xs
xsm
sm
md
lg

“เพื่อแม้ว” ยกหาง “ปู” กล้าหาญยุบสภา เหน็บ “สภาประชาชน” มีแต่คอมมิวนิสต์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (ภาพจากแฟ้ม)
เพื่อไทยออกแถลงการณ์ยกหางรักษาการนายกฯ โวตัดสินใจกล้าหาญยุบสภา อ้างไม่อยากบานปลาย เหน็บ “สุเทพ” มือเปื้อนเลือด จี้ม็อบยุติและไปลงเลือกตั้ง แหลไม่เลิกอ้างยึดหลักรัฐธรรมนูญ ท้า ปชป. อย่ากลัวการเลือกตั้ง “อภิวันท์” อ้างสภาประชาชนมีแต่ประเทศคอมมิวนิสต์ อยากได้ประชาธิปไตยต้องเลือกเพื่อแม้ว “จาตุรนต์” ย้ำ ครม. ยังต้องรักษาการต่อ

วันนี้ (9 ธ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 13.30 น. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย กรรมการยุทธศาสตร์พรรค ตลอดจนแกนนำพรรคร่วมกันแถลงข่าวแสดงจุดยืนพรรคเพื่อไทย โดยนายจารุพงศ์อ่านแถลงการณ์พรรคเพื่อไทยว่า ตามที่การชุมนุมคัดค้านรัฐบาลได้ดำเนินมากว่า 1 เดือน และการชุมนุมที่ตอนแรกสงบ แต่ต่อมามีการใช้ความรุนแรง ปิดถนน ยึดสถานที่ราชการ ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ข่มขู่สื่อมวลชน และแม้ว่านายกรัฐมนตรี จะเปิดพื้นที่ในการพูดคุยกัน และเสนอลาออกหรือยุบสภา แต่ฝ่ายผู้ชุมนุมก็ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว และพรรคการเมืองฝ่ายค้าน พรรคหนึ่งก็ได้มีมติให้ ส.ส.ลาออกทั้งหมด และประกาศว่าจะไปร่วมต่อต้านรัฐบาลกับม็อบที่อดีตสมาชิกพรรคนี้ได้ไปก่อตั้งล่วงหน้าไว้แล้ว และต่อมานายกรัฐมนตรี ก็ได้ประกาศยุบสภาในวันนี้ เพื่อคืนอำนาจการกำหนดอนาคตของประเทศผ่านการเลือกตั้งให้แก่คนไทยทั้งประเทศ

พรรคเพื่อไทยขอแถลงว่า 1. พรรคเพื่อไทยสนับสนุนการตัดสินใจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าเป็นการตัดสินใจทางการเมืองที่กล้าหาญ และมีความรับผิดชอบ เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้งและหาทางออกทางการเมือง และแสดงให้เห็นถึงการเคารพการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ให้เป็นผู้กำหนดอนาคตของประเทศ และเลือกพรรคที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศผ่านการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์และเที่ยงธรรมต่อไป

2. พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการชุมนุมทางการเมืองนั้นสามารถกระทำได้ ถ้าเป็นการชุมนุมที่สงบ สันติ ปราศจากอาวุธ แต่การชุมนุมที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และกลุ่มที่เรียกตนว่า กปปส. และเครือข่ายในครั้งนี้หาเป็นเช่นนั้นไม่ อีกทั้งมีประชาชนกลุ่มอื่นๆ เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก พรรคเพื่อไทยตระหนักดีว่าในปี 2553 การชุมนุมของพี่น้องประชาชน ที่มาเรียกร้องประชาธิปไตย ประชาชนต้องเสียชีวิตถึง 99 คน และบาดเจ็บหลายพันคน ซึ่งยังเป็นบาดแผลที่ฝังลึกในสังคมไทยมาจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นพรรคเพื่อไทยเห็นว่าการตัดสินใจยุบสภาของนายกรัฐมนตรีเพื่อไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย และทำให้คนไทยต้องบาดเจ็บล้มตายดังเช่นในอดีต เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง และหวังว่าพี่น้องชาวไทยจะเข้าใจความจำเป็นในการตัดสินใจยุบสภาในครั้งนี้

นายจารุพงศ์กล่าวว่า 3. พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และกลุ่มต่อต้านรัฐบาล ได้ยุติการประท้วงเพื่อคืนสถานที่ราชการ และถนนหลวง ให้กับข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อใช้ทำงานบริการประชาชน และผ่านสัญจรไปมาโดยสะดวก ทั้งนี้เพื่อคืนความปกติสุขให้แก่พี่น้องคนไทยในเดือนมหามงคลนี้ และ 4. พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์และพรรคการเมืองอื่นๆ ได้ร่วมเสนอนโยบายของพรรคตนในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในกรอบของกฎหมายอย่างเต็มที่ ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศได้ใช้ประกอบการตัดสินใจในวันเลือกตั้ง

“พรรคเพื่อไทยขอกราบเรียนพี่น้องคนไทยว่า พรรคเพื่อไทยยึดมั่นในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมายบ้านเมือง พรรคเพื่อไทยสัญญาที่จะรักษาระบอบประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม ทั้งนี้เพื่อจรรโลงสังคมไทย ให้มีความมั่นคงทางการเมือง มีความสงบสุขทางสังคม และเพื่อให้ประชาชนมีอนาคตที่ดีต่อไป” นางจารุพงศ์ระบุ

