“ปีใหม่ - ป๋าต๊อบ” เปิดหมดเปลือก ชีวิตดิ่งเหวตกนรกทั้งเป็น เพราะพึ่งสิ่งมึนเมา บอกถ้าไม่เดินออกมา อีกนิดก็ตายแล้ว ต้องกราบเท้าพ่อแม่สาบาน เชื่อเลิกมาได้ เพราะอานิสงส์ผลบุญของพ่อแม่และคนที่รักหนุนนำ รับชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ด้านปีใหม่กลับมาตั้งใจเรียนหนังสือให้จบปริญญา ส่วนป๋าต๊อบก็เลิกเจ้าชู้ เผย อยากมีลูก แต่แฟนสาวไม่อยากมี ปีใหม่ฟุ้งเห็นในความพยายามของอีกฝ่าย คุ้มคาแล้วได้ใช้ชีวิตคู่กับคนนี้
หายหน้าหายตาจากสื่อไปนานหลายปีพร้อมกับกระแสหลังจากที่เคยออกรายการยอมรับว่าคู่ชีวิตติดยาเสพติดทุกชนิด จนทำให้ชีวิตพัง วันนี้ทั้งคู่ “ป๋าต๊อบ ปฏิญญา ควรตระกูล” และ “ปีใหม่ สุมนต์รัตน์ วัฒนาเศลารัตน์" ก็ได้ออกมาเปิดใจแบบหมดเปลือกในรายการ สน.สตรอว์เบอร์รี่ ช่อง NOW26 โดยยอมรับว่า ผ่านมรสุมชีวิตดังกล่าวมาได้จะเข้าปีที่ 7 แล้ว แถมตอนนี้สาวปีใหม่ยังกลับมาตั้งใจเรียนหนังสือ เพื่อคว้าใบปริญญาให้สำเร็จ
ปีใหม่ : “ตอนนี้มีเวลาเยอะขึ้น ก็กลับไปทำอะไรที่ตัวเองยังทำไม่สำเร็จให้เสร็จก็คือเรียนหนังสือ ตอนนี้เรียนไปได้ครึ่งหนึ่งแล้วที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง”
ป๋าต๊อบ : “มรสุมชีวิตทุกคนมีหมดแหละ แต่ตอนนั้นมรสุมชีวิตเขาดูหนักหนา เพราะทัศนคติและการมองโลกของเขามันไม่มี แต่ตอนนี้พอได้มองย้อนไปมันก็เป็นบทเรียนที่ดีมาก ทำให้รู้เลยว่าความไร้สติคืออะไร และความมีสติในปัจจุบันมันแตกต่างกันยังไง ที่มันเกิดขึ้นมันเป็นความผิดพลาดอย่างเดียวเลยค่ะ แล้วเราก็ไปจมกับความผิดพลาดของตัวเองไม่คิดว่าเราจะต้องหาทางออก หาทางแก้ไข แต่ไปใช้การแก้ไขที่ว่าไปโทษว่าคนอื่นผิด ทุกอย่างผิดแต่ฉันไม่เคยผิด มันก็แก้ไขไม่ได้”
เผยติดสิ่งมึนเมาทุกชนิด เพราะคิดว่าเป็นชีวิตที่เท่ จนมารู้ทีหลัวว่าเป็นสาเหตุทำให้ชีวิตจมดิ่งไม่รู้ถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่
ป๋าต๊อบ : “คิดว่าชีวิตตรงนั้นเป็นคำตอบ ใช้ชีวิตเหมือนเราอยู่ในโฆษณาเบียร์ กินไปแล้วมันเด้งดึ๋ง ๆ เฮ้ย มันดูมันว่ะ”
ปีใหม่ : “มันเท่ มันดี”
ป๋าต๊อบ : “แต่ลืมคิดไปว่าที่เราเห็นในโฆษณาเบียร์ คือ แค่ 30 วินาที แต่นี่คือชีวิตคน ๆ หนึ่ง 24 ชั่วโมง จะไปให้ดึ๋ง ๆ อย่างนั้นตลอดมันเป็นไปไม่ได้ มันเอามาแต่ความรู้สึกจอมปลอม มันทำให้เราไม่น่ารักกับคนอื่น คิดว่ากูนี่แม่งสำคัญมาก กูแม่งเจ๋งเหลือเกิน มองไม่เห็นว่าเรานี่ก็เหมือน ๆ กับคนอื่น ๆ เราก็พากันไปทั้งคู่ พอกัน”
