“นิหน่า” แถลงคลอดลูกชายคนแรกน้อง “แพทริก” รับเห่อทั้งพ่อทั้งแม่ ด้าน “แบงค์” เผย ความรู้สึกมีลูกเองแล้ว รู้สึกถึงความเหนื่อยยากของพ่อแม่ที่เลี้ยงตนมา ส่วนอนาคตลูกวางไว้อยากให้เรียนโรงเรียนที่ได้ภาษาไทยก่อน แพลนอีก 3 ปี เปิดอู่คน 2 คราวนี้ขอเป็นผู้หญิง
ได้กำหนดผ่าคลอดลูกชายคนแรกในวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา สำหรับผู้ประกาศข่าวสาว “นิหน่า สฐิตา ปัญญายงค์” วันนี้ (24 ส.ค.) คุณแม่ป้ายแดงก็เลยถือโอกาสควงสามีสุดที่รัก “แบงค์ พชร” เปิดแถลงข่าวที่ รพ.สมิติเวช พร้อมเผยให้ยลโฉมลูกชาย “ด.ช.แพทริก พชฎ ปัญญายงค์” ซึ่งชื่อจริงแปลว่าพลังแห่งโชค มีน้ำหนักแรกเกิด 3,110 กรัม โดยทั้งคู่ได้เผยถึงวินาทีที่เห็นหน้าลูกครั้งแรกว่า เป็นความรู้สึกที่พิเศษจริงๆ
นิหน่า “วินาทีที่เห็นหน้าน้อง ต้องบอกว่าก่อนหน้านี้เราจะเห็นในมุมข้างตลอด คุณหมอเขาก็จะกลับมาให้ดูว่าหน้าตาเป็นยังไง เพราะเขานอนหงายตลอด ขยับไม่ได้ นิหน่าก็บอกว่าเอามาให้ดูบ้างสิ แต่แบงค์นี่เขาไปแล้ว ลูกออกมาปุ๊บเขาตามไปที่อาบน้ำเลย เราก็ไหนๆๆ อยากจะเห็น พอเขาอาบน้ำเสร็จแล้วเอามาให้ดู มันแบบว่าไม่รู้สึกอะไร มันรู้สึกแปลกๆ มันคือคน 2 คนแปลกหน้าที่อยู่ด้วยกันมา 9 เดือน แต่พอออกมาเราได้เห็นหน้าเขา เราก็รักกันเลย มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษ”
แบงค์ “หมอยังไม่ทันลงมีดเลยครับ จะลงมีดแล้วนิหน่าน้ำตามาล่ะ”
นิหน่า “ไม่ใช่ว่าเรากลัวนะ แต่เรารู้สึกว่าต่อจากนี้ไปชีวิตเรากำลังจะเปลี่ยนแล้วนะ มีหน้าที่ใหญ่อีกหน้าที่นึงกำลังจะเกิดขึ้นกับเรา”
แบงค์ “เห็นลูกครั้งแรกน้ำตาคลอเบ้า เราก็ยกเขาไปวางไว้บนเตียง พอเรียกแพทปุ๊บเขาก็ลืมตา น้ำตาที่จะไหลมันก็เลยไม่ไหล เขาก็มองมา คุณหมอก็ยกมาให้อุ้ม ก็เลยได้อุ้มก่อนคุณแม่เขา ผมเองก็ฝึกอุ้มมาตลอดก่อนหน้านี้อยู่แล้ว”
นิหน่า “แบงค์นี่อุ้มคล่องอย่างกะมีลูกมาแล้วคนนึงเลย คือ ก่อนหน้าที่จะคลอด เขาก็มาฝึกอบรม เขาจะตั้งอกตั้งใจอุ้มตุ๊กตาอย่างดี พอเจอของจริงเขาก็คล่องมาก ก็สบายใจที่จะมีคนช่วยเลี้ยง ยาวแล้ว 2 วันในหน้าที่พ่อแม่ของเรา ต้องบอกว่าเราค่อนข้างโชคดีที่คุณหมออนุญาตให้เอาลูกมาอยู่กับเราตลอด”
“ถ้าทำได้ ถ้าไม่ลำบากจนเกินไป เพื่อกลับบ้านไปจะได้ไม่ต้องไปตีกันที่บ้าน พอเราเดินได้หน่อยก็เลยเอาลูกมาอยู่กับเรา คุณพ่อเขาจะไม่มีการเรียกพยาบาลมาช่วยเลยนะ เขาจะเปลี่ยนผ้าอ้อมเอง เราก็เอาเลยเหรอ วันนี้เลยเหรอ เขาก็บอกว่าเปลี่ยนเองเลย ไม่ยาก ก็เอาเขามาเลี้ยง พอเขาร้องก็เหมือนค่อยๆ เรียนรู้กันไป เขาหิวนมเราก็ให้นมเขาทาน”
แบงค์ “คือ ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่การพัฒนาของสมองจะเจริญเติบโตเร็วสุด คุณหมอก็เลยอยากจะให้ลูกอยู่ใกล้ๆ อยากให้เขาเห็นเรายิ้ม เพราะเสียงเขาจะจำได้อยู่แล้ว แต่เขาจะยังเห็นหน้าไม่ค่อยชัด ก็เลยอยากจะให้เขาอยู่ใกล้ๆ เราตลอด ก็ทำทุกอย่างเองหมดเลยครับ เปลี่ยนผ้าอ้อม อาบน้ำลูก สระผมลูก ช่วยเขาพลิกตัว”
เผยครอบครัวซื้อทองและแหล่งลงทุนเก็บเป็นขวัญถุงรับขวัญหลานชาย บอกมีลูกเองแล้วรู้สึกถึงความเหนื่อยยากของพ่อแม่ที่เลี้ยงตนมา
นิหน่า “คุณปู่คุณย่ามาก็จะบอกว่าหน้าเหมือนแบงค์มากเลย พอคุณตาคุณยายมากก็จะบอกว่าหน้าเหมือนนิหน่ามากเลย เราก็บอกไม่เป็นไรไม่ต้องตีกันได้ทุกคน ก็ดีค่ะที่หน้าเหมือนเราทั้ง 2 คน ของรับขวัญหลานส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของการลงทุนตามความเชื่อของผู้ใหญ่ เขาก็จะซื้อพวกทอง ผูกข้อไม้ข้อมือ แล้วก็เป็นเรื่องของการลงทุนในอนาคตมากกว่า พันธบัตร ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ มันเป็นเรื่องของอนาคต”
“เข้าใจเลยว่า พอมีลูกคนนึงชีวิตเราเปลี่ยนอย่างเต็มที่ เมื่อก่อนเราจะคิดถึงแต่ตัวเองเป็นหลัก ต่อให้เราแต่งงานมีครอบครัวมันก็ยังเป็นเรื่องของฉันและของเธอ และของเราอยู่ดี แต่พอมีลูกคนนึงทุกอย่างมันเหมือนไปที่ลูกหมดเลย อนาคตที่เราเคยวางว่าอยากจะช็อปปิ้งทำนั่นทำนี่ก็จะเปลี่ยนเป็นเราเก็บไว้ให้ลูกดีกว่าไหม พอมีลูกแล้วความเป็นครอบครัวมันเพิ่มสูงขึ้น เราสัมผัสได้เลยว่ามันเติมเต็ม”
แบงค์ “ที่ผ่านมา เราไม่เคยรู้สึกอะไรถึงความเป็นครอบครัวกับใครที่เลี้ยงเรามา แต่พอเรามาเห็นเขาผมคิดถึงพ่อถึงแม่ผมว่า กว่าจะมาเป็นผมได้ เขาต้องเหนื่อยยากกันขนาดไหน”
นิหน่า “เหมือนกับแบงค์เลยค่ะ เห็นหน้าพ่อหน้าแม่แล้วน้ำตาจะไหล รู้สึกว่ากว่าจะเป็นเรานี่มันเหนื่อยนะ ก่อนมีลูกมีคนเคยบอกว่า มีลูกเหมือนเอาหัวใจมาวิ่งอยู่ข้างนอก มันใช่เลย มองหน้าเขาแล้วเราแอบกังวลไปหมดว่าเขาโตมาจะเป็นยังไง เขาจะแข็งแรงโอเคไหม จะเลี้ยงเขายังไง”
ลั่นยังทำงานอยู่ไม่คิดทิ้งการอ่านข่าวไปไหน ด้านหนุ่ม “แบงค์” สุดภูมิใจในความเป็นชายชองลูกหลังหมอชี้อวัยวะเพศใหญ่เอาเรื่อง
นิหน่า “ก็ต้องแบ่งเวลา โชคดีที่นิหน่าทำงานทุกวันก็จริง แต่ทำแค่ไม่กี่ชั่วโมง ก็คงต้องจัดสรรเวลา ก็คงจะทำอยู่ หยุดไม่ได้หรอกค่ะ เป็นพวกไฮเปอร์ นี่อยู่บนเตียงวันนึงแทบจะขาดใจ ก็คงทำงานต่อ เดี๋ยววันอาทิตย์ก็จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว จะกลับไปทำงานอีกทีต้นเดือนพฤศจิกายน”
แบงค์ “กลับไปก็ไปอยู่บ้านใหม่ที่เพิ่งสร้างครับ พี่เลี้ยงอะไรเราก็เตรียมไว้แล้ว”
นิหน่า “คนต่อไปก็คงพักก่อนนะ อีกสัก 2-3 ปี ให้น้องแพทเขาโตเข้าอนุบาลก่อนเพื่อที่เขาจะได้ไม่รู้สึกว่าโดนหมางเมิน”
แบงค์ “อย่างมากก็อีกคนนึงครับ หวังว่า จะเป็นน้องสาวให้กับเจ้าแพทได้ แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร ส่วนชื่อน้องเนี่ยตั้งมาก่อนหน้านี้นานมาก พอรู้ว่าตั้งครรภ์ นิหน่าก็จะไปเสิร์ชว่าชื่อไหนที่เหมาะสม ผมก็เสนอไปว่าเอาชื่อของเรา 2 คนไหมมาผสมกัน มันก็ยาวไป แล้วเขาก็ไปได้ชื่อพชฎก็แวบเข้ามา”
นิหน่า “ก็แปลว่า พลังแห่งโชค บอกไปทุกคนก็แฮปปี้ ส่วนชื่อแพทนี่เป็นชื่อของแบงค์สมัยที่ไปเรียนต่างประเทศ เราก็เลยเอามาใช้ แล้วพอเขาเป็นคาทอลิค ก็เลยอยากให้เขามีชื่อด้วยก็เลยเป็นแพทริก บางคนก็จะเข้าใจว่าชื่อแพทริกรึเปล่า ชื่อฝรั่งเชียว แต่จริงๆ แพทริกเป็นชื่อสกุลของเขา ที่เรียกกันจริงก็คือน้องแพท”
แบงค์ “ผมภูมิใจในความเป็นชายของลูกชายคนนี้มากครับ ออกมานี่ใหญ่กว่านิ้วชี้ผมอีก(หัวเราะ) ออกมาถามคุณหมอก็ตกใจ ผมก็ถามว่าทุกอย่างปกติใช่ไหมครับ หมอบอกว่าปกติ ช่วงล่างเป็นอย่างนี้ ก็ยังแย็บถามอีกว่าปกติใช่ไหม หมอก็บอกว่าก็ค่อนข้างจะเหนือกว่าปกติอยู่ ก็เลยคุยกับเพื่อนสนิทก็สนุกๆ กัน”
รับเห่อลูกชายมาก ปลื้มสามีหนุ่ม “แบงค์” ทำหน้าที่พ่อได้ดีจนน่าแปลกใจ ส่วนอนาคตของลูกวางไว้อยากให้เรียนโรงเรียนที่ได้ภาษาไทยก่อนอันดับแรก
นิหน่า “ยอมรับอย่างหน้าไม่อายเลยว่าหลงลูกมาก เคยคิดว่าพอกลับไปทำงานก็คงไม่เป็นอะไรเดี๋ยวแวบไปนั่นไม่นี้ แต่ตอนนี้กำลังมานั่งคิดแล้วว่าจะทำได้จริงๆ เหรอ รุ่นพี่ก็บอกว่าออกมาจะไม่อยากไปไหนเลย อยากจะอยู่แต่กับลูก ตอนนี้เราก็เข้าสมาคมนั้นไปเรียบร้อยแล้ว แค่เขาอยู่ในห้องเนอร์สเซอรี่ของเขาแล้วเราอยู่ในห้องของเรา เราก็มีอาการแล้ว เราก็จะไปเอาเขามาอยู่กับเราแล้ว คุณพ่อนี่ยิ่งกว่า คือไม่เคยเห็นแบงค์เวอร์ชั่นนี้จริงๆ ชอบเวอร์ชั่นนี้ของแบงค์มาก”
แบงค์ “หลายคนที่มีประสบการณ์เลี้ยงลูก จะบอกว่าลูกเราเลี้ยงง่ายมาก จะเล่นกล้อง ใครขอถ่ายรูปก็หมุนให้ถ่าย มองกล้อง จะร้องเมื่อหิวเท่านั้น ให้นมก็หยุด ตื่นมาก็จะมองหน้าเรา 2 คน ก็ถือว่าเป็นเด็กเลี้ยงง่าย”
นิหน่า “อนาคตลูกเราก็มีคุยกันไว้บ้าง ตอนนี้ยังมองแค่ในเรื่องของโรงเรียน หลักสำคัญอยากให้เขาได้ภาษาไทยด้วย ได้ภาษาไทยก่อน ที่จะไปเรียนภาษาอื่นๆ ตอนนี้คนอาจจะมองว่าภาษาอื่นสำคัญ แต่เราอยากให้เขาได้ภาษาไทยอันดับแรก ภาษาอื่นค่อยมาเสริมทีหลัง เราก็เห็นตรงกัน อยากให้เขาโตมารู้จักผันอักษรสูงกลางต่ำ แล้วค่อยไปต่ออะไรที่เขาอยากที่จะเรียน”