นายจารุพงศ์กล่าวอีกว่า ขอเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์เคารพระบอบประชาธิปไตย อย่ากลัวการเลือกตั้งแม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะแพ้เลือกตั้งมาแล้ว 8 ครั้งติดต่อกัน ซึ่งการเลือกตั้งที่จะถึงนี้เป็นครั้งที่ 9 พรรคประชาธิปัตย์อาจจะแพ้อีก แต่ครั้งต่อไปจนถึงครั้งที่ร้อย พรรคประชาธิปัตย์อาจจะมีสักครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์ชนะก็ได้

ด้าน พ.อ.อภิวันท์กล่าวเสริมว่า การที่นายสุเทพระบุให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ลาออกจากนายกฯรักษาการด้วยนั้น รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่สามารถทำได้ และการตั้งสภาประชาชนนั้นไม่มีประเทศในระบอบประชาธิปไตยทำกัน มีแต่ประเทศคอมมิวนิสต์เท่านั้น หากจะทำได้ต้องรัฐประหารอย่างเดียว แต่ผบ.เหล่าทัพยืนยันว่าไม่มีการรัฐประหาร ดังนั้นจะเรียกร้องอะไรต้องดูข้อกฏหมายด้วย วันนี้นายกฯคืนอำนาจให้กับประชาชน หากเห็นด้วยกับแนวทางตั้งสภาประชาชนของนายสุเทพ ก็ให้เลือกพรรคฝั่งนายสุเทพ หากเห็นด้วยกับระบอบประชาธิปไตยที่มีอยู่ก็เลือกพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่าเกรงหรือไม่จะมีการบอยคอตการเลือกตั้ง พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า เชื่อว่าพรรคการเมืองต่างๆ จะไม่บอยคอตการเลือกตั้ง และจะมีการเลือกตั้งทุกพื้นที่ รวมทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ด้วย เพราะพรรคการเมืองต่างๆ มีความเข็มแข็งมากขึ้น มีผู้สมัครเพียงพอตามที่กฎหมายกำหนด

อีกด้านหนึ่ง นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจนว่าเมื่อรัฐบาลยุบสภาแล้ว ความเป็นรัฐมนตรีจะสิ้นสุดลง แต่คณะรัฐมนตรีก็จะต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมี ครม.ใหม่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น การที่จะให้ ครม.ลาออกจึงเป็นไปไม่ได้ ส่วนการจะให้ ครม.หยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ ครม.จะลงมติ และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไปพร้อมๆ กันได้ เพราะเป็นเรื่องของบุคคล

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่เห็นว่าการหยุดปฏิบัติหน้าที่จะเกิดประโยชน์ อีกทั้งยังจะเป็นการจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และจงใจทำให้รัฐธรรมนูญนี้ไม่สามารถใช้บังคับได้ อันจะนำไปสู่การดำเนินการหรือการกระทำที่ไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ และหลักประชาธิปไตย ในระหว่างนี้จึงคิดว่ารัฐมนตรีทุกคนก็จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

นายจาตุรนต์กล่าวต่อว่า ส่วนข้อเสนอที่ให้มีการตั้งสภาประชาชนนั้น ยืนยันว่าทำไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดไว้ การจะตั้งสภาประชาชนได้จะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือฉีกรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นในขณะนี้จึงยังไม่เห็นช่องทางที่จะมีสภาประชาชน และก็ไม่มีใครรู้ด้วยว่าสภาประชาชนจะมีองค์ประกอบ มีที่มา และเป็นประโยชน์อย่างไร อีกทั้งจะใช้อะไรมารองรับและจะนำบ้านเมืองไปสู่การปกครองแบบใด ที่สำคัญจะทำให้นานาชาติประเทศต่างๆ ไม่ยอมรับ และจะส่งผลเสียหายต่อประเทศอย่างมาก

ส่วนข้อเสนอของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ให้ตั้งรัฐบาลรักษาการนั้น เป็นไปไม่ได้ คำว่ารัฐบาลรักษาการจะตั้งมาได้อย่างไรในเมื่อขณะนี้ ครม.ก็ต้องปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งตามความหมายก็เป็นรักษาการ จะให้มาเปลี่ยนรัฐบาลรักษาการนั้นรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดให้ทำได้ และก็ไม่ได้มีกำหนดเรื่องรัฐบาลพระราชทานด้วย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะประธาน ทปอ.เสนอมานั้น เป็นการเสนอโดยไม่อยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญ และไม่อยู่ในหลักประชาธิปไตย เป็นการอ้างข้างๆ คูๆ นี่จึงเป็นความอับจนของวงการอุดมศึกษาของประเทศไทยที่อธิการบดีมหาวิทยาลัย ซึ่งเคยเป็นอดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์เสนออะไรที่ไม่สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย และไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ จึงเป็นเรื่องหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยยังต้องปฏิรูปการศึกษากันอีกมาก


กำลังโหลดความคิดเห็น