“จุ๋ย วรัทยา” ยอมรับ “ดีเจพุฒ” เสียใจ หวังดีเป็นห่วงแฟนคลับแต่ถูกเปลี่ยนเจตนา สาบานอีกฝ่ายไม่ได้ชิ่งแฟนคลับเพื่อกลับมาโซ้ยเย็นตาโฟกับตน โต้คบกันแล้วทำให้เปลี่ยน อึกอักพระเอกดังตามเฝ้า เมินเพจแอนตี้ขุดรูปเก่ามาแฉ ย้ำไม่มีอะไรต้องกลัวเพราะสวยธรรมชาติ ไม่หวั่นขุดอดีตมาแฉซ้ำ ชี้ชีวิตไม่เคยสร้างภาพ ทำใจยอดเกลียดพุ่ง ถามกลับให้ร้ายคนอื่นมีความสุขหรือเปล่า
กลายเป็นกระแสดราม่าทันทีหลังจากที่ “ดีเจพุฒ พุฒชัย เกษตรสิน” ถูกแฟนคลับนำคลิปวิดีโอมาแฉว่าไปรอหลายชั่วโมง แต่อีกฝ่ายให้เวลาไม่ถึง 5 นาทีก่อนชิ่ง ซ้ำทำร้ายความรู้สึกด้วยการไม่รับของฝากที่แฟนคลับอุตส่าห์หอบหิ้วมาให้ ซัดดังแล้วหยิ่ง เปลี่ยนไปตั้งแต่คบ “จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา” ก่อนเรื่องจะลุกลามว่าสาเหตุที่ชิ่งเป็นเพราะรีบกลับไปกินเย็นตาโฟฝีมือสาวจุ๋ยที่บ้าน ล่าสุดนางเอกดังเปิดใจถึงกรณีดังกล่าวในงาน ๑ ทศวรรษ ใต้ร่มพระบารมี แก้วกัลยาของแผ่นดิน ณ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ ย้ำพระเอกดังเสียใจ ก่อนป้องพุฒเปลี่ยนไปเพราะตนเป็นต้นเหตุ
“เรื่องพุฒถามจุ๋ยทำไมเนี่ย(หัวเราะ) ก็คุยค่ะ เป็นข่าวที่ทุกคนเป็นห่วงมากกว่า แต่จริง ๆ เป็นเรื่องส่วนตัวของเขาเป็นงานของเขาด้วย จุ๋ยก็ไม่ได้อยากตอบ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้กำลังใจกันมากกว่า เชื่อว่าสิ่งที่พุฒทำ พุฒมีเหตุผล”
“ถามว่าเขาเครียดไหม อาจเป็นอารมณ์เสียใจว่าสิ่งที่เขาตั้งใจทำด้วยการแสดงความเป็นห่วง มันกลายเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง แต่จุ๋ยเชื่อว่าคนรอบข้างเขา คนที่รักเขาหรือสื่อเองก็เข้าใจ เพราะจากที่จุ๋ยรับรู้ข้อมูลมา สื่อใหญ่ ๆ ที่เขาเขียนข่าวเขาเข้าใจค่ะ จุ๋ยว่าไม่น่าจะเป็นอะไรมาก”
“ดราม่าโยงมาถึงหนูเหรอ หนูไปเกี่ยวอะไรกับเขา (คบกันแล้วทำให้เขาเปลี่ยนไป?) หือ คงไม่เกี่ยวค่ะ เพราะปกติจุ๋ยก็ดูแลแฟนคลับอยู่แล้ว ซึ่งแฟนคลับจุ๋ยเองจะรู้ว่าเรามีเวลาให้กับเขา แต่ถ้าเรามีธุระจริงๆ จุ๋ยก็จะบอก หรือถ้าวันไหนมารอได้ก็จะบอก”
สาบาน! “ดีเจพุฒ” ไม่ได้ชิ่งแฟนคลับเพื่อกลับมาโซ้ยเย็นตาโฟกับตน วอนเสพข่าวอย่างใช้วิจารณญาณ อึกอักฝ่ายชายตามเฝ้ากองถ่าย “กำไลมาศ”
