“บุ๋ม” ถอนตัวเดินแบบชุดว่ายน้ำ เหตุ “ติ๊งโน้ต” ไม่ว่างมาเป็นบอดี้การ์ด แย้มอยากเฟดตัวเองไปทำงานด้านบริหารเต็มตัว ส่วนเรื่องแต่งงานยอมรับพร้อมแต่งรอบ2 เพราะครอบครัวติ๊งโน้ตอยากมีหลาน แต่ติดที่พ่อของตนยังไม่อนุญาต
เป็นคู่รักที่ตัวติดกันตลอดเวลา สำหรับสาว “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” และหนุ่ม “ติ๊งโน้ต ฐิติพงศ์ วโรกร” ล่าสุดในงานเปิดตัวชุดว่ายน้ำคอลเลคชั่นใหม่ที่บุ๋มออกแบบเองภายใต้แบรนด์ BSC เจ้าตัวยังได้วางตัวแฟนหนุ่มติ๊งโน้ตมาร่วมเดินแบบชุดว่ายน้ำคู่กันเป็นครั้งแรก แต่ปรากฏว่าสุดท้ายก็ต้องยกเลิกไปเพราะฝ่ายชายติดงาน ทำให้รู้สึกไม่มีบอดี้การ์ด สาวบุ๋มก็เลยไม่เอาดีกว่า
“ตอนแรกก็ว่าจะเดินแบบเอง แต่พอคิดไปคิดมาก็เปลี่ยนใจ คือใจจริงตอนนี้บุ๋มเองอยากจะถอยตัวเองออกมาเป็นผู้บริหารอย่างเต็มตัวแล้ว เพราะเราเองก็ทำงานแบบนี้มาตั้งนานแล้ว แต่ที่ผ่านๆ มายังรับเพราะเรายังสนุกกับมัน เรายังพอทำมันได้ อีกอย่างติ๊งโน้ตเองเขาก็ไม่ว่างมีโชว์ตัวที่บางแสน ก็เลยคิดว่าถ้าไม่มีติ๊งโน้ตมาเป็นบอดี้การ์ดก็ไม่ใส่ดีกว่า เพราะเราเองก็ไม่เคยใส่ชุดว่ายน้ำเปิดโชว์อะไรขนาดนี้ด้วย อีกอย่างเขาก็ขอไว้ด้วยนิดๆ เขามาไม่ได้ก็ยังส่งคุณแม่กับน้องสาวเขามาคุม(หัวเราะ) มาให้กำลังใจค่ะ”
“แต่จะให้ลบความเซ็กซี่ของเราไปเลยขนาดนั้นคงยากนะ บุ๋มมาซะขนาดนี้แล้ว ติ๊งโน้ตคงจะพยายามลบมันยาก เขาก็ขอแค่เพียงอย่างละครถ้าเป็นเลิฟซีนขอได้มั้ย อะไรก็ได้ที่ไม่มีผู้ชายมาป้วนเปี้ยนเกี่ยวข้องแค่นั้นเอง หรือถ้าจะถ่ายแบบชุดว่ายน้ำอย่างก่อนๆ ก็ขอไปนั่งดูการทำงานด้วย ว่าหลังจากนั้นแล้วแยกจากหนุ่มๆ พวกนั้นรึเปล่า หรือนายแบบมีแฟนมาคุมมั้ย ก็เป็นความสบายใจของเขาอีกแบบนึง แต่ต้องบอกล่วงหน้าให้เขานั่งทำใจ 1 วันก่อน”
ลั่นพร้อมแต่งงาน “ติ๊งโน้ต” แล้ว แต่ติดที่พ่อของตนยังไม่อนุมัติ
"เรื่องแต่งงานตัวติ๊งโน้ตเองคิดตลอดเวลา แต่สำหรับบุ๋มเฉยๆ สำหรับคำว่าแต่งงาน แต่งงานแล้วไง มันจะดีกว่าวันนี้รึเปล่าล่ะ แล้วจะยังไงต่อ เพราะบุ๋มยังหาคำตอบกับตรงนี้ไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาแล้วแต่งงานแล้วมันไม่ใช่ไง พอเราผ่านจุดนั้นมาแล้วการแต่งงานมันก็แค่นั้นแหละ(หัวเราะ) ก็แค่พิธีแล้วยังไงเหรอ เขาก็ยังเดินไปเดินมาเหมือนเดิม บุ๋มว่ามันขึ้นอยู่กับปัจจุบันว่าเราดูแลกันยังไงมากกว่า นั่นคือสิ่งที่สำคัญ”
“กับครอบครัวติ๊งโน้ตเขาก็ไม่ได้รังเกียจในความเป็นแม่หม้ายของเรา เขาก็ดูแลเราเหมือนลูกเขาคนนึง แต่เราเองก็รู้สึกกลัวเกรงๆ บ้างเหมือนกัน เราเองก็ไม่ใช่แม่หม้ายธรรมดามีลูกติดด้วย เขาจะคิดว่าเรามาอะไรรึเปล่า แต่บุ๋มเชื่ออย่างนึงว่า ทุกสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเขารู้แหละว่าคำว่าแม่หม้ายไม่ได้เป็นภาระให้กับใคร ครอบครัวติ๊งโน้ตเองก็เร่งให้เราแต่งงานกันแล้ว เพราะเขาอยากได้หลาน บุ๋มก็เลยบอกว่าข้ามขึ้นตอนไปมั้ย แกบอกว่าอยากมีหลานแล้ว บุ๋มก็บอกว่าลองเลี้ยงลูกบุ๋มน้องอันดามันดูสักวันมั้ย แล้วจะหยุดคิดอย่างนี้ทันทีเลย”
“บุ๋มเองยอมรับค่ะว่ามีแอบคิดถึงเรื่องแต่งงานเหมือนกัน แต่คือคุณพ่อบุ๋มดุมาก พอดุมากปุ๊บ เราก็ไม่กล้าที่จะคุยอะไรมากกว่านี้ ก็ยังบอกติ๊งโน้ตให้ไปฝึกตีกอล์ฟหน่อยจะได้ตีกับพ่อบุ๋มบ้าง ก็เข้าทางคุณพ่อหน่อย พอถึงวันจริงพ่อก็จับติ๊งโน้ตสอนตีกอล์ฟอย่างเดียวเลย ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น บุ๋มก็บอกว่าทำไมไม่พูดกับเขาไป เขาก็เงียบ คือครั้งนี้มันต้องผ่านคุณพ่อจริงๆ เรามานั่งคุยกันว่าทุกสิ่งอย่าง ปัญหาชีวิตที่เกิดขึ้นหลายคนก็มาโทษบุ๋มอย่างเดียวเลยว่าเธอแรง เธอมั่น คือไม่มีใครรู้ไง ถามหน่อยไม่มีใครอยากจะเจ็บหรอก บุ๋มไม่ใช่คนที่มาโกหกสร้างภาพ มองที่ตาบุ๋มก็รู้แล้วว่าบุ๋มเป็นยังไง แต่พ่อบุ๋มแกดูจากข่าว พอเห็นคนมาว่าลูกตัวเองเยอะๆ แกก็รู้สึกไม่ดี”
“คือตอนนี้ติดที่คุณพ่อบุ๋มอย่างเดียว ถ้าแกโอเคก็ไม่มีปัญหา เราก็พยายามกัน แต่แกก็ยังเงียบอยู่ แกเงียบมาก เราก็พยายามเปิดทางให้ติ๊งโน้ตตลอด คุณพ่อติ๊งโน้ตเขาก็บอกว่าถ้ามันนั่นจริงๆ ก็จะเข้าไปคุยให้เป็นทางการ แต่ก็คงจะให้คุณพ่อบุ๋มยิ้มมากกว่านี้ก่อน”