MGR Online - “น็อต กราบรถกู” สำนึกผิด ยอมถอนแจ้งความเหยื่อหมัดโหด ขอใช้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจปรับปรุงพฤติกรรม ด้านตำรวจยันถือเป็นคดีอาญาแผ่นดิน ไม่สามารถยอมความได้ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก
วันนี้ (14 พ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ สน.ยานนาวา นายอัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล อายุ 28 ปี หรือน็อต เวกคลับ ดารา-พิธีกรหนุ่ม เข้าพบ พ.ต.ท.อดิเรก พันธุ์ใย รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ยานนาวา เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม และถอนแจ้งความนายกิตติศักดิ์ สิงโต หรือบอย ในกรณีขับขี่จักรยานยนต์เฉี่ยวชนรถมินิคูเปอร์ สีเหลือง-ดำ ทะเบียน ญย 8585 กทม. ภายในตลาดบางรัก เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ภายหลังการเข้าให้ปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมงนั้น
ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่ สน.ยานนาวา นายอัครณัฐกล่าวว่า วันนี้ที่เดินทางมา สน.ยานนาวา เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมประกอบสำนวนคดีเท่านั้น ยืนยันไม่เอาเรื่องนายกิตติศักดิ์ใดๆ ทั้งสิ้น จริงๆ แล้วตนไม่ได้แจ้งความตั้งแต่ต้น และตอนนี้ก็ไม่ต้องการหรืออยากได้อะไรจากนายกิตติศักดิ์แล้ว เพราะตอนนี้รู้สึกผิดมากกับนายกิตติศักดิ์ จึงอยากจะขอโทษทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ผู้ใหญ่ที่เอ็นดู พี่ๆ เพื่อนๆ ที่ตนทำอะไรไปไม่มีสติ ทำให้ผิดหวัง สถาบันที่เคยศึกษาที่ทำให้เสียงชื่อเสียง อยากขออโหสิกรรมต่อสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด และต้องขอขอบคุณทุกคำติเตือนจากทุกคน ตนจะนำคำแนะนำไปปรับปรุงแก้ไขตัวเอง อย่างไรก็ตาม ตนจะรับผิดชอบทุกอย่างเกี่ยวกับนายกิตติศักดิ์ และภายหลังเรื่องราวทั้งหมดยุติอาจจะไปปฏิบัติธรรม
ด้าน พ.ต.ท.อดิเรกกล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุนายอัครณัฐได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่จะปรากฏเหตุการณ์ตามคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย ซึ่งวันนี้นายอัครณัฐประสานมาว่าต้องการเข้าให้ปากคำเพิ่มในเวลา 12.00 น. เมื่อถึงเวลานายอัครณัฐได้เดินทางมาพบพร้อมระบุว่าไม่ติดใจเอาความต่อนายกิตติศักดิ์ อย่างไรก็ตาม แม้ว่านายอัครณัฐจะประสงค์เช่นนั้น แต่ในทางคดีความถือว่าเป็นคดีอาญาแผ่นดินไม่สามารถยอมความได้ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ดังนั้น ทางพนักงานสอบสวนก็จะดำเนินคดีต่อนายกิตติศักดิ์ในข้อหาขับรถโดยประมาท เฉี่ยวชนเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหายและหลังเกิดเหตุหลบหนี ไม่หยุดช่วยเหลือ และไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะสอบปากคำนายอัครญัฐในฐานะพยานทางคดี และสอบปากคำนายกิตติศักดิ์ในฐานะผู้ต้องหาซึ่งได้สอบปากคำนายกิตติศักดิ์ไปเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นนายกิตติศักดิ์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมระบุว่านายกิตติศักดิ์ถูกรถแท็กซี่ชนก่อนที่จักรยานยนต์จะไปเฉี่ยวชนกับรถของนายอัครณัฐ อย่างไรก็ดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานส่งอัยการศาลแขวงพระนครใต้เพื่อดำเนินการต่อไป