ปีใหม่ : “ตอนนั้นที่เราดำเนินชีวิตไปในทางที่ไม่ดีมันอยู่ที่การเข้าใจผิดด้วย เราคิดไปว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่ใคร ๆ ที่เราเห็นเราเจอเขาก็ทำกัน ชีวิตแบบนี้คนที่อายุมากกว่าเราเขาก็เป็นกันเยอะแยะ ที่เราเดินทางชีวิตผิดไปกับสิ่งมึนเมานี่มันไม่ใช่เพราะคนอื่นหรอก แต่มันเป็นเพราะตัวเรา เราอาจจะทำอะไรในชีวิตผิดไปก็ได้แต่เราไม่เคยโทษสิ่งมึนเมาเลย ตอนนั้นก็แก้ปัญหาอยู่กับตัวเอง แล้วก็คิดอยู่นั่นว่าทำไมถึงแก้ไม่ได้เสียที นับวันก็ยิ่งทุกข์ แล้วเราก็ยิ่งไปพึ่งสิ่งมึนเมามากขึ้นเพื่อหนีความทุกข์ ตอนนั้นกลับคิดว่าสิ่งมึนเมาพวกนี้ทำให้เราลืมความทุกข์ไปได้ ทำให้เรามีความสุขมากขึ้นได้ เป็นตัวเองมากขึ้นได้ แต่กลับเป็นว่าความเข้าใจผิดตรงนั้นมันยิ่งทำให้เราถลำลึกลงไป ตอนนั้นเราก็ทะเลาะกันแรง เลิกกันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง”
ป๋าต๊อบ : “ตอนนั้นเราเองเป็นคนที่พูดจาไม่ดีกับคนเลย ถามว่าตอนนั้นเราติดมั้ย อะไรก็ตามที่เราใช้เพื่อเปลี่ยนความรู้สึกของตัวเราเองก็คือติดทั้งนั้นแหละ ไม่ว่าจะเป็นคน เป็นหวย เป็นอาหาร”
ปีใหม่ : “อะไรก็ตามที่ทำแล้วให้เรารู้สึกดีขึ้น มันคือการติด ทำให้เราหายเศร้ามากขึ้น”
ป๋าต๊อบ : “เราใช้ของเหล่านั้นผิดวัตถุประสงค์ เพราะติดแล้วมันก็หมกมุ่น กลายเป็นว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด สำคัญมากกว่าแฟน มากกว่าพ่อแม่ เราคิดว่าเวลาเป็นของตาย ยังไงฉันก็ยังเด็กอยู่ ยังไงฉันก็ยังวัยรุ่นอยู่ ปาเข้าไป 30 กว่าแล้วยังคิดว่าตัวเองเป็นวัยรุ่น (หัวเราะ) ตอนนั้นที่เราติดมันไม่ใช่แต่เหล้าแต่เบียร์ อะไรที่เขาว่าเมาเราเอาด้วยหมด แล้วเราไม่เคยถามใครเลยว่าผลกระทบจากตรงนั้นมันคืออะไร คิดแต่ว่าฉันไม่ได้ไปทำร้ายใคร ฉันแค่ทำร้ายแค่ตัวเอง ไม่ได้คิดว่าชีวิตที่พ่อแม่ให้มาคือของขวัญอันล้ำค่าที่สุดนะ คือ เราทิ้งมันไปหมดเพื่อที่จะไปได้อะไรก็ไม่รู้ มันงมงายมากเลย”
ปีใหม่ : “ตอนนั้นมันมีความรู้สึกว่าใช้แล้วจะเท่ จะวัยรุ่น เข้าสังคมได้ เพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง ยิ่งเราสามารถรักษาความเท่เอาไว้ได้ก็จะยิ่งดูเท่ขึ้นไปอีก”
เผยที่ยอมเลิกเพราะเสพติดมาก เพราะเกือบตายมาแล้วด้วยอาการช็อก หลังจากนั้น ก็เข้ารักษาบำบัดทุกรูปแบบ
ป๋าต๊อบ : “ตอนนี้เลิกทุกสิ่งทุกอย่างหมดเลยครับ ที่เลิกเพราะเกือบตายด้วยอาการช็อก”
ปีใหม่ : “ตอนนั้นอีกนิดหนึ่งก็จะตายแล้ว”
ป๋าต๊อบ : “เราเชื่อว่าวันนั้นถ้าเราไม่ได้เดินออกมาเราคงตายไปแล้ว พ่อแม่เราคงได้ไปฝังศพเราแน่ๆ แล้วคิดว่ามันคงจะบาปกรรมที่สุดในชีวิตเลยแหละ ตอนนั้นเราก็สาบานแล้วสาบานอีก เราก็กราบเท้าพ่อแม่ขอโทษจะเอาใหม่ แต่เดี๋ยวอีก 3 วันเราก็เอาอีกแล้ว อีก 1 เดือนกับ 7 วันเราก็จะเลิกมาครบ 6 ปี เรียกว่าเราเลิกทุกอย่าง สิ่งมึนเมาทุกชนิดที่มันจะเปลี่ยนอารมณ์ เปลี่ยนความคิดเราเลิกหมด ตอนนั้นเราก็เข้าสถานบำบัด หาคนช่วยเหลือที่เขาเป็นอย่างที่เราเป็นแล้วเรามีประสบการณ์เลิกมาได้ ตอนนั้นก็อ่อนน้อมถ่อมตนขอความช่วยเหลือจากคนอื่น เลิกคิดว่าตัวเองเจ๋งแล้ว”
ปีใหม่ : “ตอนนั้นที่เขาชวนเราว่าที่เรามีปัญหา ชีวิตแย่เพราะสิ่งนี้มากกว่าไม่ใช่เพราะเราสองคนหรอก ตอนนั้นใหม่ก็ไม่ค่อยเชื่อ คิดว่าเขาจะหาเรื่องทิ้งใหม่ไป เขาก็บอกลองดูเชื่อพี่อีกสักครั้งหนึ่ง แล้วเขาก็ออกจากบ้านไป ใหม่เองก็กลับไปอยู่บ้านใหม่ สักพักหนึ่งเขาก็ติดต่อกลับมาว่าพี่กำลังพยายามอยู่นะ ตั้งแต่ใหม่ออกจากบ้านเขามาใหม่ก็เลิกเหมือนกัน คือเลิกทุกสิ่งทุกอย่าง สภาพในตอนนั้นตัวเองแย่มาก ตัวใหม่ได้เข้ารับการบำบัดมั้ย ต้องเรียกว่าได้รับความช่วยเหลือจากพี่ต๊อบมากกว่า ใหม่ไม่ได้ไปบำบัดกับเขาด้วย แค่เราตาม ๆ เขาไป เขาทำอะไรเราก็ทำด้วย หลังจากที่แยกกันไปไม่ถึง 2 อาทิตย์เขาก็กลับมา”
รับหลังจากเลิกสิ่งมึนเมามาได้ชีวิตก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นดีขึ้น ไม่ทะเลาะกัน รักกันมากขึ้น เชื่อผ่านชีวิตจุดนั้นมาได้เป็นเพราะอานิสงส์ผลบุญของพ่อแม่และคนที่รักตนคอยส่งหนุนนำให้
ป๋าต๊อบ : “หลังจากเลิกชีวิตเราไม่ได้ดีขึ้นโดนทันที เรื่องทัศนคติมันไม่ได้เปลี่ยนกันได้ภายในวันเดียว ต้องกลับไปลบ เปลี่ยนความเชื่อที่มันไม่จริง ความเชื่อที่มันไม่ดีกับตัวเองก่อนว่าฉันนี่ไม่ดีเลยนะ ฉันนี่เป็นโนบอดี้ ไปทำให้ตัวเองมีความมั่นใจ เรียกว่าไปเปลี่ยนเยอะเลย บอกเลยว่าตอนนั้นมันตกนรกทั้งเป็น ตื่นขึ้นมาทุกวันมันก็ทำอะไรซ้ำซากเหมือนเดิมทุกวัน ความรู้สึกซ้ำซาก การันตีได้เลยว่าวันนี้ต้องทะเลาะกัน วันนี้ต้องเหงา ทุกวันจะต้องไปนั่งอยู่ในมุมห้องน้ำแล้วร้องไห้ มันการันตีได้เลย เพราะมันเหมือนกันทุกวัน มันเบื่อนะแต่มันหยุดไม่ได้ เขาถึงเรียกว่าติด”
“หลังจากที่เลิกมาได้ก็ไม่เคยทะเลาะกัน ไม่เคยทะเลาะแล้วใช้คำพูดเชือดเฉือนตั้งใจจะทำร้ายกันเลย มีทะเลากันบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ คุยกันว่าเราจะทำอะไรแก้ไขตรงไหนได้บ้างรึเปล่า แล้วถ้าเมื่อไหร่รับปากแล้วต้องทำ คำพูดคนสำคัญ ถ้ารับปากแล้วต้องทำ ถ้าไม่รับปากก็อีกเรื่องหนึ่ง (หัวเราะ)”
ปีใหม่ : “เรียกว่าเราโชคดีมากที่เราใช้ร่างกายมาหนักหน่วงขนาดนั้นแล้วยังไม่เป็นอะไร”
