“ฝันเด่น” เดินเท้าไปหา “พ่อหลวง” ที่วังไกลกังวล หดหู่ที่เห็นคนไทยทะเลาะกัน แถมยังมาฆ่ากันเอง บอกไม่เห็นจะมีทางออกอะไรเลย แจงไม่หวังว่าการเดินครั้งนี้จะทำให้อะไรดีขึ้นหรือไม่ แต่ตนมีความสุขที่ได้ทำ ดีกว่าไปร่วมชุมนุม ลั่นไม่ผิดที่ทุกคนจะมีความคิดของตัวเอง แต่ถามกลับแล้วทางออกมันคืออะไร หวังอยากให้บ้านเมืองกลับมาสงบสุขเหมือนเดิม
หลังจากที่ “โบ สุนิตา จรรยาธนากร” ภรรยาของ “เล็ก ฝันเด่น จรรยาธนากร” โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยระบุว่า “คุณฝันเด่น กับภารกิจส่วนตัว (คนเดียว) “เดินตามรอยเท้าพ่อ” เริ่มต้นที่หน้าบ้าน ปลายทางคือวังไกลกังวล หัวหิน โบถามว่าทำไมต้องเดิน? คุณเล็กบอกว่า บ้านเมืองเป็นแบบนี้ รู้สึกไม่สบายใจ นึกถึงตอนเด็กๆ มีอะไรสบายใจก็วิ่งไปหาป๊า (คุณพ่อ) ตอนนี้ป๊าเสียไปนานแล้ว เลยนึกต้องเดินไปหาพ่อหลวง อยู่แค่ด้านหน้าก็ยังดี คุณฝันเด่นยังบอกอีกว่า “มันเป็นความฝันของเล็กนะโบ ถึงมันจะเป็นแค่ก้าวเล็กๆ แต่มันยิ่งใหญ่สำหรับชีวิตเล็กมาก”
ส่วนพี่ชายของ “ฝันเด่น” อย่าง “ใหญ่ ฝันดี จรรยาธนากร” ก็ได้โพสต์รูปแฝดผู้น้อง เดินเท้าไปหัวหิน พร้อมข้อความระบุว่า “วันนี้ฝันเด่น พลังมาก เดินมาราธอนจาก กทม.ถึง หัวหิน คนเดียว...ความฝันของเล็ก จะกี่วันไม่สำคัญ แต่ต้องทำให้ได้จุดหมายปลายทางคือ คนที่เรารักที่สุดในโลกอยู่ตรงนั้น” จึงเกิดเป็นกระแสขึ้นว่าหนุ่ม “เล็ก” มีจุดมุ่งหมายในการเดินครั้งนี้อย่างไร ทางผู้สื่อข่าวบันเทิง เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ ได้ต่อสายตรงถึงนักร้องชื่อดัง โดยเจ้าตัวบอกว่า…
“จุดมุ่งหมายในการเดินในครั้งนี้คือต้องการหาความสุข ความสุขในตอนนี้คือความสงบ ความที่ไม่แตกแยกกัน อยากให้คนไทยกลับมารักกันเหมือนเดิม เหมือนว่าบางครั้งเราลืมไปหรือเปล่าว่าเราเคยรักกัน ตอนนี้มันกลายเป็นว่าทำไมเราต้องมาทะเลาะกันด้วย อะไรก็ไม่รู้ที่มันไม่เห็นจะมีทางออกอะไร แล้วมันก็สูญเสียอะไรไปหลายๆ อย่าง อย่างวันนี้มันก็มีการสูญเสียขึ้นมาอีก”
“แต่ผมไม่รู้หรอกนะว่าจุดประสงค์ของผม ผมจะตอบยังไงให้ทุกคนรู้สึกพอใจกับคำตอบผม แต่คำตอบของผมก็คือผมทำแล้วผมสุขใจ ผมทำแล้วผมมีความสุข ผมเลยอยากบอกว่าความสุขบางทีมันไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลหรอก มันเริ่มที่ตัวเรานี่แหละ เรารู้อยู่แล้วว่าตรงไหนมันคือความสุขเราก็ทำนะ ผมยังตอบไม่ได้ว่าผมทำแล้วเพื่ออะไร แต่ผมทำตรงนี้แล้วพอเจอคนเขาบอกผมว่าสู้ๆ นะ อันนี้ผมไม่มีคำตอบหรอก แต่คำตอบของผมคือผมอยากมีความสุขแบบง่ายๆ ที่ไม่ต้องพึ่งพาใครแล้ว ผมก็รู้ว่าความสุขอยู่ตรงไหน แต่ถ้าเกิดคนอื่นจะมองเป็นอย่างอื่นผมก็ห้ามไม่ได้”
เผยเดินมา 2 วัน วันนี้ (26 ธ.ค.56) เดินทางถึงมหาชัยแล้ว
“ตอนนี้ถึงมหาชัยแล้วครับ ค่ำไหนนอนนั่นครับ ระหว่างทางก็มีคนมาทักทายให้น้ำอะไรก็มีนะ เลี้ยงข้าวก็มีด้วย บางคนขับรถผ่านมาก็แวะทักทายพูดคุยเอาน้ำมาให้แล้ว ก็บอกว่าเราสู้ เพราะหลักๆ ตอนนี้คือเดินคนเดียว แต่ว่าวันนี้มีใหญ่(ฝันดี จรรยาธนากร)มาร่วมแจมด้วย และมีพี่ทนงศักดิ์ (ทนงศักดิ์ ศุภการ) แล้วก็เพื่อนๆ ในเฟซบุ๊กของใหญ่เขาก็มาร่วมๆ แจมด้วย มูลนิธิที่เคยทำงานด้วยกันก็มาขับรถปิดท้ายให้กลัวรถชน”
พร้อมเผยอุปสรรคระหว่างทางมีมากมาย ทั้งทางใจและกาย ตอนนี้เท้าพองมากจนต้องเจาะเอาน้ำออกจากเท้า
“อุปสรรคระหว่างเดินทางมีมากมายเลยนะ อุปสรรคทั้งทางกายทั้งทางใจ เท้าพองมากต้องเจาะน้ำออกจากเท้า แต่จริงๆ มันพองมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ แต่พอเดินวันนี้อีกก็เลยเริ่มผองขึ้นอีก แต่ก็อดทนได้ แต่ปัญหาที่ตามมาคือกล้ามเนื้อเราเราไม่เคยออกเดินไกล”
“มาตอนนี้มันปวดเมื่อยมาก ปวดจนแทบขาจะก้าวไม่ออก วันนี้ก็เลยพักเร็วหน่อย พักตั้งแต่บ่าย 3 กว่า เดินมาประมาณ 43 กิโลฯ ได้ แต่เมื่อวานเดินได้ถึง 50 กว่ากิโลฯ แต่เมื่อวานมั่นใจในตัวเองมากนะ 3 วันถึง แต่พอวันนี้ไม่ใช่แล้ว เลยเปลี่ยนกระบวนการความคิดว่าจะถึงเมื่อไหร่ก็ถึงอ่ะ (หัวเราะ) แต่อย่างอุปสรรคทางใจก็คือความคิดเรา ตอนแรกไง มันง่ายไง หัวหินในความคิดง่าย ในความคิดเคยไปแล้ว แต่ไปทางรถ แต่พอเดินนี่มันไม่ง่ายนะ กว่าจะผ่านแต่ละเมตรมันยากนะ”
บอกถ้าเดินถึงหน้าวังไกลกังวล ตนคงมีความสุขเพราะได้ทำสมความตั้งใจ
“วันที่ 3 ก็เดินต่อประมาณตอน 7 โมงเช้า ถ้าผมเดินวันละ 40 กว่ากิโลฯ ก็อีก 3 วันถึง เพราะตอนนี้เหลืออีก 150 กว่ากิโลฯ ถ้าไปถึงหน้าวัง ก็คือไปถึงสมกับที่เราตั้งใจไว้ มันก็คงไม่ต้องไปถึงแล้วมีอะไรต้องทำนู่นทำนี่ คงไม่ได้ถึงขนาดนั้นก็แค่ว่าเราทำสำเร็จ ได้มาทำในสิ่งที่ตั้งใจของเรา คนเราเวลาตั้งใจทำอะไรแล้ว พอมันทำได้มันก็จะมีความสุขไง”
คาดหวังว่าการเดินของเราในครั้งนี้จะทำให้อะไรดีขึ้นไหม?
