ร้อง “ป.ป.ช.” ตรวจสอบกรณีปล่อย “ปู” แหลสดออกทีวี

อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกาโพสต์เฟซบุ๊ก เรียกร้อง ป.ป.ช. ตรวจสอบข้าราชการปล่อย “ปู ยิ่งลักษณ์” ใช้สถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจถ่ายทอดสดตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จออกทีวี หลังถูกปลดพ้นนายกฯ

ต้องบอกว่าเข้มข้นทีเดียวในส่วนของแวดวงการเมืองบ้านเราในตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่มีมติเป็นเอกฉันท์ติให้อดีตนายกฯ “ปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” รวมถึงรัฐมนตรีบางส่วนต้องสิ้นสภาพจากตำแหน่ง เพราะใช้อำนาจในทางมิชอบในช่วงวันวานที่ผ่านมา

โดยหลังจากที่ศาลได้มีคำพิพากษาออกมาทางอดีตนายกหญิงคนแรกของบ้านเราก็ได้โผล่หน้าออกจอทีวีถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศร์รวมกันเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) เพื่อบอกกล่าวถึงการบริหารงานของรัฐบาลภายใต้การดูแลของตนเองตลอดระยะเวลาที่่ผ่านมาตลอดระยะเวลานาน 2 ปี 9 เดือน และอีก 2 วันทันที

อย่างไรก็ตาม นอกจากหลายคนที่ได้รับฟังการแถลงดังกล่าวจะไม่เชื่อในสิ่งที่อดีตนายกฯ บอกออกมา ทั้งเรื่องที่ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมารัฐบาลได้พยายามทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนให้มีความเท่าเทียมกัน พร้อมกับยืนยันที่ผ่านมารัฐบาลตนเองไม่มีการทุจริตคอร์รัปชัน หรือเอื้อผลประโยชน์ให้กับใครแต่อย่างใดแล้ว

สิ่งหนึ่งที่หลายคนได้ตั้งข้อสงสัยกันเป็นอย่างมากก็คือ การตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จจ้ออออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจในครั้งนี้ของเจ้าตัว ซึ่งสิ้นสภาพจากตำแหน่งต่างๆ ในการเป็นฝ่ายบริหารแล้วสามารถกระทำได้หรือไม่?

หนึ่งในนั้นก็คือนาย “ชูชาติ ศรีแสง” อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ซึ่งได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Chuchart Srisaeng” เรียกร้องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนข้าราชการผู้ดำเนินการให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบด้วยข้อความว่า...

.....นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปแล้ว ไม่มีหน้าที่และไม่มีอำนาจที่จะใช้โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจมาแถลงการณ์ใดๆ อีกแล้ว
.....ขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนข้าราชการผู้ดำเนินการให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกรายโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ในข้อหาปฏิบัติหน้าทีี่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ ด้วย ครับ...

ทั้งนี้ หลังจากที่ข้อความดังกล่าวได้ถูกโพสต์ออกมาก่อนถูกแชร์ไปทั่วบรรดาผู้ที่เล่นอินเทอร์เน็ตทั้งหลายต่างก็พากันแสดงความเห็นกันมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่นั้นต่างก็เห็นด้วยกับสิ่งที่อดีตผู้พิพากษาได้โพสต์ออกมา โดยมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่แสดงความเห็นแตกต่างออกไป

สำหรับโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ชื่อย่อ: ทรท., ทีวีพูล; อังกฤษ: The Television Pool of Thailand - TPT., T.V.Pool) ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2511 โดยมีสถานีโทรทัศน์ในประเทศไทย 6 สถานี ได้แก่ ไทยทีวีสีช่อง 3, ททบ.5, ช่อง 7 สี, โมเดิร์นไนน์ทีวี, สทท. และ ไทยพีบีเอส รวมทั้งสถานีโทรทัศน์เคเบิลบางส่วน ร่วมเป็นองค์กรสมาชิก

โดย 2 ใน 5 ข้อของจุดประสงค์หลักในการก่อตั้งที่เกี่ยวกับเรื่องของการถ่ายทอดสดก็คือจุดประสงค์ข้อที่ 1 ที่ว่า...ร่วมมือในการถ่ายทอด และรับการถ่ายทอด ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รายการสำคัญระดับชาติ เช่น พระราชพิธี พิธีสำคัญทางศาสนา พิธีสำคัญทางทหาร กิจกรรมสำคัญของภาครัฐบาล หรืองานสำคัญระหว่างประเทศ รวมทั้งการแข่งขันกีฬานัดสำคัญ อาจจะถ่ายทอดออกอากาศทุกสถานี หรือถ่ายทอดบางสถานีเท่านั้น แล้วแต่จะเห็นควร

รวมถึง ข้อ 2 ที่ว่า...เป็นผู้ประสานงาน ในการตกลงค่าลิขสิทธิ์ต่างๆ จากการถ่ายทอดตามข้อ 1 เพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสม ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ชมได้รับชมการถ่ายทอด (กีฬา) ทั้งภายในและต่างประเทศ ที่มีคุณภาพ และระดับราคาที่เหมาะสม