“บุ๋ม” โต้เมา-ทะเลาะ “ติ๊งโน้ต” ที่ผับย่านทองหล่อ ยันไม่เอาเวลาทำงานไปทำเรื่องแบบนั้น เจ้าตัวลั่นยังเจ็บฝังใจในสิ่งที่ฝ่ายชายทำ พร้อมเผย ติ๊งโน้ต โทร.ง้อทุกครึ่งชั่วโมง ก่อนรับความสัมพันธ์เหมือนแก้วที่ร้าว บอกเป็นช่วงพิสูจน์ตัวเองของติ๊งโน้ต แต่ถ้าไม่ดีก็ไม่อยากเสียเวลา
หวานกันมาเป็นปีๆ เกือบรักล่มซะแล้ว สำหรับคู่ของ “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” กับ “ติ๊งโน้ต ฐิติพงศ์ วโรกร” หลังจากก่อนหน้านี้ ทั้งคู่ทะเลาะกันรุนแรง เพราะบุ๋มโกรธที่ติ๊งโน้ตไม่ยอมดูแล ในช่วงที่ตนเองประสบอุบัติเหตุ จนลามไปถึงพ่อ-แม่บุ๋มด้วย ที่รู้สึกไม่พอใจถึงขั้นสั่งให้เลิก งานนี้หนุ่มติ๊งโน้ตก็เลยต้องเดินหน้าง้อแฟนสาวสุดฤทธิ์
ล่าสุด บุ๋มได้อัปเดตความสัมพันธ์ให้ฟังว่า แม้ตอนนี้ไม่ได้ทะเลาะกันแล้ว แต่ตนยังน้อยใจฝ่ายชายอยู่ ยอมรับความสัมพันธ์เหมือนแก้วที่ร้าว ส่วนที่มีคนเห็นไปทะเลาะกันในผับ แถมยังเมาปลิ้นนั้น บุ๋มปฏิเสธลั่น!
“เห็นมีคนในกองละครบอกมาเหมือนกัน ว่า ไปเมาเหล้า เราจะไปได้ยังไง มันเบียดเบียนเวลาการทำงานของบุ๋มหรือเปล่า ในผับคงไม่มีนะ เพราะไม่ได้ไปเลย กับติ๊งโน้ต ตอนนี้ก็แทบไม่ได้เจอกันด้วยซ้ำ เจอกันล่าสุด คือ ไปดูหนังเท่านั้นเอง หรือถ้าเข้าไป คนก็ไหว้บุ๋มกันทั้งผับแล้ว คงไม่เที่ยวแน่นอน แล้วอีกอย่าง ถ้าจะให้ทะเลาะกันในผับคงไม่ทำ เรามีอะไรที่ควบคุมเรื่องส่วนตัวในที่แบบนั้นได้ ถ้ามีจริงคงบอกอาจเข้าใจผิดกันมากกว่า”
“ช่วงนี้ไม่ทะเลาะกันแล้วค่ะ หลังจากที่ทะเลาะกันวันนั้นแล้วเรางอนเขาหนักๆ ก็เลิกคิด เพราะเราต้องทำงานให้ดีที่สุด แค่นี้เราก็ต้องทำกายภาพหนักๆ เราก็ตึงพอแล้ว ถ้าจะให้เอาความเครียดมาอีกก็ไม่ไหว ไม่อยากเครียด ทุกวันนี้อยากดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีเพื่อทำงาน การทำงานของบุ๋มมันไม่เหมาะสมกับการเป็นข้อกระดูกสันหลังเคลื่อน ทับเส้นประสาท หลังจากล้มวันนั้น แต่มันก็ดีขึ้นฉะนั้นเราไม่มีมานั่งทะเลาะแน่นอน ขอเอาตัวเองให้รอดก่อน เรามีคิวงานยาวไปยันเดือนพฤศจิกายน เราป่วยไม่ได้”
“อย่างพรุ่งนี้ติ๊งโน้ตเขาต้องบินไปอินโดนีเซีย เพื่อแข่งอาชีพแล้ว ได้แต่เป็นกำลังใจให้เขา เพราะต่างคนต่างทำงาน หลายคนเลยคิดว่าเราห่าง ซึ่งจริงๆ มันต้องเป็นแบบนั้น ถ้าเขาไม่ไปบุ๋มคงโกรธมากกว่า ตอนนี้เลยต่างคนต่างทำหน้าที่กันต่อไป เราไม่เด็กๆ ทะเลาะกันแล้วเลิก คืออย่างน้อยจะเป็นเพื่อนหรือแฟนก็ขอให้เป็นคนรู้จักรู้ใจที่ดีที่สุด”
“ซึ่งตอนนี้เขาก็ยังเป็นคนรู้ใจอยู่ เพียงแต่เราเจอกันน้อยลง ให้เขาพิสูจน์ตัวเองกับคุณพ่อคุณแม่แทนดีกว่า คือ เราเจอเหตุการณ์แบบนั้นก็บอกตรงๆ ว่าน้อยใจ ทุกวันนี้ก็ยังน้อยใจอยู่ มันก็ต้องมีบ้าง เขาก็ใช้วิธีง้อแบบโทร.มาทุกครึ่งชั่วโมง จะพยายามมาเจอที่กองละคร ซึ่งเราก็บอกว่าไม่ได้เพราะเราไม่พาเขาไปในกองอยู่แล้ว เขาก็มีเอาของมาง้อบ้าง อย่างพวกขนม คอยถามกินอะไรหรือยัง”
ยอมรับว่า ความรู้สึกคงไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม
“คือบุ๋มเป็นคนที่ถ้าแก้วมันร้าวก็ร้าว ไม่ใช่คนหลอกตัวเอง ดีก็ดี ไม่ดีก็ไม่ดี ก็ศึกษากันไป ตอนนี้ก็ให้เขาพิสูจน์ตัวเอง เราก็ไม่อยากมานั่งดูใจกับคนใหม่ ถ้าคนเก่าไม่ดี เราก็ไม่อยากเสียเวลา”
“ส่วนพ่อแม่บุ๋มจากวันนั้นก็จบเลย เขาต้องทำคะแนน แต่จะบอกว่าเรื่องนี้กับครอบครัวบุ๋มหนักกว่าบุ๋มนะ แต่ก็คงไม่ได้โกรธมากมาย ถ้าพ่อแม่โกรธจริง เขาคงมาเจอบุ๋มไม่ได้หรอก แต่ถ้าถามว่าครอบครัวเริ่มแอนตี้ไหม ก็ไม่นะ รับสายตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่เขาต้องรู้จักความรับผิดชอบคืออะไร มันช่วยไม่ได้ ในเมื่อเขาเป็นแบบนี้ ต้องพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่เขาทำ เราก็เฉยๆ แล้ว”