ไม่ได้เมาประชดรัก นางสาวไทยไซส์สะบึมอย่าง “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” ยืนยันแน่แท้ไม่ตีกันและเมามายเพราะความรักแน่นอน กับแฟนหนุ่มหน้าตาธรรมดาแต่อร่อย อย่าง “ติ๊งโน้ต ฐิติพงศ์ วโรกร” อายุอานามห่างกันกว่า 13 ปี ช่องว่างที่เคยว่าไม่มี วันนี้โผล่เสียแล้ว เพราะยามเจ็บไม่มาดู ลงทุนง้อเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล บุ๋มไม่ได้ยื้อ แต่พ่อแม่รับไม่ได้ บิดแล้วติสท์ แม้ว่าจะเกิดการง้อเกิดขึ้น แต่ดูเหมือนเสียงล่าสุดของติ๊งโน้ต อีกทั้งกิริยาท่าทางห่างเหินในครั้งนี้ อาจปิดตำนานรักต่างวัย ใจต่างเมิน เมื่อปนัดดา เอ่ยว่า ขอดูแลตัวเองก่อนก็แล้วกัน “นมหมดอายุ” หรือ “ทางตัน” เดี๋ยวก็รู้!
ปล่อยให้อึมครึมมาพักใหญ่ทั้งที่ก่อนหน้านี้หวานกันบาดเข้าไปถึงไหนต่อไหน เพราะหลายคนก็แอบดีใจและหมั่นไส้กับความรักของ “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” อดีตนางสาวไทย ปี 35 กะรัตกว่าๆคนนี้ว่าได้แฟนเด็ก พบรักกันในสนามแข่งรถ จนได้หัวใจกันมาครอบครอง ออกทีวีว่าความรักครั้งนี้กับ “ติ๊งโน้ต ฐิติพงศ์ วโรกร” นักบิดโมโตครอส ทายาทโรงพยาบาลโสธราเวช เมืองแปดริ้ว ที่แม้ว่าหน้าตาไม่ดี แต่ก็มีหน้าที่การงานและฐานะไม่เป็นสองรองใคร แม้ว่าหน้าตาจะไม่หล่อ โดนกล่าวหาว่าปลวกบ้าง ปลาบู่บ้าง แต่บุ๋ม ออกตัวแทนแฟนมาตลอดและโชว์หวานออกสื่อชนิดที่เรียกว่ามดแมลงวันที่ไหน อย่าได้มาเข้าใกล้เพราะบุ๋มเธอหวงแฟนคนนี้เป็นชีวิตจิตใจ และเคยออกคำสั่งห้ามสาวๆเกย์ เก้ง กวาง เข้าใกล้แฟนตัวเองอีกด้วย เพราะเสน่ห์ของการเอาอก เอาใจ ของหนุ่มน้อยอย่างติ๊งโน้ต จึงทำให้บุ๋ม คลายความกังวลจากหน้าที่การงานและภาระที่หนักอึ้งได้หลายประการตามคำบอกเล่าของเธอเคยบอกไว้แบบนั้น อีกทั้งติ๊งโน้ตยังเข้ากับ “อันดามัน” ลูกสาวของเธอได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
แต่ไม่นานมานี้ มีข่าวหลุดออกมาว่าเธอและติ๊งโน้ต ได้ห่างเกินกันไป ไม่หวานเหมือนก่อน แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ออกมาปฏิเสธว่าที่ห่างกันเธอยอมรับแต่ห่างเพราะงาน กลิ่นชักเริ่มไม่ดี เพราะบุ๋ม ปนัดดา ดันเกิดอุบัติเหตุที่ภูเก็ต จนก้นกบและสะโพกมีปัญหา ทั้งเจ็บทั้งปวดก็อุตส่าห์ส่งทั้งข้อความส่งทั้งรูปภาพให้แฟน แต่ติ๊งโน้ต บอกติดอยู่ที่สนามแข่งรถกับลูกทีมที่พัทยาเลยทำให้ทั้งคู่บอกว่างอนกันด้วยเหตุผลนี้ แต่เหนืออื่นใด บุ๋มออกตัวว่าสำหรับตนนั้นให้โอกาสแฟนหนุ่มได้เสมอ แต่สำหรับครอบครัวเธอ งานนี้ติ๊งโน้ตเท่ากับศูนย์
ความสัมพันธ์ในครั้งนี้ของบุ๋มและติ๊งโน้ตต้องมาสะดุด เพราะครอบครัวก็ใส่ไม่ยั้งโดยทั้งพ่อและแม่ของบุ๋มก็สวดยับติ๊งโน้ตไม่น้อยถึงกรณีดังกล่าว เพราะก่อนหน้านี้ ติ๊งโน้ตเคยเข้าไปขอบุ๋มแต่งงานกับครอบครัว แต่พ่อและแม่ยังไม่อนุญาต แถมมาเจอเรื่องล่าสุดกับลูกสาวยิ่งทวีความโกรธเข้าไปอีก โดยติ๊งโน้ตได้แต่บอกเพียงว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเข้าใจผิดในการสื่อสาร ไม่มีเจตนาทอดทิ้งแต่อย่างใด และล่าสุดบุ๋มก็รายงานกับสื่อว่าติ๊งโน้ตยังคงโทร.ม้าง้องอนขอคืนดี ทุกๆครึ่งชั่วโมง เพื่อให้ใจอ่อน และเดินทางไปแข่งรถที่ต่างประเทศ จึงอาจไม่ได้เห็นเธอสองคนเจอกันมากนักในระยะนี้
ประกอบกับมีคนเห็นบุ๋ม ปนัดดา กินเหล้าประชดรัก แถวทองหล่อ แต่เจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และยืนยันว่าเธอสามารถควบคุมเรื่องส่วนตัวได้ ไม่เอาเวลาดื่มเหล้ามาเบียดเบียนเวลางาน
“ทุกวันนี้อยากดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีเพื่อทำงาน การทำงานของบุ๋มมันไม่เหมาะสมกับการเป็นข้อกระดูกสันหลังเคลื่อน ทับเส้นประสาทหลังจากล้มวันนั้นแต่มันก็ดีขึ้นฉะนั้นเราไม่มีมานั่งทะเลาะแน่นอนขอเอาตัวเองให้รอดก่อนเรามีคิวงานยาวไปยันเดือนพฤศจิกายน เราป่วยไม่ได้”
แต่สำหรับความสัมพันธ์ของติ๊งโน้ตกับเธอนั้น เธอยืนยันเพียงว่า แก้วที่ร้าวไปแล้วก็ร้าวได้ และยอมรับว่าห่างจริงเพราะต่างคนต่างทำหน้าที่ ถ้าคราวนี้พิสูจน์ตัวเองไม่ผ่านก็เป็นอันจบไปในความรู้สึกของเธอ จากตัวติดเป็นตังเม แต่ตอนนี้ต่างคนต่างทำงาน เหตุผลดาราสนิทและใกล้ชิด ง่ายแค่นิดเดียว
“...เราไม่เด็ก ทะเลาะกันแล้วเลิกคืออย่างน้อย จะเป็นเพื่อนหรือแฟนก็ขอให้เป็นคนรู้จักรู้ใจที่ดีที่สุด ซึ่งตอนนี้เขาก็ยังเป็นคนรู้ใจอยู่เพียงแต่เราเจอกันน้อยลง ให้เขาพิสูจน์ตัวเองกับคุณพ่อคุณแม่แทนดีกว่า คือเราเจอเหตุการณ์แบบนั้นก็บอกตรงๆว่าน้อยใจ ทุกวันนี้ก็ยังน้อยใจอยู่มันก็ต้องมีบ้าง”
ธุรกิจมากมายหลายประเภททั้งเครื่องสำอาง สถาบันเสริมความงาม ผ้าไหม บริษัทจัดหาคู่ จิปาถะ มูลค่าหลายล้านของเธอที่ลงทุนไป อาจทำให้เธอเครียดไม่ได้ แต่อีกทางหนึ่งโดยเดิมทีครอบครัวของบุ๋มไม่ได้สนับสนุนให้ลูกสาวแต่งงานรอบสองอยู่แล้ว จึงทำให้ความรักครั้งนี้ของเธอ ลงเอยกับติ๊งโน้ตไม่ได้เสียที แต่ด้วยความรักและยอมรับด้วยตัวเองว่า “รัก” ในการเอาอกเอาใจของติ๊งโน้ต ความผิดครั้งนี้ โกรธแต่เธอก็ยอมรับว่าเธอให้โอกาส แต่กับพ่อแม่นั้น โดนหมายหัวไว้ก่อนหน้านี้ว่า “นี่หรือมาขอลูกฉันแต่งงาน” เส้นทางรักที่ดูเหมือนรักต่างวัย จึงไม่ง่ายอีกต่อไป เมื่อผิดครั้งใหญ่หลวงครั้งนี้ของติ๊งโน้ต เป็นแผลฉกรรจ์ที่อาจทำให้ความสัมพันธ์สั่นคลอน
ในกรณีกลับกันก็เกิดกระแสข่าวและอาการแปลกทางฝั่งติ๊งโน้ตไม่น้อย เพราะเดิมทีเจ้าตัวรักและตามติดชีวิตบุ๋ม ดั่งเงาตามตัว แต่มาระยะหลัง ทั้งเรื่องของการซ้อม ลูกทีม และการมีโอกาสได้เจอกันน้อยลงอย่างมาก ตอนรักมากอยากได้ลูกสาวเขา พอจะเอาจริงก็ไมได้ดั่งใจ แฟนเด็กชักเซ็ง อาจเพราะความผิดพลาดในการแต่งงานครั้งแรกของบุ๋มจึงทำให้ครอบครัววิตก ยิ่งอายุอานามห่างกันยิ่งกังวล จึงไม่แปลกที่คะแนนของติ๊งโน้ตจะขึ้นยาก แม้ว่าจะได้ใจบุ๋มไปเต็มๆก่อนหน้านี้
มุกเอาติ๊งโน้ต ออกสื่อ สยบข่าวลือเลิก จึงต้องมีอยู่จริง เพราะข่าวเมาท์ถึงขั้นว่าจืดจาง ถึงขึ้นเลิก ติ๊งโน้ตก็ให้สัมภาษณ์เรื่องการงานของตัวเองไม่แพ้กัน บุ๋มยังพร้อมลั่นวาจาว่าแก้วที่ร้าวไปแล้วก็ยากจะประสาน เริ่มแยกกันไปทำงานของตัวเอง และพร่ำวาจาว่า “รักตัวเองดีที่สุด” ก็ไม่รู้ว่ามนต์รักต่างวัยนี้จะหวนกลับมาประสานรอยร้าวได้หรือไม่ เพราะคำสัมภาษณ์ที่ดูไม่ได้กังวลกับอนาคตในภายภาคหน้ากับของบุ๋มกับหนุ่มติ๊งโน้ต ทำให้เดาได้ไม่ยากว่า ที่เคยเอาอกเอาใจจนลืมเรื่องหน้าตาไปได้ บุ๋มก็เริ่มจาง ช่วงเวลาทำใจได้เกิดขึ้นแล้ว เหลือแต่หลังจากนี้ต่างฝ่ายต่างจะมีกันและกันในฐานะใดเท่านั้นเอง...
....................................
ที่มานิตยสาร ASTV สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 141 วันที่ 16-22 มิถุนายน 2555