ตีกลับคอมพ์ สปส. เหตุงบสูงกว่า 400 ล้าน “บิ๊กเต่า” สั่งแจงรายละเอียดความจำเป็นตามนโยบาย คสช. ลั่นถ้าไม่เคลียร์ต้องยอมจอดำ มอบปลัด รง. สางบอร์ดใหญ่ - เล็กขจัดชื่อซ้ำซ้อน ชี้ม.40 เปิดรอบใหม่สิทธิต้องไม่น้อยกว่าเดิม
พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้เสนอเรื่องให้ตนลงนามในโครงการจัดจ้างติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ในวงเงินกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ตั้งเรื่องมาตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อน และได้สอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องกลับไปว่าโครงการดังกล่าวมีความจำเป็นมากแค่ไหน เนื่องจากเรื่องนี้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีข้อสังเกตมาว่าโครงการที่เกี่ยวกับระบบเทคโนโลยีให้ดูถึงความจำเป็นและตอบโจทย์การใช้งานที่ทันสมัย ไม่ใช่จัดซื้อจัดจ้างวันนี้ แต่ผ่านกระบวนการไปเครื่องมือดังกล่าวก็ล้าหลังแล้ว ดังนั้น จึงให้ สปส. กลับไปทำรายละเอียดมาชี้แจงอีกครั้งซึ่งตนยังไม่ได้รับรายงานกลับมา ทั้งนี้ อยากฝากให้สื่อมวลชนช่วยติดตามโครงการดังกล่าวด้วย เนื่องจากเป็นโครงการที่ใช้เงินจำนวนมาก
“ตามกฎหมายโครงการที่มีวงเงินเกิน 100 ล้านบาท ให้เป็นอำนาจรัฐมนตรีเป็นผู้เซ็นอนุมัติ แต่ผมบอกได้เลยถ้าโครงการไหนตอบรายละเอียดความจำเป็นไม่ได้ และประโยชน์ที่สังคมจะได้รับผมก็จะไม่เซ็น เนื่องจากถ้าเซ็นไปแล้วผมต้องเป็นคนรับผิดชอบ เช่นเดียวกันก็ทราบข่าวมาว่า โครงการที่อยู่ในอำนาจของเลขาธิการ สปส. ถ้าไม่มีรายละเอียดแม้ว่าจะมีการจัดจ้างผ่านระบบ อี-ออกชัน (จัดซื้อจัดจ้าง) ไปแล้วก็จะไม่มีการเซ็น ซึ่งตรงนี้ไม่แน่ใจว่าจะมีปัญหาฟ้องร้องตามมาหรือไม่” พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าไม่มีการอนุมัติระบบคอมพิวเตอร์หากเกิดจอดำเหมือนที่ผ่านมา ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ถึงจอดำก็ต้องยอม หากโครงการดังกล่าวไม่สามารถตอบคำถามเรื่องความโปร่งใสได้
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ได้มอบหมายให้ นายนคร ศิลปอาชา ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ประกันสังคม ไปพิจารณาปรับเกณฑ์การเลือกผู้แทนที่เข้ามานั่งเป็นกรรมการ จะต้องไม่ซ้ำซ้อน หรือไม่ใช่บุคคลเดียวกับที่นั่งเป็นอนุกรรมการ หรือคนที่มีผลประโยชน์เกี่ยวเนื่อง ที่ผ่านมาบอร์ด สปส. เกือบทุกชุด ใช้คนๆ เดียวนั่งทั้งบอร์ดใหญ่และเล็ก คือ ทั้งกรรมการและอนุกรรมการ เรื่องนี้ต้องเปลี่ยน กำหนดระเบียบใหม่ ต้องให้เกิดความโปร่งใส ขณะนี้กำลังพิจารณาด้วยว่าการประชุมบอร์ด สปส. ทุกครั้งมีการประชุมที่สปส. สำนักงานใหญ่นนทบุรี แต่จะปรับเปลี่ยนให้มาใช้สถานที่ประชุมที่กระทรวงแรงงานแทน ในกรณีที่มีวาระสำคัญและจะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังด้วยเพื่อให้เกิดความโปร่งใส อีกทั้งตนในฐานะรัฐมนตรีก็จะขอเข้าไปสังเกตการณ์ ไม่ใช่เข้าไปก้าวก่ายการทำงานเพียงแต่ขอรับทราบข้อมูลการดำเนินการทั้งหมดเท่านั้น