“ไม่ได้ไปหา อันนี้สาบานเลย ว่าวันนั้นจุ๋ยลงไอจีว่าจุ๋ยทำเย็นตาโฟ แต่ถามว่าบ้านจุ๋ยก็มีพี่ชายไหมล่ะ มีเด็กที่บ้าน ผู้จัดการก็อยู่กับจุ๋ย จุ๋ยทำให้พวกเขากิน แล้วจุ๋ยอยากกินเอง คือไปถามสูตรแม่ครัวที่กอง เพราะจุ๋ยอยากทำสูตรนี้ ซึ่งวันนั้นพุฒเลิกห้าทุ่มเที่ยงคืน ไม่มีการกินข้าวเย็นกันแล้วไหม(หัวเราะ)
“ส่วนที่บอกว่าไต้ฝุ่น เคพีเอ็นลบรูปคู่พุฒทิ้งเพราะกลัวเป็นประเด็น อันนั้นคนละวันกันแล้วค่ะ ไม่เกี่ยวกับวันที่โดน มันต้องแยกกันนะ ตอนนี้สื่อโซเชียลหรือเรื่องราวของแต่ละวันที่โพสต์ไอจีหรือเสพโซเชียล แต่ละวันมันใช้ชีวิตไม่เหมือนกัน 100% การใช้ชีวิตของจุ๋ยก็ไม่ได้โพสต์ลงไอจีถูกป่ะ มีแค่ประมาณ 20 - 30 เปอร์เซ็นต์ที่เราโพสต์ลงไอจีเพราะต้องการโปรโมตละคร อะไรก็แล้วแต่ อารมณ์ดีก็เลยลง บางอย่างก็ไม่ได้ลง”
“ถามว่าเขาไปเฝ้าที่กองกำไลมาศไหม ไม่ได้ไปเฝ้าค่ะ(หัวเราะ) ไม่ได้ไปเฝ้า (แล้วไปทำไม?) ไปเป็นเพื่อน ไปรับ(หัวเราะ) ไม่บ่อยค่ะ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ไป แล้วยืนยันว่าพุฒไม่ได้ไปหาที่บ้านค่ะ คือทุกคนโยงไปเย็นตาโฟของจุ๋ย จริง ๆ จ๋ยอยู่ของจุ๋ยเฉยๆ ทุกคนก็คิดไป ซึ่งจะบอกว่าที่เขียนลงไปในเพจแอนตี้ต้องใช้วิจารณญาณนิดหนึ่ง ต้องคิดตามนิดหนึ่ง ซึ่งเราก็ไม่ได้ห้ามอะไร บางทีต้องปล่อยวาง เราไปห้ามคนคิดไม่ได้ ห้ามคนเขียน คนพิมพ์ไม่ได้ อยู่ที่คนรับฟังข่าวสารมากกว่า”
เมินยอดฟอลโลว์เพจแอนตี้พุ่ง บอกความดังเหมือนเหรียญสองด้าน ต้องทำใจยอมรับ
“จุ๋ยไม่ได้เข้าไปอ่าน เอาจริง ๆ เพราะจุ๋ยไม่ได้เล่นเฟซบุ๊ก บางครั้งเพื่อนก็ส่งมาบ้าง แต่ตอนนี้ไม่ค่อยส่งกันแล้วเพราะมันเป็นเรื่องที่ชินกันไปแล้ว มันมีมานาน บางอย่างเพื่อนก็รู้ว่าเราทำอะไรที่ไหนยังไง ก็ไม่ได้คิดมากกัน (เพจแอนตี้ยอดฟอลโลว์ขึ้นต่อวันเกือบสองหมื่น?) จุ๋ยก็ไม่ได้นับเลยนะว่าเท่าไหร่ คือจุ๋ยก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่อยู่ตรงนี้ ยอมรับใครชอบก็ยิ้มดีใจ เป็นกำลังใจ ใครไม่ชอบเราก็ต้องเลือกแต่ความรู้สึกที่ทำให้เรามีชีวิตที่สดใส หรือมีความสุขในแต่ละวันมากกว่า”
