ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้ว่าแบงก์ชาติห่วงสถานการณ์ทางการเมืองกระทบเศรษฐกิจไทย คาดปีนี้จีดีพีอาจโตต่ำกว่า 3% แนะทางออกทางการเมืองคู่ขัดแย้งต้องหารือร่วมกันในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งและหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวยอมรับว่า สถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองขณะนี้ส่งผลกระทบทางด้านการอุปโภคและบริโภค การลงทุนและการท่องเที่ยวในประเทศ ส่งผลต่อคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 56 อาจจะเติบโตต่ำกว่า 3% แต่ตัวเลขประมาณการดังกล่าวยังไม่ได้รวมยอดตัวเลขของไตรมาส 4/56 และยังหวังว่าการท่องเที่ยวจะเข้ามาช่วยหนุน GDP ให้เติบโตได้ แม้ว่าภาคการท่องเที่ยวอาจจะมีการเติบโตไม่มากเท่าที่คาดการณ์ไว้
ด้านสินเชื่อที่ทั้งปี 56 คาดว่าจะขยายตัวชะลอลงมาที่ 9% จากไตรมาส 3/56 อยู่ที่ 12% แต่หากเปรียบเทียบกับภาพรวมการเติบโตทางเศรษฐกิจก็ถือว่ายังอยู่ในระดับปกติ และคาดว่าปีหน้าจีดีพีจะเติบโต 4% ซึ่งหากบวกกับเงินเฟ้อ 2% จะทำให้สินเชื่อในปีหน้าเติบโตได้ราว 6-7% ถือว่ามีความสมเหตุสมผล
นายประสารเห็นว่าทางออกทางการเมือง ทั้งสองฝ่ายควรหาทางออกร่วมกันในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง และควรหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ทุกฝ่ายได้พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเห็นว่าแม้มีความคิดเห็นแตกต่างกันและควรมีการเจรจาร่วมกันเพื่อหาข้อยุติในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
"มีหลายสถาบันออกมาแสดงความคิดเห็นตัวว่าจะเป็นคนกลาง ที่จะช่วยประสานคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น เห็นว่าควรให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ซึ่งข้อเสนอของทุกฝ่ายเป็นข้อเสนอที่ดี มองว่าท้ายที่สุดแล้วทุกฝ่ายไม่ได้ต้องการอยากได้ข้อเสนอของตัวเองครบทุกสิ่ง" นายประสารกล่าว
ทั้งนี้ ไม่รู้สึกกังวลหากสถานการณ์การเมืองยังคงรุนแรงต่อเนื่องไปถึงปี 57 ว่าจะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุน ซึ่งการไหลเข้า-ออกของเงินยังมีความสมดุลอยู่และระบบที่วางแผนไว้ยังมีความยึดหยุ่นที่จะรองรับเงินทุนเคลื่อนย้ายได้ รวมถึงเงินทุนสำรองยังอยู่ในระดับที่รองรับความต้องการของผู้ลงทุนต่างประเทศ ในระดับที่มั่นคง.
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวยอมรับว่า สถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองขณะนี้ส่งผลกระทบทางด้านการอุปโภคและบริโภค การลงทุนและการท่องเที่ยวในประเทศ ส่งผลต่อคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 56 อาจจะเติบโตต่ำกว่า 3% แต่ตัวเลขประมาณการดังกล่าวยังไม่ได้รวมยอดตัวเลขของไตรมาส 4/56 และยังหวังว่าการท่องเที่ยวจะเข้ามาช่วยหนุน GDP ให้เติบโตได้ แม้ว่าภาคการท่องเที่ยวอาจจะมีการเติบโตไม่มากเท่าที่คาดการณ์ไว้
ด้านสินเชื่อที่ทั้งปี 56 คาดว่าจะขยายตัวชะลอลงมาที่ 9% จากไตรมาส 3/56 อยู่ที่ 12% แต่หากเปรียบเทียบกับภาพรวมการเติบโตทางเศรษฐกิจก็ถือว่ายังอยู่ในระดับปกติ และคาดว่าปีหน้าจีดีพีจะเติบโต 4% ซึ่งหากบวกกับเงินเฟ้อ 2% จะทำให้สินเชื่อในปีหน้าเติบโตได้ราว 6-7% ถือว่ามีความสมเหตุสมผล
นายประสารเห็นว่าทางออกทางการเมือง ทั้งสองฝ่ายควรหาทางออกร่วมกันในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง และควรหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ทุกฝ่ายได้พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเห็นว่าแม้มีความคิดเห็นแตกต่างกันและควรมีการเจรจาร่วมกันเพื่อหาข้อยุติในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
"มีหลายสถาบันออกมาแสดงความคิดเห็นตัวว่าจะเป็นคนกลาง ที่จะช่วยประสานคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น เห็นว่าควรให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ซึ่งข้อเสนอของทุกฝ่ายเป็นข้อเสนอที่ดี มองว่าท้ายที่สุดแล้วทุกฝ่ายไม่ได้ต้องการอยากได้ข้อเสนอของตัวเองครบทุกสิ่ง" นายประสารกล่าว
ทั้งนี้ ไม่รู้สึกกังวลหากสถานการณ์การเมืองยังคงรุนแรงต่อเนื่องไปถึงปี 57 ว่าจะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุน ซึ่งการไหลเข้า-ออกของเงินยังมีความสมดุลอยู่และระบบที่วางแผนไว้ยังมีความยึดหยุ่นที่จะรองรับเงินทุนเคลื่อนย้ายได้ รวมถึงเงินทุนสำรองยังอยู่ในระดับที่รองรับความต้องการของผู้ลงทุนต่างประเทศ ในระดับที่มั่นคง.