นอกจากนี้ พล.อ.สุรศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีความคืบหน้าการเปิดรับสมัครผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าไม่ควรจะมีทางเลือกที่ 3 คือ ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท รัฐบาลจ่ายสมทบ 100 บาทว่า เรื่องนี้ถ้ารัฐบาลจะทำอะไรประชาชนต้องได้สิทธิไม่น้อยกว่าเดิม เพราะถ้าไปตัดสิทธิที่เคยได้รับมาก่อนจะดูไม่เป็นธรรมและสร้างความไม่พอใจ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้เสนอเรื่องให้ตนลงนามในโครงการจัดจ้างติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ในวงเงินกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ตั้งเรื่องมาตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อน และได้สอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องกลับไปว่าโครงการดังกล่าวมีความจำเป็นมากแค่ไหน เนื่องจากเรื่องนี้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีข้อสังเกตมาว่าโครงการที่เกี่ยวกับระบบเทคโนโลยีให้ดูถึงความจำเป็นและตอบโจทย์การใช้งานที่ทันสมัย ไม่ใช่จัดซื้อจัดจ้างวันนี้ แต่ผ่านกระบวนการไปเครื่องมือดังกล่าวก็ล้าหลังแล้ว ดังนั้น จึงให้ สปส. กลับไปทำรายละเอียดมาชี้แจงอีกครั้งซึ่งตนยังไม่ได้รับรายงานกลับมา ทั้งนี้ อยากฝากให้สื่อมวลชนช่วยติดตามโครงการดังกล่าวด้วย เนื่องจากเป็นโครงการที่ใช้เงินจำนวนมาก
“ตามกฎหมายโครงการที่มีวงเงินเกิน 100 ล้านบาท ให้เป็นอำนาจรัฐมนตรีเป็นผู้เซ็นอนุมัติ แต่ผมบอกได้เลยถ้าโครงการไหนตอบรายละเอียดความจำเป็นไม่ได้ และประโยชน์ที่สังคมจะได้รับผมก็จะไม่เซ็น เนื่องจากถ้าเซ็นไปแล้วผมต้องเป็นคนรับผิดชอบ เช่นเดียวกันก็ทราบข่าวมาว่า โครงการที่อยู่ในอำนาจของเลขาธิการ สปส. ถ้าไม่มีรายละเอียดแม้ว่าจะมีการจัดจ้างผ่านระบบ อี-ออกชัน (จัดซื้อจัดจ้าง) ไปแล้วก็จะไม่มีการเซ็น ซึ่งตรงนี้ไม่แน่ใจว่าจะมีปัญหาฟ้องร้องตามมาหรือไม่” พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าไม่มีการอนุมัติระบบคอมพิวเตอร์หากเกิดจอดำเหมือนที่ผ่านมา ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ถึงจอดำก็ต้องยอม หากโครงการดังกล่าวไม่สามารถตอบคำถามเรื่องความโปร่งใสได้
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ได้มอบหมายให้ นายนคร ศิลปอาชา ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ประกันสังคม ไปพิจารณาปรับเกณฑ์การเลือกผู้แทนที่เข้ามานั่งเป็นกรรมการ จะต้องไม่ซ้ำซ้อน หรือไม่ใช่บุคคลเดียวกับที่นั่งเป็นอนุกรรมการ หรือคนที่มีผลประโยชน์เกี่ยวเนื่อง ที่ผ่านมาบอร์ด สปส. เกือบทุกชุด ใช้คนๆ เดียวนั่งทั้งบอร์ดใหญ่และเล็ก คือ ทั้งกรรมการและอนุกรรมการ เรื่องนี้ต้องเปลี่ยน กำหนดระเบียบใหม่ ต้องให้เกิดความโปร่งใส ขณะนี้กำลังพิจารณาด้วยว่าการประชุมบอร์ด สปส. ทุกครั้งมีการประชุมที่สปส. สำนักงานใหญ่นนทบุรี แต่จะปรับเปลี่ยนให้มาใช้สถานที่ประชุมที่กระทรวงแรงงานแทน ในกรณีที่มีวาระสำคัญและจะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังด้วยเพื่อให้เกิดความโปร่งใส อีกทั้งตนในฐานะรัฐมนตรีก็จะขอเข้าไปสังเกตการณ์ ไม่ใช่เข้าไปก้าวก่ายการทำงานเพียงแต่ขอรับทราบข้อมูลการดำเนินการทั้งหมดเท่านั้น
นอกจากนี้ พล.อ.สุรศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีความคืบหน้าการเปิดรับสมัครผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าไม่ควรจะมีทางเลือกที่ 3 คือ ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท รัฐบาลจ่ายสมทบ 100 บาทว่า เรื่องนี้ถ้ารัฐบาลจะทำอะไรประชาชนต้องได้สิทธิไม่น้อยกว่าเดิม เพราะถ้าไปตัดสิทธิที่เคยได้รับมาก่อนจะดูไม่เป็นธรรมและสร้างความไม่พอใจ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่