xs
xsm
sm
md
lg

“น็อต แม็กซิม” ช็อกโดนหลอก! เผยเพิ่งรู้คนทำเฟซล็อกให้ไม่ใช่หมอ ลั่นโชคดีที่ไม่ตาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

 “น็อต แม็กซิม” สไตล์สิสต์ชื่อดัง
“น็อต แม็กซิม” เหวอเพิ่งรู้จากปาก “ดร.เซปิง” ว่าคนทำเฟซล็อกให้ตนไม่ใช่หมอแต่เป็นพยาบาล แจงไม่เอะใจเพราะตอนเข้าห้องผ่าตัดยังเห็น “หมอชลธิศ” อยู่ในห้อง แต่ตอนผ่าตนสลบจึงไม่ทราบว่าใครเป็นคนผ่าให้ ลั่นโชคดีที่ไม่ตาย โอดโดนหลอกซ้ำซ้อนผ่าหนังหน้าได้เดือนเดียวก็ย้วยทั้งที่ตอนแรกบอกจะตึงเป๊ะตลอดชีวิต เตรียมใจถ้าต้องไปเป็นพยานให้ ดร.เซปิงฟ้องหมอชลธิศ ซัดควรมีจรรยาบรรณแพทย์

ทำเอาสไตล์ลิสต์ชื่อดัง “น็อต แม็กซิม” หรือ “น็อต กฤติน จิกิตศิลปิน” อึ้งกิมกี่ หลังเคยออกมาคุยโวว่าตนขึ้นเขียงผ่าหนังหน้ากระชากวัยให้เด็กลง ด้วยการทำศัลยกรรมที่เรียกว่าเฟซล็อกกับหมอที่เก่งที่สุดในเมืองไทย แต่ปรากฏว่าล่าสุด “ดร.เซปิง ไชยศาส์น” งัดภาพออกมาแฉว่าในครั้งนั้น “หมอชลธิศ ลินรัชตานันท์” ไม่ได้ทำการผ่าตัดด้วยตัวเอง แต่กลับให้นางพยาบาลเป็นคนทำให้ทั้งที่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ พร้อมประกาศเดินหน้าเตรียมฟ้องร้องหมอชลธิศให้ถึงที่สุดเพื่อคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค

อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว “น็อต แม็กซิม” ได้เดินทางมาเปิดใจกับสื่อมวลชนที่ สตูดิโอ ช่อง 2 โดยเผยว่าตนเพิ่งทราบเรื่องดังกล่าวเมื่อวานนี้เอง(3 มีนาคม) แจงตอนเข้าไปในห้องผ่าตัดยังเห็นหมอชลธิศอยู่เลย แต่ตอนผ่าตนสลบจึงไม่ทราบว่าใครเป็นคนผ่าให้ กระทั่งมาโป๊ะแตกจากปาก ดร.เซปิงว่าเป็นฝีมือพยาบาลไม่ใช่หมอชลธิศ

“ต้องบอกก่อนว่าเพิ่งทราบเรื่องมาเมื่อวานนี้เองว่ามีรูปเราออกไปจากทาง ดร.เซปิง ว่าเราได้ไปผ่าเฟซล็อก แล้วคนที่ทำให้ไม่ใช่คุณหมอแต่เป็นพยาบาล ถามว่าจะฟ้องมั้ย จริงๆ เราอยากให้ตรวจสอบก่อนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไรกันแน่ สิ่งที่ ดร.เซปิงพูดว่าเป็นพยาบาลทำให้เรานั้นมันจริงหรือเปล่า เราอยากทราบข้อเท็จจริงมากกว่า”

เผยตอนเข้าไปในห้องผ่าตัดยังเห็นหมอชลธิศอยู่เลย แต่ตอนผ่าตนสลบจึงไม่ทราบว่าใครเป็นคนผ่าให้ กระทั่งมาโป๊ะแตกรู้จากปาก ดร.เซปิงว่าเป็นฝีมือพยาบาลไม่ใช่หมอชลธิศ
“ตอนเข้าไปตอนแรกเราก็เจอคุณหมอท่านนั้นนะ ยังสวัสดี เซย์ไฮกันอยู่ แต่หลังจากนั้นเราสลบเพราะต้องดมยาก่อนผ่าตัด พอผ่าเสร็จเค้าเข็นเราออกมาพอตื่นก็ไม่เห็นคุณหมอท่านนั้นแล้ว คือเราก็ไม่แน่ใจว่าคุณหมอเป็นคนทำให้เราหรือเปล่าเพราะเราไม่เห็นตอนที่ผ่า ถ้าเป็นสมัยที่เราทำจมูกเราจะตื่นอยู่ เราจะเห็นหน้าคุณหมอว่าหมอดึงซิลิโคนเข้าดึงซิลิโคนออกยังไง แต่ตอนทำเฟซล็อกเราสลบเราไม่เห็นอะไรเลย”

