“หนุ่มม้ง” ควักเงิน 10 ล้าน สร้างหนัง “ม้งสงครามวีรบุรุษ” เพื่อถ่ายทอดประวัติศาสตร์ม้ง หวังปลุกกระแสให้คนดูรักชาติ และรู้จักตอบแทนแผ่นดินเกิด เชื่อความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในไทยสามารถยุติได้ ขนาดม้งรบกับรัฐบาล 15 ปี รุนแรงกว่ายังจบลงได้
ความขัดแย้งในเมืองไทยที่เกิดจาก “ทักษิณ ชินวัตร” ยังคงเป็นชนวนให้คนไทยปวดหัวเรื่อยมาก และนับวันก็ยิ่งจะลุกลามใหญ่โต มีการตั้งก๊กตั้งเหล่าตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง รวมไปถึงการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของคนเสื้อแดง ที่มักถูกคนเสื้อแดงหยิบยกเอามาอ้างบอกไม่เป็นประชาธิปไตย เรียกร้องจะให้แก้กฎหมายมาตรา 112 ไหนจะเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดองที่รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” น้องสาวของ ทักษิณ ชินวัตรที่พยายามผ่านร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวสุดชีวิต เพื่อจะนิรโทษกรรมลบล้างความผิดให้กับพี่ชายตัวเอง
ทั้งหมดทั้งมวลล้วนสร้างความแตกแยกให้กับสังคมไทย แต่กลับมีคนไทยบางคนที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เห็นเป็นเรื่องน่าเบื่อ แค่ปัญหาการเมือง ไม่มาลืมตาดูโลก วันๆ เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาทำเรื่องของตัวเองจนลืมจิตสำนึกในความเป็นชาติ ใครที่เป็นหนึ่งในนั้นวันนี้อยากจะให้ฟังเรื่องราวของ “วิชัย แซ่อื้อ” หนุ่มม้งผู้ควักเงิน 10 ล้านสร้างหนัง “ม้งสงครามวีรบุรุษ” กันบ้าง เผื่อจะได้แง่คิด ได้แรงบันดาลใจในการพัฒนาประเทศไทย และที่สำคัญจะได้เข้าใจความหมายของคำว่า “ม้ง” พ่อ “แม้ว” เป็นอย่างไร
“ปกติผมทำซีดีหนังเพลงของม้งให้ชนเผ่าม้ง เราจะทำขายให้ม้งที่อยู่ทั่วโลกดู ไม่ว่าจะเป็นที่จีน อเมริกา ฝรั่งเศส แคนนาดา ออสเตรเลีย ฯลฯ โดยจะผลิตออกมาเป็นภาษาม้ง ซึ่งตัวผมเองเป็นคนไทยอยู่เมืองไทยก็เลยคิดว่า อยากจะเข้าสู่วงการบันเทิงไทยบ้าง ไม่ว่าจะเป็นละครหรือหนัง เพราะลูกหลานเดี๋ยวนี้ก็ดูหนังไทยเยอะขึ้น ถ้าเราได้ทำหนังไทยก็จะเข้าสู่ลูกหลานได้เยอะขึ้น”
“แล้วพอดีทางผู้กำกับชาวม้ง (เจมมี่ ว่างลี) ที่อยู่อเมริกาเขาก็มาเสนอเรื่องนี้กับผม ซึ่งผมก็คิดว่าดี เพราะว่ามันเป็นประวัติศาสตร์ชาวม้งของเราเอง มันเป็นเรื่องสมัยเด็กที่เรารู้จากว่าพ่อรู้จากปู่ย่าตายาย ว่า ประวัติศาสตร์เรารบกับรัฐบาล และท้ายที่สุดก็ยอมจำนนสร้างถนนสร้างอะไรมาให้ ซึ่งเราก็รับรู้อยู่แค่นั้น แต่จริงๆ แล้วต้นสายปลายเหตุของการสู้รบมันเกิดจากอะไรกันแน่ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเคยพูดถึง ทุกคนจะรู้แต่ 14 ตุลา พฤษภาทมิฬ ฯลฯ แต่กลับไม่มีใครรู้เลยว่า ยุทธภูมิตรงเขาค้อที่เป็นประวัติศาสตร์ของม้งมีอะไรบ้าง เราอยากจะให้ชาวม้งและทุกคนได้รู้ประวัติศาสตร์ตรงนั้นด้วย เหมือนที่รับรู้ประวัติศาสตร์ที่อื่นด้วย"
