xs
xsm
sm
md
lg

“แจ็คเกอรีน” เผย “เจ๊ติ๋ม” เครียดเสียหน้า แต่ยอมรับทีวีพูลถนัดสิ่งพิมพ์มากกว่าทีวี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ไทยทีวีแถลงยุติกิจการทีวีดิจิตอล โวขาดทุน 300 ล้านแต่ไม่หมดตูด ด้าน “แจ็คเกอรีน” เผย “เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล” เสียทั้งเงินเสียทั้งหน้า เสียเงิน 300 ล้านซื้อประสบการณ์ ยอมรับทีวีพูลถนัดสิ่งพิมพ์มากกว่า ตั้งเป้าดันช่องเคเบิ้ลให้มีคุณภาพเท่าทีวีดิจิตอล

เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้(27 พค. 58) บริษัท ไทยทีวี จำกัด โดย นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย์ หรือ “เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล” ได้ร่อนจดหมายเชิญสื่อมวลชนเพื่อให้มาร่วมฟังแถลงการณ์กรณีตัดสินใจไม่จ่ายค่าใบอนุญาตทีวีดิจิตอล อ้างผลประกอบการขาดทุนร่วม 300 ล้านบาท ก่อนย้ำเป็นการบริหารงานที่ผิดพลาดของกสทช. พร้อมยันจะเลิกทำทีวีดิจิตอลและหันไปทำทีวีดาวเทียมเหมือนเดิม แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาแถลงข่าว กลับไร้เงาเจ๊ติ๋ม มาร่วมแถลงข่าว คงมีแต่ “นายศุภิญโญ มั่นรู้ธรรม" ผอ.ช่องไทยทีวี “นายโดม เจริญยศ” เจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และ “นายสุชาติ ชมกุล” ทีมที่ปรึกษาทนายความ ร่วมชี้แจงทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยยืนยันว่าจะยุติการออกอากาศช่องทีวีดิจิตอลทั้งช่อง 15 และ 17 และไม่จ่ายเงินค่าใบอนุญาตประกอบกิจการที่ค้างอยู่ ลั่นกสทช.ไม่ปฏิบัติตามแผนแม่บทปี 2555 ว่าด้วยการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคทีวีดิจิตอล ทั้งการประชาสัมพันธ์ การสนับสนุนคูปอง และการขยายโครงข่าย ส่งผลกระทบต่อบริษัทและผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลรายอื่น ๆ จนเกิดภาวะขาดทุนอย่างหนัก โวขาดทุน 300 ล้านแต่ยังไม่หมดตูด ท้าให้ไปถามคนต่างจังหวัดว่ารู้จักทีวีดิจิตอลหรือไม่

ศุภิญโญ : “ท่านก็ยังดูไทยทีวีอยู่ ณ ตอนนี้ผ่านกล่องผ่านจานผ่านสื่อตางๆที่ท่านดูอยู่ปกติ ไทยทีวียังทำงานเต็ม 100% เหมือนเดิมทุกอย่างสถานีไทยทีวียังอยู่ครับ เราไม่ได้เลย์ออฟพนักงาน ทุกคนเหมือนเดิมแล้วกระซิบบอกนิดหนึ่งเรารับพนักงานเพิ่มนะครับ ในบางส่วนที่จะต้องไปก็คงต้องไปเหมือนปกติทุกบริษัทที่ต้องมีการถ่ายเท เราจะออกอากาศแบบนี้ไปเป็นปกติแต่ว่าในแพลตฟอร์มที่ท่านชมอยู่ยกเว้นดิจิตอลทีวี หมายถึงกล่อง จานดำจานแดง มือถือ เว็บไซด์ แอพพิเคชั่นต่างๆ ท่านยังรับชมได้ปกติครับ”

สุชาติ : “วันนี้ไปคุยกับทางกสทช. ก็มีหนังสือมานัดคุยกันเกี่ยวกับความไม่เข้าใจต่างๆ หรือว่าถ้าจะเลิกต้องทำยังไงเป็นการทำความเข้าใจกันระหว่างเรากับ กสทช. เรื่องถอนสัญญาได้หรือไม่ได้มันอยู่ในขั้นตอนกระบวนการของกฎหมาย ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ เราบอกเลิกได้เลย ในทำนองเดียวกัน กสทช. ก็ไม่ได้มาบังคับหรือถอดถอนได้เลยเพราะตรงนี้ต่างฝ่ายต่างมีข้ออ้างอยู่เกี่ยวกับเรื่อง กสทช. ที่เคยให้คำมั่นไว้ตั้งแต่ก่อนการประมูล ว่าดูทีวีดิจิตอลดีอย่างไร บรรยายสรรพคุณดีอย่างโน้นอย่างนี้ ต่อมามีผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลโดยหวังว่าจะดีอย่างที่ กสทช. บรรยายไว้เรื่องระยะเวลาที่ผ่านมาเราประมูลตั้งแต่ปี 56”

“แต่แผนแม่แบบที่ กสทช. ต้องทำตั้งแต่ปี 55 แต่จนถึงวันนี้ก็ยังได้ไม่ถึง 20% เพราะฉะนั้นช่องต่างๆ ที่เราเห็นว่าไปชำระ ทุกคนก็จะบอกว่าวันนี้เราชำระนะ แต่เราก็ต้องสงวนสิทธิ์ที่จะต้องฟ้องร้องกับ กสทช. ความเสียหายหรือผลกระทบที่เกิดจากการบริหารงานวันนี้คุณแกะกล่องไปแล้วเท่าไหร่กับการที่คุณบอกครัวเรือนทั่วไทยมีแล้ว 22.5 ล้านครัวเรือนแต่วันนี้คุณแจกไป 4.2 ล้าน คุณต้องมาเทียบเปอร์เซ็นต์ก่อนว่าวันนี้คุณแจกไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้วต่อมามีการให้ข่าวว่าจะแจกเพียง 14.5 ล้าน แล้วประชาชนครัวเรือนที่เหลือคุณลอยแพเขาไว้ที่ไหน กล่องที่แจกไปดูได้ไหม กสทช ก็ไม่เคยสำรวจเหมือนกันว่าดูได้หรือไม่ได้ เพราะฉะนั้นการทำดิจิตอลต่อไปสำหรับผู้ประกอบการหลายรายในวันข้างหน้า ผมก็ยังเชื่อว่าหลายๆ รายก็คงถอนตัว”

ยอมรับทีวีดิจิตอลเจ๊ง ขาดทุน 300 ล้านแต่ยังไม่หมดตูด เห็นสมควรหยุดใช้สติหาทิศทางใหม่ๆ
ศุภิญโญ : “ถามว่าเจ๊งไหมเพราะตัวเลขขาดทุน 300 ล้าน ก่อนที่ท่านประธาน (เจ๊ติ๋ม) เข้าไปประมูลได้ศึกษาแล้วด้วยเงื่อนไขที่มันจะเป็นไปเหมาะสมแล้วที่จะเข้าประมูลในธุรกิจนี้ ด้วยความหวังเหมือนที่นักธุรกิจต้องการก็คือกำไร ต้องบอกว่ามีความเจ๊งอยู่แต่ไม่ได้เจ๊งเลยนะ หนึ่งปีที่ผ่านมาพี่ติ๋มเป็นคนพูดตรงๆ ขาดทุนก็บอกขาดทุนแต่ไม่ถึงหมดตูดนะ ต้องบอกว่าผู้ประมูลทั้ง 17 เจ้าที่ประมูลได้ต้องมีธนาคารที่จะการันตีเพื่อบอกว่าเมื่อคุณเบี้ยวธนาคารจะจ่ายให้ 1,750 ล้านอยู่ในธนาคาร พี่ติ๋มมีสินทรัพย์ที่อยู่ตรงนั้นพร้อมที่จะจ่ายไม่ได้เจ๊งไม่เป็นท่า แต่เรากำลังจะเดินหน้าต่อไปเราพิจารณาแล้วว่ามันไม่ควรจะพุ่งตรงไปทางนี้ เรามีสติเราก็หยุดก็หันไปหาทางใหม่เท่านั้นเอง”

อัดกสทช. ไม่ทำตามแผนแม่บทปี 55 อีกทั้งยังไร้การประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักทีวีดิจิตอล ท้าให้ถามคนต่างจังหวัดรู้จักทีวีดิจิตอลหรือไม่
ทนาย : “เรื่องข้อขัดแย้งกับทางกสทช.คงไม่บานปลายเพราะตามสัญญากสทช. ผู้ที่เข้ารับการประมูลก็มีเพิกถอนได้โดยความเห็น แล้วคนเราถ้าเดินทำธุรกิจด้านนี้ต่อไปไม่ได้ ทำไปก็เกิดความเสียหาย ถามว่าท่านจะทำต่อหรือไม่ แล้วถามว่าแผนแม่บทตั้งแต่ปี 55 จนถึงปัจจุบัน กสทช ก็ยังไม่เคยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้จักเลยว่าทีวีดิจิตอลคืออะไร ลองไปถามตามต่างจังหวัดเขาก็ยังไม่รู้จักบอกแค่ว่าจะทำๆ คุณจะต้องประชาสัมพันธ์ตั้งแต่ปีแรกแล้วก่อนที่เขาจะเข้ามาประมูล ก่อนที่ประชาชนจะได้รับรู้ ตรงนี้เป็นผลกระทบที่เกิดจากการล่าช้าหรือไม่ทำตามแผนแม่บทอะไรต่างๆ มันก็ไปมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการทำให้คนชมน้อยกว่าที่ควรจะเป็น”

โดม : “ก็ต้องกล่าวว่าเรามีธุรกิจที่เหลืออยู่เราจะทำต่อมีอะไรบ้าง ปัจจุบันเรามีหนังสือที่ทำกำไรให้กับเราอยู่ 3 เล่มแล้วอีกฝั่งหนึ่งที่เราทำกำไรได้ปีที่แล้ว เราเรียกว่านิวมีเดีย ตัวนิวมีเดียเราเปิดเป็นเซกเม้นต์ใหม่ของธุรกิจเลยก็จะประกอบไปด้วยตัวที่เป็นโซเชียล โซเชียลของเราก็จะมีเฟซบุ๊ก เฟซบุ๊กเราโตจากคนไลก์นะครับจาก 2 แสนก็กลายเป็น 3.2 ล้านในปัจจุบันเราเป็นเพจชื่อ ทีวีพูลบุฟเฟ่ต์เราก็จะมีเปอร์เซ็นต์การกดไลก์ที่สูงมาก ตัวไลน์แอคเคาท์ก็มีสมาชิกกดไลก์อยู่ 8 ล้านนี้เราเรียกว่าเป็นนิวมีเดียส่วนการออกอากาศหลังจากนี้ แน่ๆ เรายังอยู่บนดาวเทียมก็จะมีเลข 7 อยู่ทุกกล่อง แล้วก็เพิ่มซิกเม้นต์ที่เป็นโลโก้เพื่อให้มีช่องเราอยู่ในเลขต้นๆ ก็ยังออกอากาศที่เป็น Full HD ต่อไปอีกฝั่งที่เราเรียกมาใหม่ก็คือ OTT ฝั่งนี้ก็จะเป็นการดูทั้งหมดที่มีไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือโทรศัพท์เรามีพาร์ตเนอร์หลักคือยูทิวบ์ไทยแลนด์ เราเตรียมออกอากาศทางยูทิวบ์จะเห็นว่าตัวที่ทำกำไรอยู่เราก็จะทำทั้งหมดดูได้ ยกเว้นที่เป็นดิจิตอลทีวี จะเห็นได้ว่าเราครอบคลุม เชื่อว่าพี่น้องที่อยู่ที่นี้ไม่ได้ดูผ่านกล่องดิจิตอลแน่นอน ส่วนใหญ่จะดูผ่านจานดำจานแดงนอกจากนั้นคนเมืองที่มีอินเตอร์เน็ตสามารถเข้าถึงเนื้อหาเราได้ทั้งสิ้น”

ทนาย : “จากการที่ได้คุยกับทางกสทช.ยังไม่มีข้อตกลงหรือข้อเสนอใดๆ เพียงแต่ว่าวันนี้เราไปนัดพูดคุยกันเกี่ยวกับการปฏิบัติข้อสัญญาเป็นยังไงซึ่งเราก็รับฟังเเต่ถามว่าวันนี้ได้อะไรบ้างก็ได้แค่เจรจาพูดคุยกันเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่มีแจ้งมาจากกสทช. ว่าจะมีการนัดอะไรพูดคุยกันอีกไหม ส่วนถ้าพูดถึงเงินแบงค์การันตี 1,700 ล้านนะครับถ้าเราดูตามเงื่อนไขที่ทำไว้กับกสทช. ก็ไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรที่ กสทช. จะมายึดได้ ตรงนี้เลยเป็นข้อกฎหมายที่เราต้องมาดูกันว่าใครเป็นคนผิดสัญญาก็ต้องมานั่งดูก่อนว่า กสทช. ทำอะไรไปบ้างปฏิบัติตามแผนหรือยัง”