ป๋าต๊อบ : “เราเชื่อว่าที่เราผ่านตรงนั้นมาได้เพราะได้อานิสงส์บุญจากพ่อแม่ เพราะบุญของเราคงใช้หมดไปหลายชาติแล้วเพราะเราทำบาปทุกวันเลยที่คิดจะเห็นแก่ตัว คิดว่าที่เราผ่านตรงนี้มาได้เพราะบุญของพ่อแม่พี่น้องและคนที่รักเราเขาส่งมาให้เรา เราคิดว่าตอนนั้นเราไม่น่าจะอยู่รอดได้ มองกลับไปมันน่าตายจริง ๆ คนบ้าอะไรไม่รู้”
โวชีวิตตอนนี้สุดแฮปปี้เพราะรู้จักที่จะรักตัวเองและคนอื่นเป็น แถม “ป๋าต๊อบ” ประกาศเลิกเจ้าชู้แล้วเพราะรู้จักที่จะซื่อสัตย์ต่อตนเอง
ป๋าต๊อบ : “ตอนนี้ชีวิตแฮปปี้มากเพราะเรารู้จักรักตัวเองและรักคนอื่นเป็น”
ปีใหม่ : “เราคบกันมา 7 ปีแล้ว ตอนคบกันใหม่ ๆ คนก็บอกว่าไม่น่าจะไปกันรอด เราเองก็ยังคิดว่ามันก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกัน ไม่คิดว่าเราจะมาถึงขนาดนี้กันได้ อาจจะเป็นเพราะสิ่งที่พี่ต๊อบเขาพยายามที่เขาเปลี่ยนชีวิตตัวเองทั้งหมดเพื่อรักษาชีวิตคู่ของเรา เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งนี้ต่างหากที่มันไม่ดีกับชีวิตคู่ของเราและตัวเราเองด้วย สิ่งที่เขาทำมันค่อนข้างยาก เพราะเขาอยู่กับสิ่งมึนเมามาเป็นระยะเวลานานกว่าใหม่เยอะ ฉะนั้น การเลิกมันก็เลยค่อนข้างจะเลิกยากกว่า เห็นเขาพยายามเปลี่ยนตัวเองมาเรารู้สึกว่ามันคุ้มที่จะใช้ชีวิตอยู่กับคนนี้ เรื่องความเจ้าชู้เท่าที่เห็นก็ไม่มีแล้ว”
ป๋าต๊อบ : “เดี๋ยวนี้เรารู้จักแล้วว่าการซื่อสัตย์ต่อตัวเองมันคืออะไร มันไม่สนุกแล้ว คิดว่าการทำแบบนั้นมันไม่น่านับถือ เราพยายามจะใช้ชีวิตให้อยู่กับปัจจุบัน เป็นลูกกตัญญู รู้จักเคารพตัวเอง เรียนหนังสือให้จบ ทำงานมีความรับผิดชอบ เลี้ยงแม่เลี้ยงน้องแล้วเขาจะรู้จักเคารพตัวเองแล้วก็จะได้รู้จักเคารพเราด้วย”
“ป๋าต๊อบ” รับล้มเลิกความคิดอยากมีทายาท เพราะ “ปีใหม่” ไม่อยากมี เลือกชีวิตที่เหลือกับการท่องเที่ยวให้ชีวิตมีความสุข ชี้ถ้าอยู่ด้วยกันไม่ได้ ต่อให้มีลูกก็ช่วยไม่ได้
ป๋าต๊อบ : “เคยคิดว่านะ แต่ปีใหม่จะต้องเป็นคนอุ้มท้องไม่ใช่เรา ไม่ใช่ว่าเราอยากมีลูกแล้วไม่ถามความคิดเขามันก็ไม่ได้ ถามเขาแล้วเขาทำหน้าแหย ๆ ไม่ไหวมั้ง (หัวเราะ) แต่เราก็ยังอยากเที่ยวอยู่ อยากมีความสุขกันตรงนี้ มีลูกมันก็เที่ยวลำบาก”
ปีใหม่ : “พี่ต๊อบเขาเป็นคนที่แพ้เด็กมาก เห็นเด็กแล้วเขาใจละลาย ตัวใหม่เองเคยเลี้ยงน้องมา 2 คนแล้ว เลี้ยงเขามาตั้งแต่เล็ก ๆ เลย เรียกว่าน้องห่างกัน 20 ปี ค่อนข้างจะเป็นลูกใหม่ได้แล้ว ตอนนี้ก็ยังต้องเลี้ยงเขาอยู่ก็เลยเหนื่อย รู้สึกว่าพอก่อน อยู่กันสองคนก็มีความสุขดี”
ป๋าต๊อบ : “ลูกไม่ได้เป็นตัวเชื่อมสัมพันธ์อะไรทั้งสิ้น ถ้าคนมันจะอยู่ด้วยกันไม่ได้มันก็อยู่ไม่ได้ ถ้าเรารักกันมันก็อยู่กันได้ ไม่เกี่ยวกับเด็ก เลยคิดว่าอย่าเอาใครเข้ามาอีกคนเลย อยู่อย่างนี้ดีแล้ว มีหมา 10 กว่าตัวพอแล้ว”