“เราเพิ่งทราบเรื่องเมื่อวาน เอาจริงๆ นะ หลังจากที่ทำไปได้ 3 เดือนเราก็รู้สึกว่ามันห้อย เราก็ไปต่อว่านิดนึงว่าทำไมไม่ตึง ไม่กระชับ ไม่ดูเด็ก ดร.เซปิงก็บอกว่าจริงๆ เขาทราบมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่ได้บอกเรา(หัวเราะ) เราก็เคยต่อว่าไปนิดนึงว่าทำไมไม่บอกล่ะ ก็รู้สึกเสียใจเหมือนกัน แต่เราก็รู้สึกว่าโชคดีที่ไม่เป็นอะไร เพราะถ้าสมมุติไม่ใช่คุณหมอทำแต่เป็นพยาบาลทำอย่างที่เขาบอกจริงๆ ถ้าเป็นคนอื่นเกิดดวงไม่ดีขึ้นมาตายได้นะ จริงๆ แล้วการดมยา วิสัญญีแพทย์สำคัญที่สุด ต้องเป็นแพทย์เฉพาะทางจริงๆ เลย ตอนนี้เราเองก็ยังไม่โทร.ไปหาทางคลินิก ส่วนทางคลินิกก็ยังไม่โทร.มาหาเราเลย”

ดี๊ด๊าบอกสัปดาห์แรกที่ทำหน้าตึงเป๊ะปังมาก แต่ผ่านไปแค่ 1 เดือนหน้ากลับย้วยเสื่อมสภาพ ทั้งที่ตอนแรกหมอบอกว่าจะเต่งตึงไปตลอดชีวิต
“ทำตอนแรกเป๊ะมาก(ลากเสียงยาว) เป๊ะปังกะละมังหม้อมาก หน้าตึง ก็ได้ถามเพื่อนๆ เหมือนกัน เพื่อนก็บอกว่าอาจจะเป็นเพราะมันบวมหรือเปล่าหน้าเราเลยตึงและใส ตอนทำมาได้ 1 อาทิตย์เราแฮปปี้มาก นอนดูกระจกทั้งวัน แต่พอผ่านไป 1 เดือนหน้ามันก็คล้อยลงมา ซึ่งตอนแรกเขาบอกว่าทำแล้วมันจะล็อกตลอดชีวิต เราถึงทำไงเพราะดูแล้วมันคุ้มมาก เราเก็บภาพก่อนทำและหลังทำไว้หมดเลย ถึงตอนนี้ก็ทำมาได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว”

เสียใจที่โดนหลอก บอกตนเป็นเจ้าแม่ศัลยกรรมย่อมคาดหวังมากต้องได้สิ่งที่ดีที่สุด พอผลออกมาตรงกันข้ามก็ผิดหวังมาก
“เสียใจนะ(ยิ้ม) ทุกคนที่ทำศัลยกรรมเขาต้องคัดเลือกอยู่แล้วและเขาต้องคาดหวังกับคุณหมอคนนั้นที่ทำว่าต้องทำออกมาดี เพราะหนึ่งด้วยตัวเราเองเป็นเจ้าแม่ศัลยกรรมอยู่แล้ว ทำหัวจรดเท้าขนาดนี้เข้าใจป่ะ ฉะนั้นเรายิ่งคาดหวังว่าต้องออกมาพิเศษที่สุดแต่พอบอกว่าเป็นพยาบาลทำ เราก็เสียใจนะ รู้สึกว่ามันผิดหวัง มันไม่ดี”

เมื่อถามว่าจะดำเนินการอย่างไรกับเรื่องนี้ เจ้าตัวก็เผยว่าคงต้องรอดูว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ส่วนตัวเชื่อว่าหมอชิลธิศจะออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถ้าจะให้กลับไปทำกับหมอท่านนี้อีกรอบนั้นไม่เอาแล้ว
“ตอนนี้ร้องไห้หนักมากก่อน(หัวเราะ) ต้องดูกันต่อไปว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ก็ให้กรณีของเราเป็นอุทาหรณ์ละกันเพราะเราเป็นคนชอบทำศัลยกรรม ทุกๆ คนคาดหวังจากเราว่าจะคัดแต่สิ่งดีๆ เข้าหาแต่ตัวเรา แต่เรากลับมาเจอเรื่องที่มันพลิกก็รู้สึกเสียใจ ก็ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ราก็ขอเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสก็เอาตัวเราเป็นอุทาหรณ์ให้คนอื่นดูว่า ถ้าจะทำศัลยกรรมทั้งทีต้องศึกษาให้ดี และต้องดูคุณหมอด้วยว่าคุณหมอเป็นคนทำให้จริงหรือเปล่า หรือถ้าเพื่อนเราสามารถเข้าไปในห้องผ่าตัดได้ก็ขออนุญาตคุณหมอเข้าไปดูการผ่าตัดด้วย”