ตอกกสทช. ทำงานบกพร่อง อย่าถามหามาตรการเยียวยา
ศุภิญโญ : “มาตรการเยียวยาผมก็ต้องย้อนถามกลับไปว่าตอนนี้ประชาชนได้รับชมดิจิตอลมากแค่ไหนในเมื่อยังไม่ได้สำรวจเลยว่าประชาชนได้รับชมหรือไม่จะเยียวยายังไงต้องย้อนถามไปว่า กสทช. จะเยียวยาให้ประชาชนยังไง ซึ่งก่อนจะประมูลทุกคนก็ศึกษาข้อมูลไว้แต่นั้นมันหมายถึงภาวะปกติภาวะปกติคือ กสทช. ทำงานไม่ขาดตกบกพร่องอะไรเลย แต่นี้คือภาวะไม่ปกติคือในเมื่อคุณยังไม่ได้ทำอะไรแล้วมาบอกยึดๆๆ ประชาสัมพันธ์คุณก็ยังไม่ทำ กล่องคุณก็ยังแจกไม่ครบต้องกลับไปถามก่อนว่าตั้งแต่ปี 55 จนถึงแผนแม่บท กสทช. ทำไปเท่าไหร่แล้ว ส่วนเรื่องฟ้องร้องตรงนี้คงยังไม่ตอบครับ ขอประชุมฝ่ายกฎหมายก่อนว่าขั้นตอนต่อไปเราจะดำเนินการอย่างไร กสทช. อาจจะมีการเรียกเจรจากับเราอีกรอบก็ได้ วันนี้ กสทช. ไปสำรวจหรือยังว่ามีประชาชนได้รับชมหรือยัง กสทช. ยังไม่ได้ทำเลย ในเมื่อไม่ทำแล้วจะเยียวยาตรงไหน ส่วนเรื่องจอดำหรือไม่ก็คงต้องถามฝ่ายเทคนิค เรื่องการเยียวยาผมอธิบายอย่างนี้แล้วกันครับเรายังออกอากาศต่อไปในเทสต์ฟอร์มของดาวเทียม หมายความว่าคนที่จะดูช่องเราจริงๆ ดูบนเทสต์ฟอร์มดาวเทียวได้อยู่แล้ว”

เชื่อยุติกิจการทีวีดิจิตอลส่งผลดีต่อบริษัท นำรายการย้ายไปออกอากาศช่องทีวีดาวเทียม
“หลังจากเจรจาแล้วไม่มีผลสำเร็จหรือความคืบหน้าไม่มี ฝ่ายกฎหมายต้องกลับไปดูแล้วว่าเราจะเริ่มจอดำ ไม่มีกำหนดเวลาครับ เรื่องเวลาตอนนี้ยังตอบไม่ได้เลยครับเพราะวันนี้เพิ่งจะนัดแรกที่เจอกัน ส่วนเรื่องเพิกถอนใบอนุญาตก็ต้องกลับไปถามกสทช.นะครับว่าเขาจะทำยังไง เรื่องเงื่อนไขผมไม่ตอบดีกว่า มันเป็นเรื่องระหว่างเราก็กสทช.

“ทางด้านการตัดสินใจว่าจะออกอากาศหรือไม่ก็คงต้องไปอยู่กับผู้ที่รับผิดชอบ เราไม่ได้ร้องขอในการเลื่อนจ่ายค่างวดเรายื่นหนังสือยกเลิกสัญญา ส่วนจะให้ช่องออกอากาศจอดำหรือเดินหน้าต่อ ตรงนี้ขอตัดสินใจร่วมกับผู้บริหารอีกครั้งครับ คือถ้าตอบ ณ ตอนนี้คือเราหยุดการกระจายภาพออกทางแพลตฟอร์มดิจิตอลแต่เพื่อคนดูของเรา เราก็ยังดำเนินต่อไปในแพลตฟอร์มอื่นๆครับ ออกอากาศในนามทีวีพูลและไทยทีวี มีไทยทีวีกับตัวช่องใหม่คือทีวีพูลชาแนลกลับมาจะขึ้น 2 ช่องแต่ช่องไทยทีวีจะขึ้นไปก่อนเพื่อไม่ให้มีจอดำบนแพลตฟอร์ม ดาวเทียมทุกอย่างอยู่เหมือนเดิมครับแล้วเพิ่มช่องมาอีกช่องหนึ่ง ยังไม่เพิ่มเร็วๆ นี้ครับ ต้องรอประมาณเดือนหนึ่ง ส่วนผู้ร่วมทุนไม่มีปัญหาเพราะเรายังมีแผนเข้าตลาดในปีหน้าเหมือนเดิม และบริษัทมั่นใจว่าการยุติกิจการทีวีดิจิตอลจะส่งผลดีต่อบริษัท เพราะไม่มีความเสี่ยง และราคาหุ้นน่าได้รับการตอบรับที่ดี”

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม “แจ็คเกอรีน” พัฒนะชัย อดิเรก หนึ่งในผู้ดำเนินรายการทางช่องไทยทีวี ที่มีความใกล้ชิดกับเจ๊ติ๋มเป็นอย่างมาก โดยเจ้าตัวเผยว่าเป็นห่วงเจ๊ติ๋ม เพราะเสียทั้งหน้าเสียทั้งเงิน และยืนยันว่าไม่มีการปลดพนักงาน
“ตอนแรกเลยพี่ติ๋มโทร.มาบอกว่าจะไม่ทำดิจิตอลทีวีแล้วนะ เราก็เป็นห่วงเขานะกลัวเขาเสียหน้า เพราะเขาพูดมาตลอดว่าจะเป็นที่ 1 ภายใน 5-6 ปี ก็นอนไม่หลับก็เลยขึ้นเฟซให้กำลังใจพี่ติ๋มก็เอาไปแชร์กลายเป็นข่าวทุกคนเป็นห่วง ถามว่าน้ำเสียงพี่ติ๋มเป็นไง เขาก็ปกตินะ อยู่กับพี่ติ๋มมานานเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงมาตลอด การตัดสินใจครั้งนี้ก็เข้าใจว่าต้องมีคนซ้ำเติมเขาเยอะ แต่เหตุผลก็คือเราต้องการเข้าตลาดหลักทรัพย์แต่การทำทีวีดิจิตอลทำให้ตัวเลขแดง 2 ปีเข้าไม่ได้ พี่ติ๋มบอกว่าถ้าตัดทีวีดิจิตอลออกไปเงินก็ยังเหลือ และในอนาคตถ้าเราอยากจะกลับเข้ามาซื้อใหม่ก็ยังได้”

“สำหรับพนักงานก็เฉยๆ ไม่มีใครหวั่นไหวเพราะไม่มีการลดคน ก็คุยกับพี่ติ๋มเขาก็กลัวเขาเสียหน้า เสียเงินไป 300 ล้านก็ถือว่าซื้อประสบการณ์ ที่ผ่านมาเราไม่เคยเป็นแบบนี้ก็ถือว่าเป็นการซื้อประสบการณ์ เราไม่เคยเห็นฉากดีๆ โปรดักชั่นดีๆ แพงๆ เขาทำกันยังไง ก็ได้เห็นได้ทำแล้ว การที่เราซื้ออุปกรณ์มาเราก็จะเอาไปใช้ในการทำเคเบิ้ล เราจะทำช่องเคเบิ้ลให้มีคุณภาพเทียบเท่าทีวีดิจิตอล ส่วนรายการต่างๆ ที่เรตติ้งดีเราก็จะเอาไปอยู่ในช่อง 5 หรือช่องอื่นๆ ที่ดีๆ”

รับทีวีพูลถนัดสิ่งพิมพ์มากกว่าทีวี ลั่น “เจ๊ติ๋ม” เป็นคนต่อสู้ ไม่เอาเปรียบใคร
“ก็ต้องยอมรับว่าเราถนัดสื่อสิ่งพิมพ์มากกว่า ทีวีต้องใช้เวลาในการพัฒนางาน พี่ติ๋มค่อนข้างซีเรียสใครจะไม่เครียด ใครจะว่าแกบ้าบอแต่ยอมรับใจแกนะ พี่ติ๋มเป็นคนที่ต่อสู้และไม่เอาเปรียบใคร ปีที่ผ่านมาเราไม่มีโบนัสแต่เงินเดือนก็ตรง”

“พอสถานการณ์เป็นแบบนี้ก็มีคนทาบทามให้เราไปร่วมงานด้วย ถามว่าจะเจ๊งแล้วจะย้ายไหม เรียกว่ามาซื้อตัว ถามว่าอยากไปไหม ก็อยากไปนะเพราะไม่เคยถูกซื้อตัว และเขาก็ให้ข้อเสนอที่ดี แต่เราติดกับการทำงานที่นี่ ที่ให้อิสระความคิดและการทำงาน ไปอยู่ที่ใหม่จะมีข้อห้ามอะไรไหม เพราะทีวีเราเป็นกลางนำเสนอได้ทุกอย่าง แต่ที่อื่นอาจติดเรื่องค่าย แต่เราก็อยากโตเหมือนกันเพราะอายุก็เยอะแล้ว อาจจะมีการคุยในการรับงานเป็นฟรีแลนซ์”





ASTVผู้จัดการออนไลน์ เพิ่มหมวดข่าว “โต๊ะญี่ปุ่น” นำเสนอความเคลื่อนไหวของข้อมูลข่าวสาร ตอบสนองผู้อ่านามเราได้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป



ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม



เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก

กำลังโหลดความคิดเห็น