“ที่ผ่านมา ทุกคนจะคิดว่าม้งเป็นคอมมิวนิสต์ต่อต้านรัฐบาลรุนแรง แต่จากการที่เราได้ไปลงพื้นที่ทำรีเสิร์ชเรื่องราวตรงนั้นมันไม่ใช่แค่เราเป็นคอมมิวนิสต์ ไม่ใช่แค่เราที่รบกับรัฐบาล เราไม่ได้อยากต่อต้านรัฐบาลโดยนิสัย ไม่ใช่อยู่ๆ ก็ถือปืนสู้กับรัฐบาล การไปทำรีเสิร์ชกับทหารที่รบอยู่เขาค้อ ผู้เฒ่าผู้แก่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ จุดของการสู้รบมันเกิดขึ้นจากความเข้าใจผิดหลายๆ อย่าง มีเจ้าหน้าที่บางคนที่เอาเปรียบกดขี่ข่มเหง และเมื่อม้งไม่ยอมก็เอาเรื่องไปบอกกับทางการว่า ม้งเป็นคอมมิวนิสต์ ประกอบกับช่วงนั้นลัทธิคอมมิวนิสต์กำลังเผยแพร่ มีการให้ข้อมูลให้ม้งเกลียดชังรัฐบาล และในที่สุดก็นำไปสู่การสู้รบที่ยาวนานถึง 15 ปี”
“ซึ่งคนที่มาเล่าให้ผมฟัง บางคนก็ขาขาดแขนขาดมั่ง เขาเหล่านั้นเป็นม้งที่เคยรบกับรัฐบาล แต่ตอนนี้เขาได้บัตรทหารผ่านศึก เพราะในหลวงท่านทรงพระเมตตา ท่านตรัสว่าไม่มีใครแพ้หรือชนะ ไม่มีผิดไม่มีถูก ทุกคนที่รบในเขาค้อ คือ วีรบุรุษทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน เขาค้อรบกันมา 15 ปีแต่สงบลงได้เพราะพระบารมีของในหลวง”
“ในหลวงทรงเสด็จฯมาเยี่ยมทหารไทยที่รบอยู่เขาค้อ และทรงเห็นว่า ทำไมคนไทยต้องมารบกัน ทำไมเลือดคนไทยต้องมานองแผ่นดิน ท่านเลยออกนโยบายซึ่งเป็นนโยบายปรองดองทุกฝ่าย เมื่อทุกคนขัดแย้งทางความคิดทำไมไม่สู้ทางความคิด ทำไมต้องสู้ด้วยกำลังสูญเสียเลือดเนื้อเปล่าๆ ม้งอยู่ในแผ่นดินไทย ทหารก็สูญเสียกำลัง ก็เลยออกนโยบายให้ทุกคนจับมือกันร่วมพัฒนาประเทศไทย โดยที่ไม่มีการเอาผิดใคร สงครามครั้งนี้ก็เลยสงบลงได้ ซึ่งตรงนั้นเป็นจุดเริ่มต้นให้มีการรองรับสถานะม้ง ทำให้ม้งมีบัตรประชาชน และมีการตัดถนนเข้าไปยังหมู่บ้าน ทำให้ม้งเป็นคนไทยสมบรูณ์ สามารถออกไปไหนมาไหนได้อย่างถูกกฏหมาย”
“หนังเรื่องนี้เราไม่ได้แก้ปมว่าม้งไม่ใช่คอมมิวนิสต์ แต่เราอยากจะให้ทุกคนในประเทศไทยได้รู้ว่า เขาเป็นคนไทย เขารักชาติ เขารักในหลวงเหมือนกันนะ นี่เป็นสิ่งที่อยู่ในใจม้ง ม้งหลายๆ คนรู้สึกว่าโดนแบ่งชนชั้น แต่หนังเรื่องนี้จะเป็นคำตอบให้ทุกคนรู้ว่า เราเป็นคนไทย เรารักชาติ รักพระมหากษัตริย์ ม้งทุกคนรักในหลวงมาก ที่มีบัตรประชาชนที่ไปไหนมาไหนได้ทุกวันนี้ก็เพราะท่าน ท่านทรงเป็นกษัตริย์ที่มีพระปรีชาสามารถมาก ไม่ใช่แค่สั่งให้ทุกคนหยุดแต่ท่านทรงมีพระปรีชาว่าทำยังไงไม่ให้เลวร้ายกว่าเดิมโดยที่ไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ ถ้าเหตุการณ์ครั้งนั้นไม่ได้พระบารมีในหลวง ชาวม้งก็อาจจะโดนทหารกำจัดหมด เราอาจจะไม่มีแผ่นดินอยู่ถึงลูกถึงหลานแบบนี้ คนม้งรักในหลวงมากนะครับ ผมเชื่อว่าทุกคนมีรูปในหลวงอยู่ทุกบ้าน เพราะถ้าไม่มีท่านก็อาจไม่มีเราในวันนี้ พวกเราได้รับโครงการมาถึงหมู่บ้าน บ้านผมเองก็มีเหมือนกัน”
“หนังเรื่องนี้จะเล่าเรื่องของ ด.ช.เก๊ง เชื้อสายม้งที่เป็นลูกของผู้ใหญ่บ้านที่เขาค้อ เขาเกิดขึ้นมาท่ามกลางสงครามการสู้รบของม้งกับรัฐบาล และในการปะทะกันครั้งหนึ่งทำให้พ่อของ ด.ช.เก๊ง บาดเจ็บ ทหารคิดว่าพ่อของ ด.ช.เก๊ง ตายแล้ว จึงนำกลับมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม ด.ช.เก๊ง เติบโตเป็นทหาร และได้รับรู้ความจริงว่า ทหารไม่ได้อยากรบกับม้งแต่เป็นหน้าที่ต้องรักษาประชาธิปไตยต้องตัดตอนคอมมิวนิสต์ และรู้ว่าในหลวงรักคนไทยไม่เคยแบ่งแยกชนเผ่า ทุกคนคือคนไทย”
“วันหนึ่ง ด.ช.เก๊ง ต้องกลับมารบกับชนเผ่าของตัวเอง ท่ามกลางข้อกังขาของพ่อบุญธรรมที่เป็นทหารและคนในกองทัพ ว่า เขาจะกลับไปเข้าข้างม้งด้วยกันหรือไม่ แต่ในทางตรงกันข้าม ดช.เก๊งไม่ได้เคียดแค้นสงคราม ไม่ได้คิดจะอยู่ฝ่ายไหน แต่คิดจะหยุดสงครามนั้น และได้พยายามพิสูจน์ในทุกคนเห็นว่า ในนั้นไม่มีใครเป็นคอมมิวนิสต์มีแต่ชาวบ้านทั้งนั้น”
ปลุกกระแสความรักชาติ
“ผมอยากจะให้คนดูหนังเรื่องนี้แล้วคิดตาม ไม่ใช่อยากให้มาดูม้ง แต่อยากให้ดูว่าเขาเป็นแค่ชนเผ่าเล็กๆ แต่เขาจงรักภักดีนะ ครั้งหนึ่งเขาเคยสูญเสียเหมือนที่คุณเคยสูญเสียนั่นแหละ แต่เมื่อเขาปล่อยวางและยอมรับความจริงว่า เราอยู่ในแผ่นดินไทยจะแตกแยกไปทำไม มาร่วมมือพัฒนาชาติไทยดีกว่าเพื่อลูกหลานของเรา เพื่อในหลวง ลดใช้ความรุนแรง อยากให้คนดูแล้วได้แง่คิด และปลุกกระแสรักชาติขึ้นมาในจิตใจของคนไทยทุกคน”
“เมื่อทุกคนมีจิตสำนึกในการรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เหตุการณ์ต่างๆ คงไม่เกิดขึ้น ปัญหาการเมืองการแบ่งแยกในปัจจุบันผมอยากจะบอกว่า มันไม่ได้ครึ่งกับสงครามคอมมิวนิสต์หรอก การสู้รบที่ยาวนานถึง 15 ปีที่รุนแรงมากยังสามารถสงบลงได้เลย ถ้าเทียบกับเหตุการณ์ความขัดแย้งปัจจุบันมันเบากว่ามาก ถ้าเราคิดและหันกลับมาทำความดีมันไม่สายหรอก ผมยังเชื่อเสมอว่า มันมีทางออกสำหรับทุกคนเสมอ เพียงแต่ทุกคนหันหลังใส่กันไม่ยอมหันหน้ามาหากันมากกว่า”
“หนังเรื่องนี้ผมบอกเลยว่า ไม่ได้หวังจะได้กำไรอะไรมากมาย แต่อยากให้คนได้ดูแล้วรักชาติ เพราะพักหลังกระแสรักชาติของเรามันน้อยลงทุกที ทุกคนก็มัวแต่ทำเรื่องของตัวเองจนลืมจิตสำนึกที่มีแต่ส่วนรวม ผมอยากจะให้ทุกคนเลิกใช้ความรุนแรงและหยุดทำร้ายประเทศซักที”
“เราควรที่จะสามัคคีกันให้มากนะครับ ม้งค่อนข้างเหนียวแน่นมากในเรื่องความสามัคคีและการเป็นชาตินิยม ม้งสืบเชื้อสายมาจากจีนถูกตีถอยร่นลงมาเรื่อยๆ ในประเทศไทยม้งจะอยู่ใน 8 จังหวัดภาคเหนือประเทศไทย ปัจจุบันนี้ม้งเจริญมาก ใครที่คิดว่าม้งจะอยู่แต่บนเขาบนดอยที่ถนนไปไม่ถึงมันไม่ใช่แล้วนะครับ เพราะถนนหนและความเจริญเข้าไปสู้ม้งหมดแล้ว ตอนนี้คนม้งก็ใส่เสื้อผ้าเหมือนคนทั่วไปนี่แหละครับ แต่ต้องยอมรับว่า ด้วยความเจริญที่เข้ามาทำให้ความเป็นม้งเริ่มถอยลงเหมือนกัน วัฒนธรรมก็เริ่มถอยลง แต่เราก็พยายามรักษาประเพณีวัฒนธรรมที่สืบทอดมานาน อย่างเช่นช่วงปีใหม่ งานศพฯลฯ เรื่องเหล่านี้ก็จะยังเป็นแบบม้งอยู่”
“ม้งเมื่อ 10 ปีที่แล้วค่อนข้างล้าหลัง ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การเรียนรู้ สภาพชีวิตที่เป็นอยู่ แต่ตอนนี้ม้งไม่ได้อยู่บนดอยแล้วแต่กระจัดกระจายไปเรียนในตัวจังหวัด หรือมาทำงานกรุงเทพฯ ถ้าเข้าไปหมู่บ้านม้งอาจจะรู้สึกว่า หลังคาหญ้าแฝกอยู่ไหน ไอ้ที่เป็นชานรั้วมันอยู่ไหน แต่งชุดแปลกๆ มันอยู่ไหน มันหาได้น้อยแล้ว เพราะการดำรงชีวิตของม้งเปลี่ยนไปก็ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป แต่สิ่งเหล่านี้จะหาได้เมื่อมีเทศกาลงานประเพณี เมื่อไปอยู่ในเมืองม้งก็ใช้ชีวิตแบบคนเมือง แต่พอกลับมาอยู่บ้านเราก็ใช้ชีวิตแบบม้งรักษาประเพณีม้ง พูดภาษาม้ง การแต่งกาย อาหารการกินแบบม้ง นี่คือ สิ่งที่เราภูมิใจที่เรายังสามารถรักษาไว้ได้เมื่อเทียบกับยุคสมัยที่เจริญขนาดนี้”
“ม้งมีอยู่ทั่วโลกในที่แปลกๆ ที่คิดว่าไม่น่ามีม้งอย่างอลาสก้าก็มีม้งอยู่ เรามีเครือข่ายติดต่อกันทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น อเมริกา แคนนาดา ฝรั่งเศส จีน ฯลฯ ไม่งั้นผมก็คงไม่สามารถที่จะขายซีดีหนังม้งไปได้ทั่วโลก แต่ที่ทำได้เพราะเราเหนียวแน่นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของมุมโลก เราก็จะมีเครือข่ายที่เชื่อมถึงกัน ทำให้ความเป็นม้งมันไม่ถูกกลืนไปตามความเจริญ”
“คนม้งมีความเป็นชาตินิยมมาก ยิ่งสังคมมันก้าวไกลเขายิ่งนึกถึงความเป็นม้งมากกว่าคนที่เป็นครึ่งๆ กลางๆ เสียอีก เพราะเขาได้ไปเรียนรู้สังคม ทำไมสังคมนี้อยู่เป็นร้อยๆ ปีและอยู่ได้ก่อเกิดเป็นประเทศได้ เขามีวัฒนธรรม มีประเทศ แต่เราไม่มีเราอยู่กันคนละทิศละทาง และเราจะทำยังไงเพื่อให้สิ่งเหล่านั้นอยู่ได้”
“ผมคิดว่าทั้งหมดนี้คงเป็นชาตินิยมของม้งที่มีสูง ม้งเป็นเจ้าของห้างก็มีนะ แต่เขาก็ยังขายของม้ง ซึ่งอเมริกาก็ซื้อของม้งไปกินนะ มันเป็นวัฒนธรรมการกินเหมือนอาหารไทย เวียดนาม ลาว ไม่ว่าเขาไปอยู่ที่ก็ยังทำสิ่งเหล่านี้อยู่ไม่ลืมเลือน ยังคงมีความเป็นม้งอยู่”
ครั้งแรกในไทยที่มีผู้กำกับเชื้อสายม้ง กำกับการแสดงภาพยนตร์
“เป็นครั้งแรกครับที่มีผู้กำกับม้งได้ทำภาพยนตร์ ถือว่าเป็นความพยายามอย่างที่สุดของเราครับ กว่าที่ผมจะเข้ามาถึงตรงนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ การที่จะจ้างนักแสดงไทยซักคนมาร่วมงานมันยากมากสำหรับเรา เพราะเราไม่รู้จักใครเลย ไม่รู้จะติดต่อใคร ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ด้วยความที่เราก็เคยผลิตหนังม้งมาก็คิดว่าเรารู้จักอุตสาหกรรมนี้พอสมควร แต่พอเราทำเข้าจริงๆ เราแทบไม่รู้อะไรเลย ต้องบอกว่ามันเหนื่อยเพราะเราใหม่ เราพึ่งเข้ามาความน่าเชื่อถือมันไม่มี จะติดต่อกับใครก็ลำบากเพราะเขาไม่เคยรู้ว่ามีเราอยู่”
“แต่โชคดีที่เราได้ทีมงานได้ผู้กำกับไทย (เสรี พงศ์นิธิ ผู้กำกับลองของ) มาร่วมด้วย ทำให้การทำงานของเราง่ายขึ้น แต่การทำหนังก็ไม่ใช่เรื่องง่าย มันมีอะไรหลายๆ อย่างที่ซับซ้อนในแง่ธุรกิจ คนม้งเป็นคนที่ถือสัจจะมาก เรายึดมั่นในคำพูดไม่ได้สนใจในการทำสัญญา ทำให้การทำงานบางครั้งก็โดนอะไรหลายๆ อย่าง แต่เราไม่ท้อครับเราสู้ต่อจนหนังเสร็จสมบูรณ์”
“เห็นหนังสำเร็จแล้วก็ภูมิใจถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ของม้งเลยทีเดียว ที่มีโอกาสได้ทำหนังไทย แต่ต้องยอมรับว่าหนังของเราเป็นหนังนอกกระแสค่อนข้างดราม่า ซึ่งยุคนี้เขาไม่ค่อยดูหนังแนวนี้ แต่ถึงจะเป็นหนังนอกกระแสแต่เรื่องราวมันดันไปสอดคล้องกับเหตุการณ์ความขัดแย้งปัจจุบันนะครับ ประวัติศาสตร์มันหมุนมาที่เดิม และผมก็เชื่อว่าเหตุการณ์ในปัจจุบันมันจะจบลงอย่างสวยงามเหมือนในอดีตเพราะพระบารมีของในหลวง”
“แผ่นดินไทยศักดิ์สิทธิ์นะครับ ม้งที่อยู่อเมริกาที่เคยมาอยู่ศูนย์พักพิงในเมืองไทยเขามีรูปในหลวงนะครับ เขาพูดภาษาไทย เขาร้องเพลงชาติไทยได้ ทั้งๆ ที่เขาเคยอยู่ที่นี่แค่ 2-3 ปี แต่เขาไม่เคยลืมแผ่นดินนี้เลย ผมเอาหนังเรื่องนี้ไปฉายที่เทศกาลหนังที่อเมริกาได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากทั้งจากคนไทยและคนม้ง ไม่ว่าเขาจะอยู่ไหน ไม่ว่าเขาจะทำอะไร แต่ไม่มีใครลืมความเป็นไทย ไม่เคยลืมแผ่นดินไทย เราซึ่งได้อยู่แผ่นดินไทยถือว่าโชคดีแล้ว เราควรที่จะรักและสามัคคีกันไว้”