“ถ้าเป็นจริงอย่างที่ ดร.เซปิงพูดคุณหมอก็คงต้องออกมารับผิดชอบแหละ แต่ถ้าจะให้ไปทำอีก(หมายถึงทำกับคุณหมอคู่กรณีของ ดร.เซปิง)ก็ไม่เอาแล้ว เราพูดตรงนี้เลยว่าไม่ขอเรียกร้องอะไร คือเราอยู่วงการบันเทิงไม่ได้อยู่วงการศาลที่จะไปเดินขึ้นเดินลงเล่นๆ เหมือนบ้านไม่ใช่ มันพลาดไปแล้วก็ไม่เป็นไร ก็ให้เป็นกระบวนการต่างๆ ของทั้งสองคนไปละกัน ส่วนเราในเมื่อไม่เป็นอะไรแล้ว เราไม่ตาย เราก็เอาเคสนี้มาเป็นวิทยาทานให้กับคนอื่นละกัน”

ลั่นไม่เข็ด จะทำอีก
“เข็ดคืออะไร เจ็บคืออะไร(หัวเราะ) เราอยากทำใหม่ด้วย จริงๆ เราเฝ้ารอที่จะเห็นหน้าคุณสุรชัยมานาน พอออกมาเป๊ะ ก็คิดว่า ดร.เซปิงต้องรับผิดชอบเรานะ แต่จะแอบบอกนิดนึงว่าเฟซออฟเนี่ย เราคือรุ่นแรกที่ไปทำของ ดร.เซปิงนะ”

ดร.เซปิง บอกมีคลิปตอนผ่าตัดที่ยืนยันว่าเป็นพยาบาลทำด้วย?
“ยังไม่เห็นคลิป แต่อยากเห็นนะ”

ส่วนกรณีวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม นี้ ดร.เซปิง จะไปแจ้งความ เมื่อถามเจ้าตัวว่าจะไปด้วยหรือไม่ งานนี้เจ้าแม่ศัลยกรรม “น็อต แม็กซิม” ปฏิเสธอย่างเร็วว่าไม่ไป ไม่อยากขึ้นโรงขึ้นศาล
“ไม่ไปหรอก ให้คุณเซปิงไปเลยดีกว่าค่ะ(หัวเราะ) อันนี้พูดตรงๆ นะว่าให้เป็นกระบวนการของคุณเซปิงดีกว่า เราเป็นคนไม่ชอบที่จะไปฟ้องร้อง (แต่เราเป็นหนึ่งในเคสที่มีปัญหา ถ้าถูกเรียกไปเป็นพยานล่ะ?) จริงๆ ไม่อยากไป ไม่อยากไปยุ่งอะไรกับเขา จริงๆไม่อยากให้ทะเลาะกันเลย เราคนไทยด้วยกัน ถ้าอันไหนปรับความเข้าใจกันได้ก็ปรับความเข้าใจกันดีกว่า โดยส่วนตัวเราเป็นคนไม่ชอบไปทะเลาะตบดีกับใคร แต่ถ้าต้องไปในกรณีปกป้องสิทธิ์ก็คงต้องไป ไปเป็นพยานไปเป็นอุทาหรณ์ก็ได้ แต่ถ้าถามใจจริงๆ ก็ไม่อยากไปเลย”

“อยากฝากข้อคิดถึงคนที่ทำศัลยกรรม ถามว่าเราผิดหวังมั้ยก็ผิดหวังมากในเมื่อตัวเราเองตั้งตนว่าเป็นผู้รู้ในเรื่องของการทำศัลยกรรม แต่เรากลับมาผิดพลาดซะเอง แต่ไม่เป็นไรทุกคนมีความผิดพลาดกันได้ เพราะฉะนั้นคนที่คิดจะทำก็เอาเราเป็นตัวอย่างละกันว่าเคสนี้ไม่ดีแต่ไม่ตาย(ยิ้ม) แต่ไม่แน่คุณอาจจะตายก็ได้นะ แต่ถ้าคุณไม่อยากตายคุณดูเราไว้ และศึกษามันให้ชัดเจนเพราะการทำศัลยกรรมมันเสี่ยงมาก มันคือการเปลี่ยนตัวและเปลี่ยนชีวิตเลยนะ ถ้าเปลี่ยนไม่ดีก็ไปเลยจ๊ะ และฝากถึงจรรยาบรรณแพทย์ด้วยนะคะ จริงๆ ทุกๆ อาชีพต้องมีจรรยาบรรณ ไม่ว่าจะเป็นคนกวาดถนน กวาดขยะ หรือนักข่าว ทุกอาชีพต้องมีความรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นแพทย์ก็ต้องมีจรรยาบรรณในการทำงานด้วยเหมือนกัน เรื่องนี้มันต้องฝังอยู่ในสมองเลย”


ภาพที่เจ้าตัวทำศัลยกรรมเฟซล็อก
“ดร.เซปิง ไชยสาส์น”


ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
กำลังโหลดความคิดเห็น