xs
xsm
sm
md
lg

“ปฐมพร : พราย” ผู้ชายแก้ผ้า ศาสดาอินดี้/บอน บอระเพ็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์เพลงวาน โดย : บอน บอระเพ็ด(skbon109@hotmail.com)
ไม่ได้มามือเปล่า อัลบั้มแรกของปฐมพร ปฐมพร
“ไม่ได้มามือเปล่า” อัลบั้มชุดแรกสุดของ “ปฐมพร ปฐมพร” ที่ออกมาในปี พ.ศ. 2532 แม้จะเป็นอัลบั้มที่ไม่ได้กลับไปมือเปล่าเสียทีเดียว เพราะมีเพลง “ไม่ได้มามือเปล่า” ให้แฟนเพลงพอคุ้นหูกันบ้าง แต่อัลบั้มนี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จอยู่ดี

อย่างไรก็ตามในชุดนี้ได้มีเพลงเนื้อหาแปลกๆ(ต่างจากเพลงร่วมสมัยในยุคนั้น) อย่าง “ฉันแอบอยู่”, “เกลียดกลางคืน”, “ทรมาน” และ “ปีศาจ” ส่งสัญญาณแปร่งๆออกมาสู่หูผู้ฟัง สะท้อนแนวคิดจากจิตใต้สำนึกของผู้ชายคาดหน้าคนนี้

หลังจากนั้น ปฐมพรหายไปร่วม 2 ปี ก่อนกลับมาอีกครั้งแบบช็อกวงการในปี 2534 กับอัลบั้ม “พราย”
ปกหน้าอัลบั้มพราย
อัลบั้มชุดนี้มีความแปลกใหม่และแปลกประหลาด(สำหรับยุคนั้น)อยู่ไม่น้อย อย่างแรก ชายคาดหน้าคนนี้มาด้วยสโลแกนสแลงใจโดยเขายืนยันว่าตัวเองตายแล้ว!?!

“ปฐมพร ตายเป็น พราย”

นี่ถือเป็นจุดกำเนิดของชื่อใหม่ในวงการเพลงไทยของเขา คือ “พราย” ซึ่งหลังจากนั้นปฐมพรได้ใช้ชื่อนี้โลดแล่นในวงการ (ก่อนที่เขาจะตกผลึกไปสร้างสรรค์ผลงานชั้นเยี่ยม เป็นอัลบั้มคู่ในชุด“เจ้าหญิงแห่งดอกไม้ เจ้าชายแห่งทะเล”ในปี 2536)

ความแปลกอีกอย่างหนึ่งคือ อัลบั้มนี้ที่มีทั้งหมด 11 เพลง มีชื่อเพลงเพียงเพลงเดียวคือเพลง “พราย” ในแทรคที่ 5 ส่วนที่เหลือไม่มีชื่อเพลง ปล่อยให้นักฟังเพลงตีความบทเพลงแล้วไปตั้งชื่อกันเอาเองตามอัธยาศัย

อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นประเด็นให้พูดถึงกันมากคือ พรายได้เปลือยกายถ่ายรูปเป็นภาพปรากฏในปกใน(เทปคาสเซ็ท) ซึ่งเขาให้เหตุผลว่าเนื่องจากเนื้อเพลงในชุดนี้ต้องการสื่อถึงการเกิด การตาย อิสรภาพ การปลดปล่อย ไม่มีสิ่งใดมาพันธนาการ เขาจึงแก้ผ้าถ่ายรูปเพื่อสะท้อนแนวคิดดังกล่าวออกมา

แน่นอนว่างานนี้เขาโดนพวกนักอนุรักษ์นิยมสวดยับ พร้อมกับถูกผลักออกให้เป็นขบถสังคม แต่อีกด้านหนึ่งเขาก็ได้ใจแฟนเพลงอินดี้ไปไม่น้อย
ปกในอัลบั้มพราย(ยุคเป็นซีดี)
อัลบั้มพราย เปิดตัวแทรคแรกกันด้วยเสียงเปียโนเพราะพริ้ง พี่พรายแกร้องแบบพูดระบายความในใจออกมา ด้วยเนื้อร้องที่ขึ้นต้นฟังดูดี แต่ในท่อนต่อๆไปพี่พรายแกอัดแรงและตีตรง พูดถึงพฤติกรรม น้ำใจไมตรีคนไทยที่เปลี่ยนไป “...ดินแดนแห่งรอยยิ้มหมื่นพัน นับวันเปลี่ยนผันไป...” “...มีแต่คนอยากเป็นใหญ่ ไม่มีใครช่วยใคร หรือคนไทยไม่มีน้ำใจเหมือนก่อน...”

นับเป็นการสะท้อนความจริงแห่งยุคสมัย(ซึ่งยุคนี้แย่กว่ายุคนั้นมาก) ที่ฟังแล้วค่อนข้างแสลงใจพวกโลกสวยหรือพวกรับความจริงไม่ได้เป็นจำนวนมาก

แทรค 2 เป็นการเข้าเพลงอย่างจริงจัง ซาวนด์คีย์บอร์ดเล่นลอยละล่องนำมา ในทางเพลงของพวกโพรเกรสซีฟ พรายแสดงตัวตนในแนวคิดขบถต่อสังคมออกมาอย่างชัดเจน เขาร้องบอกเล่าถึงการลาทิ้งต่อโลกอันวุ่นวาย ลาศาสนา ความเชื่อ แล้วปลดปล่อยวิญญาณล่องลอยเป็นอิสระไปสู่ธรรมชาติ ภาคดนตรีมีสีสันดีทีเดียว ค่อยๆเพิ่มดีกรีความเข้มข้นขึ้น กีตาร์โซโลไม่เยอะแต่มัน สำหรับแทรคที่ 2 นี้ ใครจะตั้งชื่อเพลงว่า “ลา” ก็ฟังเหมาะสมดี

แทรคที่ 3 เป็นร็อกมันๆ มี้เสียงคีย์บอร์ดเล่นคลอ เล่นอุ้มไปตลอดทั้งเพลง เพลงนี้ไลน์กีตาร์เด่นมาก ขณะที่ภาคเนื้อหา พรายร้องกระตุ้นเตือนให้คนรุ่นหนุ่มสาวกล้าแสดงออกออกมา กล้าเดินไปตามทางที่ตัวเองคิดฝัน “...เธอมีไฟในใจ เธอมีวัยร่าเริง เธอมีชีวิตชีวา เธอมีหนทางข้างหน้าให้เลือกว่าไปทางไหน คิดเอง บรรเลงเพลง เพลงชีวิตด้วยตัวของตัวเอง...”

แทรคที่ 4 เพลงนี้เป็นดังคีย์เวิร์ดของอัลบั้ม พรายระบายความรู้สึกต่างๆออกมา ด่าพวกเผด็จการ พวกบ้ากาม พวกกดขี่ทางเพศ ซาวนด์เพลงออกหลอนนิดๆ ท่อนกลางพรายระเบิดอารมณ์แหกปากตะโกน หัวเราะ อย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่เขาจะแหกปากตะโกนท่อนคีย์เวิร์ดออกมาว่า “...หัวจิตมันตายไม่มีรักใครหล่อเลี้ยงไว้ จึงมัดความเดียวดายไว้กับตัวเป็นพราย...”

แทรคที่ 5 “พราย” เป็นเพลงเดียวในอัลบั้มที่มีชื่อเพลง เพลงนี้เป็นเพลงรักที่บอกเล่าความรักอันยิ่งใหญ่ของพราย พร้อมกับพูดถึงความอึดอัดจากความคิดถึงเธอจนแทบคลั่งจากพลังที่มีอยู่อย่างล้นเหลือ

ผมฟังเพลงที่ 4 กับเพลงที่ 5 แล้วก็รู้สึกฉงนว่า เพลงที่ 4 นั้นน่าที่จะชื่อ เพลง “พราย”มากกว่า เพราะได้เผยแนวคิดหลักของความเป็นพรายออกมาอย่างชัดเจน ส่วนเพลงที่ 5 มันออกแนวพวกบ้ารัก บ้าพลังมากกว่า

แทรคที่ 6 เป็นป็อบร็อกเพราะๆ ฟังแล้วโดน ภาคดนตรีเยี่ยม เนื้อหาดี มุ่งเน้นการให้ความหวังกำลังใจ ที่แม้เธอจะท้อแท้ สิ้นหวัง สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ให้จำไว้ว่ายังมีเพื่อนรัก ซึ่งก็ทำให้ใครหลายๆคนเรียกเพลงน่าเพลง “เพื่อนรัก”

พรายแม้จะได้ชื่อว่าเป็นคนมองโลกในแง่ลบ แง่ร้าย แต่เพลงนี้กลับนำเสนอเนื้อหาด้านบวกออกมาได้อย่างดีทีเดียว
ปกหลังอัลบั้มพราย กับบทเพลงไม่มีชื่อยกเว้นเพลงพราย
แทรคที่ 7 กลับไปหม่นเศร้ากับโลกอันโหดร้ายกันต่อ กับบทเพลงที่ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กกำพร้าที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้งจนเกิดเป็นปมในใจ ภาคดนตรีเพลงนี้ช่วงแรกเล่นซาวนด์ลอยๆหนาแน่นไปด้วยเสียงคีย์บอร์ด จากนั้นค่อยๆเพิ่มดีกรีด้วยกีตาร์กระชากคอร์ดเสียงแตกๆ ตามด้วยการอัดเบสกลองใส่มา แล้วไปกระหน่ำกันแบบจัดเต็มในช่วงหลังให้พรายระเบิดอารมณ์แหกปากตะโกนย้ำคำว่า “ไม่ใช่คน” อย่างสะใจ ก่อนจะดึงอารมณ์กลับมาสู่ความหม่นมัวอีกครั้ง เพลงนี้ฟังแล้วเหมาะกับชื่อเพลง “ไม่ใช่คน” มาก

แทรคที่ 8 ร็อกมันๆอัดแน่นไปด้วยซาวนด์อิเล็คทรอนิกส์ เนื้อเพลงว่าด้วยชีวิตบัดซบที่พี่พรายแก้ร้องแบบคนเก็บกดระบายอารมณ์ได้มันมาก แถมมีคำสบถด่าปลิวว่อนทั้ง บัดซบ ระยำ เสือก ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พรายถูกพวกนักอนุรักษ์นิยมโจมตี

แทรคที่ 9 บทเพลงของคนนอนไม่หลับ มันเลยอึดอัดหงุดหงิด คิดถึงเธอ ขาดคนรู้ใจข้างกาย ว้าวุ่น วุ่นวาย ที่สำคัญดันกลัวผีอีกต่างหาก เพลงนี้บางคนเรียกเพลง “นอนไม่หลับ” บางคนก็เรียกเพลง “กลัวผี”

แทรคที่ 10 เป็นอีกหนึ่งบทเพลงสร้างสรรค์มีการพยายามนำดนตรีไทยอย่างเปิงมานมาผสมกับดนตรีร็อก แถมท่อนเนื้อร้องก็นำลีลาการร้องแบบโขน ในตัวบทของยักษ์มานำเสนอ เล่าเรื่องราวของยักษ์ ที่อดรนทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของมนุษย์ขี้เหม็น โดยเฉพาะกับเรื่องของการเคารพบูชาเงินทองอย่างไม่ลืมหูลืมตา บางคนขายตัวเองได้เพื่อเงินทอง

เพลงนี้พี่พรายเราจัดหนักอีกแล้ว แต่เนื้อหากับดนตรีเยี่ยมครับ การสร้างสรรค์ก็เยี่ยมนำความเป็นไทยมาใส่ผสมลงไปได้อย่างน่าฟัง ทั้งท่อนร้องโขน ท่อนโซโลเปิงมาน นับเป็นอีกหนึ่งเพลงยอดเยี่ยมของอัลบั้ม ซึ่งบางคนตั้งชื่อเพลงนี้ว่า เพลง “ยักษ์” หรือไม่ก็ “ยักษ์ร้องทุกข์”

แทรคสุดท้าย จบกันด้วยบทเพลงให้กำลังใจ ให้เข้มแข็งกล้าต่อสู้ต่ออุปสรรค พี่พรายร้องเพลงนี้แบบคนเก็บกดให้กำลังใจผองเพื่อนได้น่าฟังมาก มีการใช้ภาษาสวยๆอย่าง “ฟ้ามืดจึงเห็นดาวสวย”, “ฝันยังอยู่กับเธอทุกเสียงถอนหายใจ” นับเป็นอีกหนึ่งเพลงมองโลกในแง่บวกของพรายที่หาฟังกันไม่ได้ง่ายๆ

และนั่นก็เป็น 11 บทเพลงจากอัลบั้มพราย ที่มีเนื้อหลากหลาย มีทั้งการมองโลกด้านบวกและลบ นำเรื่องราวในซอกหลืบอันน่ารันทดของสังคมไทยมาตีแผ่ มีการใช้ภาษาที่สวยงามในบางเพลง ส่วนบางเพลงพี่พรายเล่นอัดคำหยาบ คำสบถ ใส่มาแบบจัดเต็ม แต่ก็เป็นการใช้คำหยาบได้สอดรับกับอารมณ์เพลง(แต่อาจจะแสลงใจใครบางคน) อย่างไรก็ดีหากจะบอกว่านี่เป็นคอนเซ็ปต์อัลบั้ม(อย่างที่ใครบางคนมอง)สำหรับผมแล้วยังไม่ถึง เพราะความต่อเนื่องของเนื้อหายังไม่ประติดประต่อ

ขณะที่ภาคดนตรีโดยรวมเป็นป็อบ ร็อก หลายเพลงในซาวนด์อิเล็กทรอนิกส์ ซาวนด์คีย์บอร์ดหนาๆมาเป็นตัวเดินเรื่องทางของพวกโพรเกรสซีฟ บางเพลงมีเมโลดี้สวย ส่วนที่เป็นข้อด้อยก็คือ ซาวนด์ที่ฟังสับสนในบางเพลง ระบบการบันทึกเสียงที่ยังฟังบางเบาไปหน่อย โดยเฉพาะกับเพลงร็อกมันๆที่ควรเข้มหนักกว่านี้

สำหรับผมแล้วอัลบั้มพราย แม้จะไม่ใช่อัลบั้มยอดเยี่ยม แต่ก็เป็นงานเพลงชั้นดีที่น่าสนใจ มีการสร้างสรรค์ มีความแปลกใหม่ ผสมความแปลก(ประหลาด)จากตัวนักร้อง นับเป็นอัลบั้มแจ้งเกิดของพราย ปฐมพร เป็นผลงานเพลงทางเลือกใหม่ที่มีความโดดเด่นชุดหนึ่งในยุคนั้น และอยู่ยั้งยืนยงมาจนถึงทุกวันนี้

นอกจากนี้อัลบั้มพราย ยังหนุนส่งให้พราย ปฐมพร เดินหน้าขึ้นชั้นสู่ศิลปินอินดี้ในอันดับต้นๆของบ้านเรา

ถึงขนาดบางคนยกให้เป็นศาสดาเลยทีเดียว!?!
กำลังโหลดความคิดเห็น