“แล้วจุ๋ยเชื่อว่าคนรอบข้างที่รักและเข้าใจ รู้จักตัวตนเราจริง ๆ รู้ว่าเราทำอะไรอยู่ จุ๋ยก็ไม่ได้เด็กแล้วนะ จุ๋ยโตแล้ว พุฒก็โตแล้ว จุ๋ยอยู่วงการนี้มา 13 ปี พุฒ 7-8 ปีก็ต้องเห็นอะไรมามากมาย แต่วันหนึ่งเมื่อมีความดังเกิดขึ้นมา มันก็ต้องมีคล้ายเหรียญสองด้าน ซึ่งเราก็ต้องยอมรับตรงนี้ค่ะ”
เมินถูกขุดรูปเก่ามาแฉ บอกคนเราต้องมีวิวัฒนาการ ย้ำสวยธรรมชาติ ส่วนอดีตไม่มีอะไรปกปิด ลั่นชีวิตไม่เคยสร้างภาพ
“คนเราก็ต้องมีวิวัฒนาการไหม (หัวเราะ) อันนี้ไม่เครียดเลย เพราะตัวเองไม่ได้ทำศัลยกรรมเลย อีกอย่างแค่ดัดฟันแค่นี้ ดังนั้นถ้าคิดว่าจุ๋ยมีวิวัฒนาการเพราะการทำศัลยกรรม จุ๋ยก็เฉย ๆ เพราะไม่ใช่เรื่องจริง แล้วสมัยนี้การทำศัลยกรรมทำให้สวยขึ้น ทุกคนก็อยากดูแลตัวเอง ก็ไม่รู้จะไปเครียดกับมันทำไม”
“คือจุ๋ยไม่มีเรื่องราวในชีวิตที่ปิดบังเลย ทุกอย่างทำด้วยความจริงใจ ใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้สร้างภาพ ไม่ได้อะไรทั้งสิ้น ใช้ชีวิตอย่างนี้ เป็นยังไงก็อย่างนั้น เพราะฉะนั้นไม่ได้กลัวอะไรกับตรงนั้น บางอย่างที่ออกมาไม่จริง เราจะเดือดร้อนทำไม ไม่จริงเราก็ปล่อยวาง เฉย ๆ กับมันไป แล้วสมัยก่อนปรับสีปรับแสงก็ไม่ได้เหมือนสมัยนี้ สมัยนี้กล้องสื่อมวลชนก็ดีขึ้น มีตังค์กันมากขึ้นเราก็ต้องเข้าใจตรงนี้ด้วยว่าแต่ก่อนสมมติมีนักข่าวมาถ่ายรูปแล้วแสงไม่มี เราก็ต้องยอมรับสภาพนั้นไป จุ๋ยก็ไม่ได้ซีเรียสอยู่แล้วว่าจะเป็นยังไง ตอนนี้เราก็ต้องดูแลตัวเองเราอยู่ในวงการบันเทิงก็ต้องดูแลตัวเองเป็นส่วนใหญ่”
บอกแฟนคลับตนห้ามไปต่อล้อต่อเถียงอีกฝ่าย ก่อนถามกลับว่าร้ายคนอื่น มีความสุขหรือเปล่า
“คือบอกตลอดเวลานะถ้าเป็นแฟนคลับโดยตรงที่รู้จักเรามาเป็น 10 ปี เขาจะไม่ยุ่งอยู่แล้ว เขาจะรู้ว่าเราเป็นยังไง ไม่อยากให้ไปต่อล้อต่อเถียงกันอ่ะ แล้วยิ่งถ้าเกี่ยวกับบุคคลอื่นไม่เห็นด้วยใหญ่เลยนะคะ แต่เราห้ามคนไม่ได้ บางทีอาจเป็นความสะใจ ความสนุก พูดจริง ๆ คนเป็นล้าน ๆ คนจุ๋ยห้ามการกระทำของทุกคนไม่ได้ ก็อยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละคนว่าแต่ละคนมีความสุขในการทำตัวแบบไหน พูดถึงคนอื่นในทางไหนมากกว่า ทั้งหมดทั้งปวงก็เป็นความคิดดี ทำดี ใจดีของแต่ละคน ก็ได้กับแต่ละคนเอง เพราะฉะนั้นใครทำดีก็ยินดีด้วย ใครว่าร้ายคนอื่นคิดไม่ดี ถามจริง ๆ มีความสุขหรือเปล่า แค่นั้นเอง”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม