สร้างความแปลกใจไม่น้อยสำหรับนักแสดงสาวชื่อดัง "นุก สิทธิา เกษมสันต์ ณ อยุธยา" เจ้าของเพลง "ถอนสายบัว" หลังเจ้าตัวได้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ผ่านรายการ "One night secret ความลับคนดัง" ทางช่อง 9 ว่า...
"หลายคนจะถามนุกว่า พอเปลี่ยนศาสนาแล้วทำให้ลูกหายป่วยจริงหรือไม่ ตรงนี้เรารู้สึกว่าลูกเราไม่ค่อยงอแง ดูรวมแล้วมันดีขึ้น พอเปลี่ยนศาสนาแล้วสิ่งที่ดีขึ้นคือเรื่องของการใช้ชีวิตที่เรายอมรับในบางอย่างที่เราอาจจะลดความดื้อเราลง อย่างเช่นเรื่องการแต่งตัว บางอย่างเราก็ไม่เข้าใจหรอกนะ บางทีเราต้องรีบและไม่เคยชินและบางทีเราก็ไม่ได้อยากไปเรียกร้องความสนใจจากเพศตรงข้าม"
"บางทีหน้าเราก็แบบปลวกมากแค่ไปออกกำลังกายไปเยินๆ ไม่ได้เหรอ เวลาที่จะต้องแต่งตัวแบบนี้เราไม่เข้าใจหรอก แต่บางทีมันเหมือนที่พ่อแม่สอนอะไรเรา บางทีเราไม่เข้าใจหรอกแต่ถ้าเรารักเขาเราก็จะทำตาม ก็คงจะคล้ายๆ กันก็ทำจนค่อยๆ เริ่มชิน แต่เราก็รู้ว่าส่วนหนึ่งการที่แต่งตัวเรียบร้อยมันก็ดีอยู่แล้ว มันเป็นการรักษาวิญญาณของผู้อื่นให้สะอาดด้วย คือนอกจากเราจะต้องรักษาวิญญาณของตัวเองให้สะอาดแล้ว การที่เราแต่งกายเรียบร้อยก็เป็นการดูแลวิญญาณผู้อื่นให้สะอาดด้วย"
"คำสอนของมุสลิมคล้ายกันกับทุกศาสนาแต่จะต่างกันตรงวิธีการบอกเล่า ไม่รู้ว่าคนอื่นมองเรื่องศาสนายังไงแต่สำหรับนุกเรื่องของศาสนาเหมือนการเลี้ยงเด็ก คือเลี้ยงเด็กมันจะไม่มี 1 2 3 4 มันไม่มีสเต็ปมันมีแค่แนวทาง แต่เราจะต้องทำและสังเกตการณ์วิเคราะห์ไปเรื่อยๆ มันไม่มีสเต็ปแต่จะทำและวิเคราะห์ไปเรื่อยๆ ศาสนาก็คล้ายกันคือมีหลักการและทุกอย่างต้องใช้ปัญญาของเราด้วยในการที่จะอยู่ได้อย่างถูกต้องที่สุด"
เผยเป็นหนึ่งใน 3 จาก 300 คนที่สอบศาสนาได้คะแนนเต็มก่อนได้รับการประกาศให้เข้าศาสนาจากท่านจุฬาราชมนตรี..."แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ก็ต้องบอกว่าเหนื่อยมาก เราโดนวิพากษ์วิจารณ์มากมายเหมือนเป็นบททดสอบบท หนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่าต้องผ่านมันไปให้ได้ และพอเราผ่านมันไปได้แล้วเรารู้ว่าเราเป็นคนที่อดทน อดทนอย่างเดียวไม่พอต้องอดทนอย่างสวยงามด้วย"
"เราไม่ได้พูดโวยวายบอกใครแม้แต่คนใกล้ตัว ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ทุกข์ที่สุดในชีวิต ตอนแรกเราก็ไม่ไหวเหมือนกัน ฝั่งที่เราย้ายออกมาบ้านเก่าไม่เท่าไหร่ แต่บ้านใหม่ที่ย้ายไปทำร้ายเรา คนที่อยู่ในบ้านนั้นเราไม่เคยเข้าไปมาก่อน ฉะนั้นเราไม่รู้ว่าบ้านหลังนั้นมีประตูกี่บาน ห้องน้ำตรงไหน ห้องนอนตรงไหนไม่รู้เลย เราแค่รู้ว่าบ้านนี้น่าอยู่ แต่พอเราเปิดประตูเข้าไปบ้านนี้วุ่นวาย ตอนนั้นทุกข์ที่สุดเลย"
"เวลาทุกข์นุกอยู่คนเดียวไม่พูดกับใครใช้ชีวิตคนเดียวนิ่งให้ได้มากที่สุด อดทนให้ได้มากที่สุด เราอยู่กับตัวเองมากๆ เราละมาดเราถามตัวเองว่า เราเดินเข้ามาตรงนี้เพราะอะไร เรามาเพราะเรายอมรับในกฎหลายๆ อย่างที่กำหนดแล้ว ในเมื่อเราไม่ได้มาเพราะคนแล้วเราจะแคร์ทำไม กระแสคนรอบข้างไม่อะไรเลยแต่จะมีกระแสจากคนไกลๆ มากกว่า ขนาดวันนั้นปาร์ตี้กันแล้วจะมานั่งชิลล์บนห้องต่อแต่นุกบอกว่า ขออนุญาตนะเพื่อนๆ ขอละหมาดก่อน"
"ก็ไม่มีใครว่าอะไรทั้งที่ทุกคนกำลังพีคสุดๆ ทุกคนก็แยกย้ายกลับห้อง ไม่มีใครโวยวายซักคน เราก็ละหมาดอย่างมีความสุข ตอนที่เพื่อนเราเดินออกไปเราก็รู้สึกผิดเล็กๆ นะ แต่เราก็รู้สึกว่าเพื่อนเราน่ารักมากไม่มีใครโวยวายซักคน"
ส่วนเรื่องชีวิตคู่เจ้าตัวบอก..."ก็ต้องแล้วแต่พระองค์ คนที่จะเข้ามาเมื่อก่อนตอนเปลี่ยนศาสนาใหม่ๆ คิดว่าคนที่จะเข้ามาต้องเป็นมุสลิมเท่านั้น เพราะเราจะได้มีความรู้เพิ่มเติมแต่พอเราอยู่ไปซักพักเราก็เริ่มชินว่านี่ก็บ้านของฉันเหมือนกัน ก็รู้สึกว่าใครก็ได้ไม่จำเป็น ดีซะอีกที่เขาไม่ได้เป็นมุสลิมจะได้เรียนรู้ไปด้วยกัน" (ติดตามชมรายการ “One night secret ความลับคนดัง” ทางช่อง 9 ทุกวันพุธ เวลา 22.30 น.)