไม่มีสติเพียงพอ ขอปรับปรุงตัวแก้ไข
“ไม่ได้แจ้งความครับ คือ ที่วันนี้ที่มาให้ปากค ำเพราะว่าผมรู้สึกผิดแล้ว ผมรู้สึกผิดจริงๆ ครับ ผมรู้สึกผิดกับน้องบอย ผมรู้สึกผิดกับทุกๆ อย่าง เพราะฉะนั้นนะครับ ผมขอโทษ (เสียงเครือ) ผมฝากไปถึงน้องบอย ฝากไปถึงครอบครัวของน้องบอย ฝากไปถึงทุกคนที่เกี่ยวข้องกับน้องบอย ผมขอโทษครับ ผมอยากจะขอโทษพี่ๆ สื่อมวลชนนะครับ ที่รบกวนหลายๆ ครั้ง ขอโทษครอบครัวที่ผมรักมากๆ (เสียงสั่นเครือ) ขอโทษเพื่อนๆ ขอโทษผู้ใหญ่จากทั้งแกรมมี่ ทั้งไทยพีบีเอส หรือผู้ใหญ่ทุกๆ คน ที่เขารักผม ที่เขาเอ็นดูผม ผมขอโทษครับ ที่ทำให้ผิดหวัง ขอโทษที่ผมมีสติไม่เพียงพอ ขอโทษโรงเรียนอัสสัมชัญ ขอโทษคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬา ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงไปด้วย รวมไปถึงผมขอโทษเพื่อนๆ ที่จะต้องมาโดนอะไรแบบนี้ ศรีก็ขอโทษแค่นี้ก็รู้ว่า แค่นี้ก็ช็อกอยู่แล้ว ยังจะต้องโดนไปด้วยกับผมอีก ขอโทษขออโหสิกรรมกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นนะครับ ผมรู้สึกผิดมากนะครับ ผมแย่มากแล้วครับ ผมขอปรับปรุงตัวนะครับ ผมขอปรับตัวใหม่ให้ดีขึ้น”

ยืนยันจะรักษาค่าพยาบาลคู่กรณีอย่างเต็มที่และเต็มกำลัง
ส่วนเรื่องค่าที่จะต้องรับผิดชอบน้องบอย ไม่ต้องห่วงผมยืนยันเหมือนเดิมว่าผมจะรับผิดชอบน้องบอย ค่ารักษาพยายามน้องบอยอย่างเต็มที่เต็มกำลังเท่าที่จะทำได้ ขอบคุณนะครับสำหรับทุกคำติ ทุกคำเตือน สิ่งที่เดินทางมาถึงผม ผมจะเอาคำเหล่านั้นไปแก้ไขตัวเองครับ ผมผิดจริงๆ ผมขอโทษจริงๆ ผมขอโทษนะครับทุกคน ผมอยากจะให้ทุกๆ คนอโหสิให้ผมด้วยนะครับ”

ปัดสำนึกผิดเพราะทนกระแสสังคมไม่ไหว ยันออกมาจากใจจริงๆ
กระแสสังคมไม่เกี่ยวครับ ผมรู้สึกผิดจากตัวผมเอง ผมรู้สึกผิดจากข้างในของผมเอง สิ่งที่มันเกิดขึ้นทั้งหมด มันเกิดขึ้นจากตัวผม ที่มีสติไม่เพียงพอ ผมเลยอยากจะมาขอโทษครับ”

พยายามติดต่อครอบครัวคู่กรณี ไปหาที่ รพ. แต่ติดต่อไม่ได้ เข้าใจอีกฝ่ายคงโกรธตนมาก
“คุยครับ ผมพยายามติดต่อน้องบอย คุณแม่น้องบอย แต่ไม่เป็นไรครับ เขาคงจะโกรธผมมาก ผมพยายามไปหาที่โรงพยาบาล แต่เขาก็ไม่ได้ออกมารับ ไม่เป็นไรครับ วันนี้ผมรู้สึกผิดแล้ว ผมผิดจริงๆ ผมไม่อยากจะเอาอะไรกับน้องเขาแล้วครับ