“ผมไม่รู้นะ ผมอยากจะบอกว่าการเดินของผมครั้งนี้ ผมไม่ได้ต้องการที่จะชักชวนใคร ผมแค่ทำในสิ่งที่ผมทำได้ทำเท่ากับแรงที่ทำได้ ทำแล้วผมไม่ลืม ผมก็คิดตามที่ผมเคยไปทำรายการตามภารกิจในหลวง หรือได้คุยได้สัมพันธ์กับคนที่ได้อิทธิพลจากในหลวงในการได้ใช้ชีวิตแบบพอเพียง ได้เรียนรู้ตัวตนของเราว่าเราเป็นคนแบบไหน สมมุติว่าเราเป็นคนรูปร่างเล็กเราเป็นคนที่เก๋เรื่องนี้ เราต้องรู้ตัวเราเองให้ได้ เราต้องอยู่ในความพอดี เราต้องรู้ตัว แล้วมันจะมีความสุขในโลกนี้มันมีความสุขได้ทุกอย่างถ้าเราทำอะไรที่ไม่เกินพอดี”
เครียดกับสถานการณ์บ้านเมืองจนต้องมาเดินเพื่อหาความสุขทางใจ แล้วความเห็นส่วนตัวอยากให้บ้านเมืองมีทางออกยังไง?
“ถ้าถามถึงทางออกทางการเมือง คือทั้งวันนี้มีแต่คนถามผม ว่าผมเดินเพื่ออะไรเดินแล้วได้อะไร ถ้าเกิดทุกคนถามผมแบบนี้ก็เท่ากับว่า ไม่ว่าจะทำอะไรมันต้องมีเหตุผลรองรับ แต่ถ้าเราคิดดีแล้ว เราทำดีแล้วไม่ได้เดือดร้อนใครนะ มันก็จะเป็นเรื่องดีๆ แทนที่เราจะไปร่วมชุมนุมไปทำอะไร จริงๆ มันไม่ผิดหรอกทุกคนมีสิ่งที่จะคิด ผมเองก็มีสิ่งที่จะคิด แล้วทางออกมันจะยังไง มันต้องรุนแรงแบบนี้ต่อไปเหรอ หรือว่ามันต้องไม่เข้าใจกันแบบนี้ต่อไปเหรอ คือผมผ่านเหตุการณ์ความขัดแย้งในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ผมก็เป็นกู้ภัย ตอนที่เสื้อแดง ผมก็ช่วยนะ พูดตรงๆ”
“ผมอยู่ร่วมกตัญญู ทหารถูกยิงผมก็ช่วย นักข่าวชาวบ้าน ผมทำทุกอย่าง ผมอยู่ท่ามกลางสมรภูมิความขัดแย้งมาในเกือบจะทุกๆ อัน แล้วผมมีความสงสัยว่าทำไมคนไทยต้องฆ่ากัน ทำไมต้องขัดแย้งกัน ถึงขั้นจะต้องลงมือกันเลยเหรอ แล้วมันก็ย้อนไปตอนที่ผมเป็นนักร้อง ตอนนั้นมันเป็นเมืองไทยที่สนุกมาก ไปไหนก็มีแต่คนทัก ไม่มีคนถามเลยว่าเจ้าเป็นใคร สีไหน ขนาดฝรั่งมาไม่เห็นมีใครไปถามเลยว่ามีวีซ่าหรือเปล่า แต่ทำไมวันนี้เราเจอหน้ากันทำไมเราถึงต้องถามว่าสีไหนชอบใครไม่ชอบใคร ทำไมล่ะ ไหนเราเคยบอกว่าเราเคยรักกัน”
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |