xs
xsm
sm
md
lg

น้ำมนต์แม่

เผยแพร่:   โดย: ชัยพันธุ์ ประภาสะวัต

แม้ว่าจะผ่านวันแม่ไปแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าความสำคัญของแม่จะหมดลงแค่วันที่ 12 สิงหาคมเท่านั้น ถ้าใครที่แม่ยังอยู่ก็ให้รู้ไว้ว่าแม่ให้ความสำคัญกับลูกทุกวัน สิ่งหนึ่งที่อยากท้วงติงในการคัดเลือกแม่ตัวอย่างในแต่ละปี มักทำเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เท่านั้น เลือกเอาแต่แม่ดารา แม่คนดัง เพื่อทำข่าว แม่ที่กวาดถนน แม่ที่ร้อยพวงมาลัย หรือแม่ที่ทำไร่ทำนามาชั่วชีวิต แม้ไม่ได้มีการศึกษามากมาย แต่แม่เหล่านี้หลายคนส่งเสียลูกให้เรียนจนจบปริญญา บางคนจบปริญญาเอกด้วยซ้ำไป แต่ไม่ได้รับการยกย่อง เพียงเพราะลูกไม่ใช่คนดัง

ผมมีโอกาสได้ไปดูพิพิธภัณฑ์สงครามที่กรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม ห้องแม่ของเขาเต็มไปด้วยรูปแม่ที่ยอมเสียสละลูกของตนเองเพื่อชาติ แม่บางรายต้องสูญเสียทั้งสามีและลูกถึง 5 คน กว่าประเทศของเขาจะได้อิสรภาพคืนมา ไม่มีความเสียสละใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าแม่ผู้ยอมเสียสละเลือดเนื้อเชื้อไขของตนคนแล้วคนเล่า เพื่อมาตุภูมิอันเป็นที่รักของเขา และลูกทุกคนเต็มใจและยอมสละชีวิตเพื่อแผ่นดินเกิด เพื่อให้แม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อลิ้มรสแห่งเสรีภาพ

ผมยืนดูภาพของแม่เหล่านั้นทีละภาพด้วยความเคารพและยกย่อง ในขณะที่น้ำตาคลอเบ้าเมื่อนึกถึงบ้านตัวเอง คนไทยทุกวันนี้เย็นชาต่อแผ่นดินเกิดของตนเอง ลูกไม่ใส่ใจแม่ แม่ก็ไม่ได้สั่งสอนให้ลูกรักในแผ่นดินเกิด เรากำลังเสียแผ่นดิน 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบเขาพระวิหาร และอีกนับล้านไร่ตลอดแนวชายแดนเขมร เรื่องนี้พูดกันมาเป็นปี แต่ไม่มีคนสนใจ เอาแต่ความสบายของตัวเอง โดยไม่สนใจว่าเหตุการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร เห็นเป็นเรื่องไกลตัว ธุระไม่ใช่ มีชีวิตอยู่เพียงเพราะยังหายใจได้ เพื่อหาเงินไปวันๆ หากทุกคนมีความคิดเช่นนี้ อนาคตลูกหลานของเราจะอยู่กันอย่างไร

เมื่อตอนยังเด็ก ผมเคยน้อยใจแม่ที่ส่งมาเรียนหนังสือที่ฝั่งธนบุรี ต้องอาศัยอยู่กับคุณปู่คุณย่าตั้งแต่ชั้นอนุบาล ร้องไห้คิดถึงแม่ทุกครั้งที่ถูกปู่ตี เพราะนอนดิ้นผ้าห่มหลุด จนโตแล้วจึงมารู้ว่าสาเหตุที่พ่อแม่ส่งมาเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ เพราะที่บ้านนอก อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ไม่มีโรงเรียนดีๆ ผมได้เรียนโรงเรียนอำนวยศิลปะธนบุรี โรงเรียนสวนกุหลาบ โรงเรียนช่างศิลป์ จนได้เข้ามหาวิทยาลัยศิลปากร ก็เพราะรากฐานที่พ่อแม่วางไว้ให้เรา

พ.ต.ท.หลวงชำนาญนรานุรักษ์ (พร้อง ประภาสะวัต) คุณปู่ของผมเป็นนายตำรวจมือปราบรุ่นเก่า ดุมาก ท่านจะมีแซ่หนังกระเบนแช่เยี่ยวเอาไว้โบยตำรวจนอกคอกให้หลาบจำ (คนถูกโบยจะแสบมากเพราะความเค็มของเยี่ยว) ด้วยความที่ท่านเป็นคนซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ไม่ยอมรับสินบนใดๆ บั้นปลายชีวิตท่านก็เป็นเพียงนายตำรวจจนๆ อยู่บ้านสวนฝั่งธนฯ แต่ก็มีความภาคภูมิใจที่ได้รับใช้บ้านเมืองมาชั่วชีวิตด้วยความสุจริต

ท่านฝึกให้หลานๆ รู้จักอดทน รับผิดชอบตัวเอง การอ่านหนังสือพิมพ์ให้ปู่ฟังในทุกวันหยุด (เพราะคุณปู่ตาเป็นต้อมองไม่ค่อยเห็น) การฟังวิทยุและข่าวจากกรมประชาสัมพันธ์ทุกวัน มันหล่อหลอมให้เราซึมซับเรื่องราวทางการเมืองมาโดยไม่รู้ตัว

ส่วนคุณตาของผม รองอำมาตย์เอกขุนนรพัฒน์พิศาล (พริ้ง ประภาสะวัต) ท่านเป็นนายอำเภอหนองเสือ จ.ปทุมธานี เมื่อเข้ามาเป็นมหาดเล็กรักษาพระองค์ในพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 จึงได้รับพระราชทานนามสกุล และทำให้ผมต้องเลือกข้างมาอยู่ฝ่ายอำมาตย์ โดยไม่ยอมเป็นพวกไพร่ แม้จะทำให้รวยได้สบายๆ

คุณปู่กับคุณตาเป็นพี่น้องคลานตามกันมา แต่กลับให้พ่อแม่แต่งงานกัน ตอนโตจึงมารู้ทีหลังว่าแม่เป็นลูกคนจีนที่มารับจ้างขุดคลองรังสิต คุณตาคุณยายไม่มีลูกจึงขอมาเลี้ยง

แต่เดิมตอนยังเด็กผมไม่ค่อยชอบคนจีน เพราะรู้สึกอคติว่าคนจีนเข้ามาแย่งอาชีพคนไทย ประกอบกับไม่ชอบลักษณะนิสัยของคนจีนยุคเก่าที่ชอบขากถุยเป็นที่น่ารังเกียจ ตรุษจีนทีไรเหลือลูกคนไทยในห้องเรียนอยู่ไม่กี่คน แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นความจริงว่ากูก็ลูกเจ๊กลูกจีนกับเขาเหมือนกัน

ปู่ ตา พ่อเป็นคนไทย ย่าเป็นลาวโซ่ง ยายเป็นมอญ แม่เป็นจีน จนไม่รู้ว่าจะเรียกตัวเองเป็นชนเผ่าไหน นี่เป็นเหตุให้ผมเข้าใจในเรื่องของชนเผ่าและชาติพันธุ์ ประเทศไทยไม่ได้รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทยเท่านั้น แต่ผสมปนเปกันหลายเผ่าพันธุ์จนแยกกันไม่ออก หาคนไทยแท้โดยสายเลือดแทบไม่มี และอีกไม่ช้าเราก็คงปฏิเสธไม่ได้และต้องยอมรับพม่า ลาว เขมร รวมเข้าเป็นคนไทยด้วยเช่นกัน

แม่ของผมเคารพรักในบรรพบุรุษทั้งไทยและจีน และสอนให้ลูกรู้จักกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด ส่วนคนบางตระกูลโคตรเหง้าก็มาอาศัยแผ่นดินไทยหากินจนร่ำรวย แต่กลับอกตัญญูต่อแผ่นดินแม่ ตอบแทนด้วยการทำร้ายมาตุภูมิของตัวเอง จาบจ้วงสถาบันจนเกินที่จะอภัย ทำให้คนในชาติแตกแยกอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

หลายคนมานึกถึงแม่เอาเมื่อวันที่ไม่มีท่านแล้ว แต่อีกหลายๆ คนยังโชคดีที่แม่ยังอยู่ให้เรามีโอกาสทดแทนพระคุณ กราบไหว้และบูชา โดยไม่จำเป็นจะต้องไปแสวงหาเกจิอาจารย์สำนักไหนเพื่อทำบุญให้ได้ขึ้นสวรรค์ พ่อแม่ของเรานี่แหละคืออรหันต์ของลูก ปรนนิบัติท่านเสียแต่วันนี้ ทำความดีให้ท่านภูมิใจ อย่าให้พ่อแม่ต้องน้ำตาตกเพราะเรา ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี และสิ่งที่เราทำให้พ่อแม่ก็จะตกทอดไปถึงลูกหลานของเราด้วย

ผมเคยได้รับคำบอกเล่าจากทหารผ่านศึกท่านหนึ่งที่ผ่านสมรภูมิรบมาอย่างโชกโชน เขารอดตายกลับมาได้ทุกครั้ง โดยไม่ได้พกเครื่องรางของขลังใดๆ เลย มีเพียงเศษผ้าถุงของแม่ใส่กรอบพลาสติกแขวนคอไว้เท่านั้น ในขณะที่เพื่อนหลายคนพกเครื่องรางเต็มคอไม่มีโอกาสได้กลับมาด้วย

วันแม่ปีนี้ผมได้ชวนน้องๆ มาช่วยกันล้างเท้าให้แม่ และนั่นแหละคือน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่ให้เราเอามาประพรมเป็นมงคลแก่ชีวิต พร้อมทั้งขอขมาแม่ที่ได้ล่วงเกินท่านด้วยกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ขอให้แม่อโหสิกรรมให้เรา และแม่ก็ให้อภัยกับลูกทุกคน

ได้น้ำมนต์วิเศษจากแม่แล้ว ลูกอย่างผมพร้อมทำสงครามครั้งสุดท้ายกับไอ้คนขายชาติโกงแผ่นดิน รีบกลับมาไวๆ จะได้จบกันเสียที
กำลังโหลดความคิดเห็น