“เบิร์ด ธงไชย” เสียศูนย์ทวีคูณ ถึงกับทรุด… ก้มกราบกลางบ้าน หลังรู้ข่าวร้าย หัวใจคนไทย 70 ล้านดวงร้องไห้พร้อมกัน ลั่นเคยถวายงานหน้าพระพักตร์ “ในหลวง - พระราชินี” พระองค์ทรงเมตตา ไม่เหมือนอยู่ใกล้ชิดพระมหากษัตริย์ อบอุ่นเหมือนอยู่กับพ่อ
ร่วมกล่าวคำปฏิภาณ และลงนามแสดงความอาลัยเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ ตึกแกรมมี่ รำลึกพระมหากรุณาธิคุณพ่อหลวง โดย “เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์” เปิดใจว่าวันที่รู้ข่าวร้าย ตนถึงขั้นทรุดลงไปกราบตรงกลางบ้าน หัวใจหล่นวูบ และร้องไห้ไปกับคนไทย 70 ล้านคน
“คือ เบิร์ด (นิ่งสักพัก) ได้ติดตามข่าวของพระองค์ท่านมาตลอด ทั้ง ๆ ที่ทำใจไว้แล้ว แต่ก็พอถึงเวลาที่รู้ข่าวนี้จริง ๆ เราทรุดตัวก้มกราบตรงนั้นเลย ตรงกลางบ้าน หัวใจเรา... มันวูบลงไปเลย เสียงที่บอกมาจากหัวใจเรา คือ ได้ทรงพักแล้ว ได้ทรงพักแล้ว ทรงได้พักผ่อน ทรงเหนื่อยมามากแล้ว อารมณ์ตอนนั้นทั้งสูญเสียทั้งเศร้าแล้วก็ (ถอนหายใจยาว) ได้พักแล้วพระเจ้าค่ะ ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร อย่างน้อยที่สุดพระองค์ท่านก็ได้ (เสียงเงียบลง จากนั้นน้ำเสียงก็เริ่มสั่นเครือ) ได้พบกับแม่ ได้พบกับพี่ ท่านทรงเหนื่อยมามาก ทั้งทรงงาน และเหนื่อยจากพระอาการประชวร ท่านต้องต่อสู้ ต้องเจ็บ เบิร์ดเห็นจากแม่ของเบิร์ดที่ถูกจิ้มเข็ม”
“ท่านได้พักแล้ว ท่านได้พักแล้ว เราบอกตัวเองอย่างนั้น แต่ก็ร้องไห้ไม่หยุด ต้องปล่อยให้ได้ระบายออกมาบ้าง พูดตรง ๆ เรียกว่าเสียขวัญดีกว่า เราผ่านการสูญเสียมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นการสูญเสียที่ทวีคูณเลย เป็นการสูญเสียพร้อม ๆ กัน เป็นโมเมนต์ที่ประเทศไทย คน 70 ล้านคนคิดถึงเรื่องเดียวกัน ร้องไห้พร้อม ๆ กัน หัวใจของพวกเราทุก ๆ คนต้องกลับมาแข็งแรงให้ได้พร้อม ๆ กัน เพื่อพระองค์ท่าน”
“คุณความดีของพระองค์ท่าน คือ ไม่สามารถประเมินได้ เราลองขีดวงกลมรอบตัว เรารู้ว่าตัวเราเองต้องรับผิดชอบอะไร เราเป็นนักร้อง เป็นนักแสดง เราต้องดูแลตัวเอง ดูแลเสียง ดูแลครอบครัว พระองค์ท่าน เป็นพระประมุขต้องดูแลลูก ๆ ตั้ง 70 ล้านคน แล้วถ้าเกิดเป็นไปได้พระองค์ท่านทำให้คนไทยทุกคนมีความสุขได้ ท่านก็ทรงทำ พระองค์ท่านเสด็จไปทุก ๆ ที่ อย่างที่เราเห็นตั้งแต่เด็ก พระองค์ท่านประชวร ทรงป่วย แม้วันที่สมเด็จย่าสิ้นพระชนม์ ท่านยังทรงแบกแฟ้มไปทำงานด้วย ท่านอยู่กับงาน”
“นั่นคือความรักที่ท่านมีต่อพวกเรา ท่านช่วยดินน้ำลมไฟ ดินตรงไหนที่ไม่ดี ท่านก็ทรงหาวิธี ทรงทำให้ดินที่เปรี้ยว แกล้งดินให้จืด ป่ารักษ์น้ำ ทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีต่อพวกเรา เพื่อให้พวกเราอยู่ได้ ท่านไม่ได้ดูพระองค์เลย ท่านมองแต่พวกเราตลอดเวลา ฉะนั้น เมื่อวันเวลาที่ผ่านมา ไม่มีอะไรสะดวกสบายสำหรับพระองค์ท่านเลย ต้องใช้ 2 ขา ต้องใช้พลังทั้งนั้น จนมาถึงวันนี้ท่านก็ยังไม่ได้หยุดเลย เพราะฉะนั้นพูดไม่ได้เลยว่าเรื่องอะไร ใจพระองค์ท่านยิ่งใหญ่มากสำหรับพวกเรา ใจพระองค์ท่านเป็นดวงเล็ก ๆ แต่เข้ามาอยู่ในใจของเราได้ทุกๆ คน มันมีความรู้สึกเดียวกันเลย”
“แม้กระทั่งเบิร์ดไปเมืองนอก คนจะถามเบิร์ดว่าทำไมเรียกพระมหากษัตริย์ เรียก king ว่า พ่อ เบิร์ดเลยถามกลับไปว่า ทำไมพ่อรักยู แล้วทำไมยูรักพ่อ ทำไมพ่อรักยูแล้วยูเรียกว่าพ่อ นี่พระเจ้าอยู่หัวรักพวกเรา เรารักพระเจ้าอยู่หัว เพราะพระองค์ท่านดูแลพวกเราเหมือนพ่อดูแล ทุกคนถึงรู้ว่าเพราะเป็นแบบนี้ คนไทยเป็นแบบนี้เพราะพระองค์ท่านเป็นแบบนี้ พระองค์ท่านรักพวกเรา”
ถวายงานใกล้ชิดทั้ง “ในหลวง-พระราชินี” เผยพระองค์ทรงเมตตา ไม่เหมือนอยู่ใกล้ชิดพระมหากษัตริย์ อุบอุ่นเหมือนอยู่กับพ่อ
“เมื่อได้เข้าเฝ้าฯใกล้ชิดแล้ว เมื่อได้กราบแทบพระบาท ได้มีโอกาสได้ใกล้ชิดทั้งสองพระองค์ และทุก ๆ พระองค์ทรงเมตตากับเบิร์ดมาก ได้อยู่ใกล้ชิด ซึ่งไม่เหมือนว่าอยู่ใกล้ชิดพระมหากษัตริย์ เพราะรู้สึกอบอุ่น เหมือนอยู่กับพ่อที่อบอุ่นเหลือเกิน เราไม่มีแม้กระทั้งความกลัว มีแต่ความรัก ความเมตตา”
“พระราชดำรัสของในหลวง คือ ต้องย้อนกลับไปอีกหลาย ๆ งาน เบิร์ดได้เข้าไปร้องในงานประสูติของหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ซึ่งเบิร์ดเรียกว่าท่านพ่อ พระองค์ทรงตรัสว่าถ้าเป็นลูกท่านภี ต้องเรียกชายเบิร์ด ไม่อยากให้เรียกว่าป๋าเบิร์ด ท่านถามว่าเบิร์ดทำนาอะไร ทรงรู้ ทรงพระเมตตา พระองค์ท่านได้อ่านบทสัมภาษณ์เบิร์ด วันนั้นได้เอาข้าวมาถวายด้วย หลังจากร้องเพลงถวายเสร็จ พอเอาข้าวถวาย พระองค์ก็ถามว่าถ้าเป็นนักร้องก็ขอให้เป็นที่หนึ่ง ท่านยกพระนิ้วโป้งให้ และถ้าเป็นเกษตรกรก็ขอให้เป็นที่หนึ่ง เบิร์ดว่ามันเกินคำบรรยาย เบิร์ดกราบแทบพระบาทพระองค์ท่าน เบิร์ดใช้เวลาอยู่ตรงนั้นให้มากที่สุด มันทำให้รู้ว่าพวกเราทำไมโชคดีเหลือเกิน มีบ้านหลังหนึ่งที่ชื่อว่าประเทศไทย มีพ่อเป็นพระมหากษัตริย์ที่ดูแลเรา คุยกับเรา และได้มองว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องหรือเปล่า ขอให้เราประสบความสำเร็จ ให้พรเรา ทำให้พวกเรามีความสุข ทั้งโลกนี่คนไทยน่าอิจฉาที่สุด”
“ก็เป็นการสูญเสียที่ทุกคนต้องผ่านไปให้ได้ แต่การสูญเสียครั้งนี้ เบิร์ดเองก็รู้ว่าเราจะผ่านไปค่อนข้างยาก เพราะคน 70 ล้านคน คิดในเรื่องเดียว สูญเสียในช่วงเวลาเดียวกัน หัวใจแตกสลายเหมือนกัน แต่เราต้องดึงความเข้มแข็งกลับมาให้เร็วที่สุด เพื่อพระองค์ท่านจะได้สบายพระทัย และที่นี้แหละจะเป็นทีของพวกเราแล้ว ว่าเราจะทำตามคำสอนของในหลวงของเรายังไง ใครคิดอะไรได้ ทำสิ่งใดที่ดี ๆ ได้ก็ทำกันเลย และสิ่งที่จะทำให้พระองค์สบายพระทัยมากที่สุด คือการที่ท่านมองลงมาแล้วเห็นลูก ๆ รักกัน คนไทยรักกัน ลูกหลานในบ้านที่เรียกว่าคนไทยรักกัน มีอะไรค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ จากัน อยู่กันอย่างมีความสุข land of smiles กันอยู่ และใต้เบื้องพระยุคลบาทนั้น พระองค์ไม่ได้ไปไหน พระองค์ยังอยู่ ถ้าทุกคนยึดถือแนวพระราชดำริหรือคำสอนของพระองค์ท่าน ว่าพระองค์ท่านรักแม่อย่างไร พระองค์ดูแลประชาชนอย่างไร พระองค์ท่านเป็นแฟมิลี่แมนอย่างไร พระองค์ท่านทรงงานอย่างไร นั่นคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด เราจะได้รู้แล้วว่าใครทำดีถวายพระองค์ท่านอย่างไรบ้าง”
“ถ้าท่านทรงทอดพระเนตรลงมามองเราอยู่ เบิร์ดจะบอกว่ากราบแทบพระบาทพระเจ้าค่ะ ขอให้ทรงพัก ไม่ต้องทรงห่วงพวกเรา พวกเราจะดูแลตัวเองให้ดี จะดูแลประเทศชาติให้ดี จะรักกัน จะทำตามที่พ่อสอนมาพระเจ้าค่ะ”