รับอัดคลิปเสียงแม่คู่กรณีเพราะกลัวอีกฝ่ายจะผิดสัญญา
ผมก็กลัวครับ ผมกลัวว่าแม่เขาจะผิดสัญญาหรือเปล่า แต่ผมกลัวจริงๆ ครับ ตอนนั้นผมไม่รู้ครับ ผมกลัว ผมขอโทษครับ”

ยันอีกครั้งไม่ได้แจ้งความตั้งแต่แรก
“ผมยืนยันว่า ไม่เอาความผิดอะไรกับน้องเขาแล้วครับ มาให้ปากคำครับ ก็มาให้ปากคำประเด็นนี้แหละครับ ว่า ยังไงอยากจะเอาความหรือไม่เอาความ ผมก็บอกว่าผมไม่เอาความ ผมยอมแล้วครับ ผมผิดจริงๆ ยืนยันว่า เบื้องต้นไม่ได้แจ้งความ ไม่ใช่การมาถอนแจ้งความครับ (แล้วตำรวจให้เรามาให้ปากคำเพิ่มเติมเพราะอะไรในเมื่อเราไม่ได้แจ้งความ?) มาให้ปากคำเพิ่มเติมครับ เอาอย่างนี้ดีกว่าครับ ผมเรื่องของคดีเรื่องของตำรวจผมไม่ทราบจริงๆ ว่า คดีมันเป็นยังไงต่อไป แต่ตอนนี้ผมรู้สึกผิด ผิดจากใจ ผิดต่อทุกคน ผิดมากๆ (เสียงเครือ) ขอโทษจริงๆ ครับ ขอโทษที่ทำให้เป็นแบบนี้ ขอโทษ ขออโหสิกรรมให้ด้วยนะครับ (เสียงสั่นเครือ)”

ยอมรับผิดคนเดียว ยันไม่เกี่ยวกับทนาย
“ทุกวันนี้มันอยู่ที่ผมคนเดียวครับ ไม่เกี่ยวกับใคร ผมทำผิดผมยอมรับผิด ขอให้ความผิดอยู่ที่ผมคนเดียวครับ ส่วนทางผู้ใหญ่ผมพยายามโทร.ไปขอโทษครับ โทร.ไปขอโทษ ถ้ามีโอกาสผมฝากพี่ๆ ไว้ตรงนี้นะครับ ว่าผมจะเข้าไปขอโทษผู้ใหญ่ทุกๆ คนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ที่มีผลกระทบ ผมขอโทษครับ (วางแผนชีวิตหลังจากนี้?) ผมคิดว่าผมอาจจะไปปฏิบัติธรรมครับ”

ไม่ทราบว่ายอมความได้หรือไม่เพราะเป็นคดีอาญา แต่มาวันนี้แสดงจุดยืนขออโหสิกรรมและจะไม่เอาผิดคู่กรณีในทุกๆ กรณี
“เรื่องนี้ผมไม่ทราบเลยครับ ส่วนเรื่องช่วยเหลือครอบครัวคู่กรณี ผมยืนยันคำเดิมนะครับว่าผมจะช่วยเหลือตลอดอย่างเต็มที่ แต่บางทีมันอาจมีอะไรที่ไม่เข้าใจ ไม่เป็นไรครับ วันนี้ผมยืนยันตรงนี้ (ก้มหน้าไหว้) ส่วนวันนี้ที่มาก็อยากจะบอกว่ายอมความไม่เอาผิดอะไรเขาแล้วครับ มาให้ปากคำเพิ่ม เป็นการมายืนยัน ตร. จะไม่เอาผิดในทุกกรณี ส่วนเจ้าหน้าที่ก็ลงบันทึกไว้เพิ่มเติมครับ (หลังจากนั้นก็โดนลากตัวออกจากวงสัมภาษณ์)”










กำลังโหลดความคิดเห็น