xs
xsm
sm
md
lg

ผู้เชี่ยวชาญชี้เศรษฐกิจกัมพูชาขยายตัวต่อเนื่อง แม้ประสบปัญหาการเมือง-อุทกภัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>นายสม รังสี หัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา กล่าวปราศรัยต่อผู้ชุมนุม พร้อมกับนายแกม สุขา รองหัวหน้าพรรค ในระหว่างการชุมนุมประท้วงที่สวนประชาธิปไตย ในกรุงพนมเปญ วันที่ 16 ธ.ค. ความขัดแย้งทางการเมือระหว่างพรรคฝ่ายค้านและรัฐบาลเกิดขึ้นตั้งแต่หลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนก.ค. ที่ฝ่ายค้านระบุว่ามีการโกงเลือกตั้งเกิดขึ้นที่นำมาซึ่งชัยชนะของพรรครัฐบาลของฮุนเซน อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากระบุว่า แม้กัมพูชาจะประสบปัญหาทางการเมืองก็ไม่กระทบกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ. --Agence France-Presse/Tang Chhin Sothy.</font></b>

ซินหวา - เศรษฐกิจกัมพูชาคาดว่าจะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องมากกว่า 7% ในปีนี้ แม้ประเทศจะประสบปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง และการฟื้นตัวจากผลของภัยน้ำท่วมเมื่อไม่นานนี้ เจ้าหน้าที่อาวุโส และนายธนาคารเผย

แต่นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ว่า ปัญหาทางการเมือง บวกกับความเสียหายจากน้ำท่วมจะกระทบต่อการเติบโตของประเทศอยู่ที่เพียง 6% ในปีนี้

“เรามองในแง่บวกว่าประเทศจะยังคงมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเกินกว่า 7% ในปีนี้ ที่ขับเคลื่อนโดยการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูป และสิ่งทอ การท่องเที่ยว และการก่อสร้าง” ผู้อำนวยการกรมอุตสาหกรรมทางการเงิน กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา กล่าว

“การคาดการณ์ของเราคล้ายกับที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลกได้คาดการณ์ไว้”

ในที่ประชุมรัฐสภาเมื่อเดือนก่อน รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง กล่าวว่า GDP ของประเทศขยายตัวที่ 7.6% ในปี 2556 เทียบเท่ากับ 15,190 ล้านดอลลาร์ ส่วนรายได้ต่อหัวของประชาชนคาดว่าจะอยู่ที่ 1,036 ดอลลาร์ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากเกือบ 1,000 ดอลลาร์ในปีก่อน

“กัมพูชาจะขยับออกจากสถานะการเป็นประเทศรายได้ต่ำ ไปสู่การเป็นประเทศรายได้ระดับกลาง-ล่าง ในอนาคตอันใกล้นี้” รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา กล่าว

เศรษฐกิจกัมพูชานั้นพึ่งพาอย่างมาก กับการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปและสิ่งทอ การท่องเที่ยว การเกษตร และการก่อสร้าง

การส่งออกเครื่องแต่งกายเป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศ ที่ทำเงินได้มากถึง 4,760 ล้านดอลลาร์ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2556 เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบปีต่อปี ตามรายงานของรัฐบาล ส่วนภาคการท่องเที่ยวนั้น ขยายตัวขึ้นเช่นกัน จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนประเทศมากขึ้น 19% ที่จำนวน 3.4 ล้านคน ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้

ภาคการก่อสร้างมีเม็ดเงินลงทุนรวม 2,480 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2556 ขยายตัวขึ้น 29% เทียบกับ 1,920 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ภาคเกษตรกรรม คาดว่าจะขยายตัวที่ 4.2% ในปีนี้ แม้ว่าพื้นที่ประมาณ 4.4% หรือราว 700,000 ไร่ ของพื้นที่ปลูกข้าวทั้งหมดจะได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมในระหว่างเดือน ส.ค.-ต.ค.

“แม้จะได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม การผลิตข้าวในปีนี้ยังคงคาดว่าจะได้ผลผลิตที่ดี” รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร ระบุในรายงานประเมินความเสียหายจากน้ำท่วมต่อนายรัฐมนตรีฮุนเซน

ด้านโฆษกคณะรัฐมนตรีกล่าวว่า การเติบโตของ GDP คาดว่าจะสูงกว่า 7% และอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับ 3-4% ในปีนี้

“รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะเห็นการเติบโตอย่างน้อย 7% ในปีนี้ และไม่คิดว่าเหตุขัดแย้งทางการเมือง และความเสียหายจากภัยน้ำท่วมจะชะลอการเติบโตของประเทศ”
<br><FONT color=#000033>ผู้สนับสนุนฝ่ายค้านขี่รถจักรยานยนต์ร่วมการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลในกรุงพนมเปญ วันที่ 19 ธ.ค. แม้การชุมนุมประท้วงของฝ่ายค้านจะเกิดขึ้นเป็นระยะๆ มาตั้งแต่เสร็จสิ้นการเลือกตั้งในเดือนก.ค. นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าไม่กระทบต่อการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ และเศรษฐกิจของประเทศยังคงขยายตัวต่อเนื่อง. --Agence France-Presse/Tang Chhin Sothy.</font></b>
<br><FONT color=#000033>นอกจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง กัมพูชายังประสบกับภัยธรรมชาติที่สร้างความเสียหายให้กับผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกข้าว แต่รัฐบาลกัมพูชาระบุว่า ไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และคาดว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้เกินกว่า 7%. --Agence France-Presse/Tang Chhin Sothy.</font></b>
เหตุขัดแย้งทางการเมืองระหว่างพรรครัฐบาลของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน และพรรคของนายสม รังสี ผู้นำฝ่ายค้าน ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่การเลือกตั้งทั่วไปในเดือน ก.ค. เมื่อผลการเลือกตั้งชี้ว่าพรรคของฮุนเซน ชนะคะแนนเสียงส่วนใหญ่ ได้ที่นั่งในรัฐสภา 68 ที่นั่ง ส่วนพรรคของนายสม รังสี ได้ที่นั่งที่เหลือ 55 ที่นั่ง

ฝ่ายค้านปฏิเสธที่จะยอมรับผลดังกล่าว และจัดการชุมนุมประท้วง พร้อมกับคว่ำบาตรรัฐสภานับแต่นั้นเพื่อที่จะเรียกร้องให้มีการสอบสวนข้อกล่าวหาว่ามีความผิดปกติอย่างร้ายแรงในระหว่างการเลือกตั้ง แต่พรรครัฐบาลปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ

“การคว่ำบาตรของฝ่ายค้านไม่ได้ทำให้เกิดภาวะวิกฤต หรือความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองในกัมพูชา นักลงทุนยังคงเข้ามาในกัมพูชา เพราะพวกเขาเชื่อมั่นความมีเสถียรภาพของการเมืองและเศรษฐกิจประเทศภายใต้การนำของพรรคประชาชนกัมพูชา และนายกรัฐมนตรีฮุนเซน” โฆษกคณะรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าว

ประธานและ CEO ธนาคาร Acleda กล่าวว่า ไม่มีสัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ แม้ว่ากัมพูชาจะประสบปัญหาทางการเมือง และความเสียหายจากน้ำท่วม

“นับตั้งแต่ฝ่ายค้านจัดการชุมนุมอย่างสันติ ผมไม่เห็นผลกระทบเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจ และนักลงทุน การดำเนินการธุรกรรมทางธุรกิจยังคงเป็นไปอย่างปกติหลังการเลือกตั้ง” ประธานธนาคาร Acleda กล่าว

ด้านผู้อำนวยการธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ประจำกัมพูชา กล่าวว่า การชุมนุมประท้วงของฝ่ายค้านไม่มีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และการลงทุนของกัมพูชา

“การประท้วงเป็นไปอย่างสันติ แม้จะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ้างแต่ไม่ขยายวงกว้าง ผมไม่คิดว่าการประท้วงจะสร้างผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจ และการลงทุน”

ADB ระบุว่า เศรษฐกิจกัมพูชาคาดว่าจะขยายตัวที่ 7.2% ในปีนี้ เป็นผลมาจากการส่งออกเพิ่มสูงและการก่อสร้าง และภาคบริการที่มีประสิทธิภาพ และคาดว่าเศรษฐกิจกัมพูชาจะขยายตัวที่ 7.5% ในปี 2557 จากการฟื้นตัวของตลาดสหรัฐฯ และยุโรป ที่เป็นตลาดรายใหญ่ของสินค้าเครื่องแต่งกายของกัมพูชา

“เศรษฐกิจของกัมพูชาคาดว่าจะยังคงลอยตัวต่อในอีก 2 ปีข้างหน้า สะท้อนให้เห็นถึงการปฏิรูปอย่างต่อเนื่อง และการฟื้นตัวของตลาดโลก” ผู้อำนวยการ ADB ประจำกัมพูชา กล่าว

นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า IMF มองเห็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของกัมพูชาที่ขยายตัวถึง 7% ในปีนี้ และปีหน้า ที่เป็นผลจากการขยายตัวอย่างมากในการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปและสิ่งทอ การลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ และการท่องเที่ยว

ขณะเดียวกัน ลาการ์ด ได้แนะนำให้กัมพูชาลงทุนเพิ่มขึ้นในด้านการศึกษา และโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังงานไฟฟ้า ถนน และสะพาน เพื่อที่จะเป็นรากฐานเพื่อความสำเร็จในอนาคต
<br><FONT color=#000033>คริสติน ลาการ์ด ผอ.ไอเอ็มเอฟ ขณะเยี่ยมโรงเรียนในจ.กันดาล เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. โดยนางลาการ์ดระบุว่ากัมพูชาควรลงทุนเพิ่มขึ้นในด้านการศึกษาและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อที่จะเป็นรากฐานสำหรับความสำเร็จในอนาคต. --Reuters/Stephen Jaffe.</font></b>
แต่นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสกล่าวว่า เหตุขัดแย้งทางการเมือง และเหตุน้ำท่วมเมื่อไม่นานนี้จะกระทบต่อการเติบโตของประเทศในปีนี้อย่างแน่นอน

“ผมไม่คิดว่าประเทศจะมีอัตราการเติบโตถึง 7% ในปีนี้ ผมคาดการณ์ว่าการเติบโตจะอยู่ที่ประมาณ 6% เนื่องจากปัญหาทางการเมือง และน้ำท่วมกระทบต่อนาข้าว และโครงสร้างพื้นฐาน” ประธานสถาบันการศึกษาเพื่อการพัฒนากัมพูชา กล่าวและว่า ความขัดแย้งระหว่างพรรครัฐบาล และฝ่ายค้านที่ยืดเยื้อออกไปจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศต่อกัมพูชา

“หากความขัดแย้งยังไม่ได้รับการแก้ไขไปอีก 1 ปี ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และการลงทุนจากต่างชาติก็จะขยายต่อไปอีกปีเช่นกัน”

นักวิชาการจากศูนย์เอเชียแปซิฟิกศึกษาของมหาวิทยาลัยลีดส์ ในอังกฤษ กล่าวเตือนว่าความขัดแย้งจะชะลอเศรษฐกิจในปีหน้าหากยังปัญหายังไม่ถูกแก้ไข

“วิกฤตการเมืองหลังการเลือกตั้งจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจ และการลงทุนในปีหน้า หากยังไม่สามารถหาทางออกทางการเมืองได้”

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีเศรษฐกิจและการคลัง กล่าวว่า ประเทศคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตของ GDP อยู่ที่ 7% เทียบเท่ากับ 16,900 ล้านดอลลาร์ ในปี 2557 และรายได้ต่อหัวของประชาชนจะเพิ่มขึ้นไปที่ 1,139 ดอลลาร์

ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประชาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) กล่าวว่า หากเปรียบเทียบกัมพูชากับเศรษฐกิจของชาติอาเซียนอื่นๆ กัมพูชา มีอัตราการเติบโตที่สูง แต่อัตราการลดความยากจนกลับอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ซึ่งหมายความว่า กัมพูชากำลังเผชิญกับการขยายตัวของช่องว่างการพัฒนา และเพื่อจัดการกับปัญหาดังกล่าว กัมพูชาจำเป็นต้องจัดการกับปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน และส่งเสริมการบริหารจัดการที่ดีในทุกระดับชั้นของรัฐบาล และทุกภาคส่วนของสังคม.
กำลังโหลดความคิดเห็น