“นานา ไรบีนา” ยอมเสี่ยงเลี้ยงลูกแบบตามใจ อยากให้ลูกได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ เป็นคนกล้าแสดงออก บอกไม่แน่ใจจะดันเป็นดาราได้หรือไม่ เผย “บีน่า - บรู๊คลิน” ตื่นเต้นเตรียมเข้าโรงเรียน เน้นสอน 2 ภาษา ขอดูแลลูกมากกว่าสามี
กลายเป็นคุณแม่ตัวอย่างอีกคนหนึ่งไปแล้วสำหรับ “นานา ไรบีนา” เพราะตอนนี้เลี้ยงลูกแฝด “บีน่า - บรู๊คลิน”ได้น่ารัก จนครองใจเหล่าคนรักเด็ก ล่าสุด คุณแม่ยังสวยก็ได้พาลูกมาเปิดประสบการณ์ใหม่ในงาน “The Braver the Mom,the Stronger the Child” ที่จัดขึ้น ณ ฟันเนเรี่ยม สุขุมวิท 26 พร้อมเผยเทคนิกเลี้ยงลูกที่คนอยากรู้ ซึ่งยอมรับเป็นแม่ที่กล้ายอมเสี่ยงเลี้ยงแบบตามใจ เพื่อให้ลูกเรียนรู้เองดูแลตัวเองได้
“เราก็จะเลี้ยงตามสัญชาตญาณความเป็นแม่เนอะ แล้วเราก็จะรู้สึกว่าไม่มีใครที่รู้จักลูกได้เท่ากับเราอยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้เขาก็อายุ 2 ขวบกว่าแล้ว เขาก็จะเริ่มรู้สึกว่าอยากทำอันนี้ไม่อยากทำอันนี้ อย่างถ้าตื่นมาเราก็จะถามเขาว่าอยากเรียนอันไหน คือเรามีให้เขาเลือก เขาก็จะบอกว่าอยากเรียนอันนี้ไม่อยากเรียนอันนี้ แล้วเราก็จะให้เขาไปในสิ่งที่เขาเลือก โดยมากก็ค่อนข้างตามใจในสิ่งที่เขาชอบค่ะ คือนานากับเวย์จะไม่แบบว่าลูกต้องทำอย่างนี้นะ จะไม่พยายามทำแบบนั้น เพราะเขาจะไม่ทำด้วยเลย คือลูกนานาถ้าบอกว่าไม่ทำนี่คือไม่ได้เลย”
“จริง ๆ แล้ว ตัวนานาเองก็เป็นแม่ที่ค่อนข้างกล้า คือ บางทีเราก็กลัวว่าลูกเราจะไม่ปลอดภัย คือ นานาว่าแม่ทุกคนมีความกลัวอยู่แล้ว แม่ทุกคนไม่อยากให้ลูกเจ็บหรือว่าเกิดอะไร แต่ว่าด้วยความที่กลัวมากเกินไปมันก็ทำให้เราไม่ได้ลองอะไรใหม่ ซึ่งบางทีก็อาจจะพลาดที่จะให้ลูกได้เรียนรู้อะไรที่มันสนุกมากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านั้นอาจจะเป็นบ่อเกิดที่ทำให้เขามั่นใจในตัวเองมากขึ้นแล้วก็กล้าทำ คือ บางทีเดี๋ยวนี้เรื่องไอคิวอย่างเดียวมันไม่ได้แล้วเนอะ แล้วเราเองก็ไม่ได้สามารถที่จะเลี้ยงดูเขาไปได้นาน เราก็จะได้อยู่กับเขาแค่ระยะเวลาหนึ่ง เพราะฉะนั้นเราก็อยากที่จะให้เขาอยู่ได้ มีความมั่นใจในตัวเอง แล้วก็ดูแลตัวเองได้”
เผยเตรียมเลือกโรงเรียนใกล้บ้าน ปัดเน้นภาษาอังกฤษอย่างเดียว เพราะตนก็สอนภาษาไทยให้ที่บ้าน
“ตอนนี้เขาก็เตรียมที่จะเข้าเตรียมอนุบาล แต่ก็ยังไม่ได้เรียนนานมาก เรียนแค่เที่ยงก็กลับบ้านแล้ว เหมือนกับว่าให้เขามีสังคม ให้เขาได้รู้สึกว่าตื่นเช้ามาเขาต้องกินข้าวแล้วก็ต้องไปโรงเรียนนะ อยากจะให้เขาไปเจอคุณครู อะไรแบบนี้ แต่ว่าเดี๋ยวนี้โรงเรียนไม่ใช่ว่าจะไปเรียนที่ไหนก็ได้ คือเราต้องมีกิจกรรมที่ร่วมกับทางโรงเรียนด้วย แล้วเราก็ต้องดูว่ามันเข้ากับไลฟ์สไตล์เราไหม ที่สำคัญที่สุดคือเราเลือกโรงเรียนที่ใกล้บ้าน สะดวก”
“ส่วนเรื่องภาษาจริง ๆ แล้วนานาสอนภาษาไทยให้ลูกที่บ้านอยู่แล้ว คนในบ้านพูดภาษาไทย แต่ว่าเวย์เขาเป็นคนเดียวที่ภาษาไทยไม่คล่อง อย่างที่เราเห็น ๆ กัน เขาก็เลยอยากให้รู้สึกว่าอยากให้ลูกได้ภาษาอังกฤษ จะได้สนุกกับพ่อด้วย แต่จริง ๆ เราก็เน้นทั้งสองภาษาค่ะ”
“ก็พาเขาไป เขาก็ดีใจจะได้ไปโรงเรียนใหม่ คือก่อนหน้านี้เขาเรียนสถาบันที่สอนเด็ก ๆ เพื่อให้เขาเตรียมตัว เขาก็เหมือนไปโรงเรียนอยู่แล้ว แต่ไม่ได้เป็นโรงเรียนที่เป็นโรงเรียนจริง ๆ พอเราเริ่มพาเขาไปดูโรงเรียนใหม่ เขาก็บอกว่าโรงเรียนใหญ่ มีสนามกีฬาเขาก็เลยตื่นเต้น แต่ก็ต้องไปดูสถานการณ์ข้างหน้าว่าเขาจะเป็นยังไง เกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ที่เห็นแม่คนอื่นเจอ อย่างร้องไห้ไม่ยอมไป เราก็แอบกังวลเหมือนกัน ก็หวังว่าเขาจะปรับตัวได้เร็วที่สุด”
บอกลูกชอบเต้นชอบร้องอยากถ่ายแบบเพราะทำตามไลฟ์สไตล์พ่อแม่ ยังดูไม่ออกลูกอยากเข้าวงการหรือไม่
“คืออย่างคนมาถามว่าทำไมลูกชอบตัดผม เพราะเขาเห็นพ่อ แล้วถามว่าทำไมลูกชอบเต้น ชอบร้อง ก็พ่อเขาฟังเพลงตลอด อย่างเวลาแม่มาทำงาน มาถ่ายแบบ เขาก็เห็นจากพ่อจากมา แล้วอย่างตอนที่เราถ่ายแบบเสื้อผ้าเด็กเท่ เป็นเสื้อผ้าเด็ก เราไม่ได้อยากจะให้เขาถ่ายเลย เพราะว่าเขาต้องทำงานเยอะ เราก็เลยเอาเด็กที่มาจากโมเดลลิง มาถ่าย น้อง ๆ ที่ชอบในแบรนด์เด็กเท่ แต่พอเขาเห็นเพื่อนถ่าย เขาก็ขอถ่ายด้วย คือ เราก็ปล่อยธรรมชาติ อย่างเรื่องเขาเต้น นานาก็ให้เขาดู เวลาที่พอเขาดูเอ็มวี ดูมิวสิกวิดีโอ แต่พ่อเขาจะเลือกดูนะคะ เอาแบบที่ลูกดูด้วยได้ ซึ่งพอลูกดูก็เต้นตาม คือนานาว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ แล้วเป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์ของพ่อแม่เป็นยังไง ลูกก็มักจะเป็นอย่างนั้น”
“ไม่รู้นะ แต่นานาว่าเขายังเด็กเกินที่จะดูออก หรือที่เขาจะบอกว่าพ่อผมอยากเข้าวงการ คืออย่างที่บอกว่าที่เขาเต้นเพราะเขาเห็นพ่อฟังเพลง เขาก็เต้นตาม ก็ไม่รู้ว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร ส่วนเรื่องจะดันเข้าวงการไหม ก็ต้องรอดูต่อไปเพราะว่าตอนนี้ยังเด็กมากจริง ๆ คือพอ 4 - 5 ขวบพอเขาเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ก็อาจจะไม่ได้เป็นแบบนี้ก็ได้ แต่ถ้าเขาชอบ เราก็พร้อมที่จะสนับสนุนอยู่แล้ว แต่ก็ต้องรอดูไปก่อน”
ยอมรับเต็มใจเสียสละยอมดูแลลูกมากกว่าสามี เพราะอยากมีเวลาให้กับลูกมากที่สุด
“จริง ๆ แล้วเราก็ดูแลด้วยกัน แต่ว่าในแง่ของการที่ได้ไปส่งลูกทุกวัน นานาจะอยู่เยอะสุด คือเราเคยคุยกันตั้งแต่แรกแล้ว ว่าถ้าพ่อแม่ทำงานเยอะจนไม่มีเวลา มันก็ไม่แฟร์กับลูก นานาก็ยอมที่จะอยู่กับลูกมากที่สุด เป็นการยอมที่เต็มใจมาก (หัวเราะ) แล้วเวย์เอง เขาก็จะมาส่งลูกเข้านอน กล่อมลูกเข้านอน”
ฟุ้งเตรียมรีเมกรายการเก่ามาทำใหม่ ส่วนหนังยังไม่มีเวลาทำ เพราะดูแลธุรกิจอื่น ๆ อีกมาก ปัดเกี่ยวกับธุรกิจหนังซบเซา
“เป็นรายการทีวี มี 5 คน เป็นรายการที่เราเคยทำมาแล้ว แต่ว่าอาจจะมีการปรับรูปแบบนิดหน่อย ก็ค่อนข้างที่จะแตกต่างจากอันเก่า ส่วนจะเป็นยังไงเดี๋ยวอาทิตย์หน้ามีแถลงข่าว ส่วนเรื่องที่ทำหนังก็เตรียมที่จะทำอยู่ แต่ว่าตอนนี้เราทำรายการทีวี ทำแบรนด์เด็กเท่ แล้วก็ดูแลเนเวอร์เซย์คัต ตอนนี้มี 12 สาขา แล้วที่สำคัญมากคือดูแลลูกทั้ง 2 คน คือ งานหนัก เพราะฉะนั้นยังแน่นมาก ของให้รายการทีวีลงตัวนิดหนึ่ง ส่วนเรื่องหนังเนี่ยตัวเวย์จะดูเป็นหลัก คือถามว่ามันเกี่ยวกับวงการหนังซบเซาไหม จริง ๆ มันก็เป็นธุรกิจที่เราต้องมีความระมัดระวังในหลายๆอย่าง แต่ว่าถ้าเราก็พร้อมถ้ามันจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่เราก็ดีใจที่ก้าวแรกที่เราทำเองทั้งหมด เราทำได้ขนาดนี้ ก็คิดว่า แต่ก็อย่างที่บอก เราไม่มีเวลา ส่วนจะเป็นแนวไหนต้องถามเวย์นะ”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม