เพลงวาน : โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
“หากข้ามคืนนี้ หัวใจไม่แหลก ยับเยินเสียก่อน จะไปอ้อนวอน ขอเธออย่าตัดรอน รอก่อนวันพรุ่งนี้ เคืองกันเรื่องไร พรากกันด้วยเหตุใด ฉันยังไม่เข้าใจ เพราะฉันใช่ไหม หรือเธอเปลี่ยนไป ไยถึงไม่เหมือนเดิม..”
เพลง“ที่สุดของหัวใจ” : ดนุพล แก้วกาญจน์
............
แม้จะก้าวมาเป็นศิลปินเดี่ยวในช่วงปลายยุค 80’s แต่“พี่แจ้ : ดนุพล แก้วกาญจน์” ก็ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดนักร้องคนดัง(มาก)แห่งยุค 80’s(พ.ศ.2523-2532) ที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึกไว้ เพราะก่อนหน้านั้น พี่แจ้ๆได้สร้างชื่อ สร้างฝีมือ ฝากเสียงหล่อทรงเสน่ห์มาตั้งแต่เมื่อครั้งสมัยเป็นนักร้องนำ“วงแกรนด์เอ็กซ์”แล้ว
ดังนั้นเมื่อพี่แจ้แยกทางจากแกรนด์เอ็กซ์มาเป็นศิลปินเดี่ยว ออกอัลบั้มแรก “ฝันสีทอง”( ก.พ. 2529)ผลก็คืออัลบั้มนี้ทำปรากฏการณ์ยอดขายเทปได้ถล่มทลายเกินล้านตลับ ส่งผลให้พี่แจ้เป็นนักร้องทะลุล้านคนแรก ทั้งในฐานะ(อดีต)นักร้องนำวงแกรนด์เอ็กซ์และในฐานะศิลปินเดี่ยว จนผมยกให้พี่แกเป็นนักร้องประเภท(เสียง)“หล่อทะลุล้าน”ซึ่งได้นำเสนอไปในตอนที่แล้ว
หลังโด่งดังสุดยอดเป็นนักร้องเพลงไทยสากลอันดับหนึ่งของเมืองไทย ชีพจรดนตรีของพี่แจ้ยังค้างฟ้าอยู่อีกหลายปี มีผลงานเพลงดังออกมาอีกมากหลาย แถมหลายเพลงเป็นมาสเตอร์พีซจัดอยู่ในขั้นบทเพลงไม่เคยตายที่ขึ้นหิ้งเป็นอมตะมาจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานในทุกวันนี้
โดยหลังความสำเร็จจากผลงานเดี่ยวอัลบั้มแรก “ฝันสีทอง”ยังไม่ทันจาง พี่แจ้ถือคติ “น้ำขึ้นให้รีบตัก-ตีเหล็กเมื่อยังร้อน” ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดที่สองตามต่อมาทันทีในปีเดียวกัน ในชื่อชุด“ของขวัญ”ภายใต้สังกัด “นิธิทัศน์ โปรโมชั่น”ที่ถือเป็นหนึ่งในค่ายเพลงตัวพ่อแห่งปลายยุค 80’s
อัลบั้มนี้พี่แจ้ยังคงทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ด้วยตัวเองเหมือนชุดที่แล้ว และยังคงใช้ทีมแบ็คอัพชุดเดิม คือ“วงพลอย” และ“พี่โอม : ชาตรี คงสุวรรณ” ยอดมือกีตาร์แห่งยุคจาก “ดิ อินโนเซ้นท์” ที่รู้ทาง รู้มือ กันเป็นอย่างดี ขณะที่นักแต่งเพลง ชุดนี้ก็ยังคงมี “กรวิก”(สันติ เศวตวิมล) ยอดนักแต่งเพลงแห่งยุค 80’s มาร่วมแต่งเพลงให้เหมือนเดิม
อัลบั้มของขวัญมีของขวัญที่พี่แจ้มอบให้แฟนเพลงทั้งหมด 12 เพลงด้วยกัน โดยมีเพลงเด่นๆที่ถือเป็นเพลงฮิตแห่งยุคสมัย ได้แก่
“อร่อยไปเลย” เพลงสนุกๆ ชื่อเพลงอาจชวนให้นึกถึงอาหารจานเด็ด แต่เป็นเพลงที่สอนใจเตือนใจคนได้ดีทีเดียวกับการยิ้มสู้ มองโลกในแง่ดี ไม่นินทาว่าใครและไม่หวั่นไหวเมื่อใครว่าเรา อ้อ!?! เพลงนี้ผมมีสิ่งชวนสังเกตเล็กๆอยู่ที่สำเนียงกีตาร์ของพี่โอม ซึ่งสำเนียงแบบนี้แหละตอนหลังมันได้กลายเป็นสำเนียงกีตาร์พิมพ์นิยมของค่ายแกรมมี่ที่พี่โอมไปทำงานเป็นเบื้องหลังอยู่นับเป็นสิบปีเลยทีเดียว
“สิงโตหน้าโบสถ์” คือเพลงเร็วอารมณ์ต่อเนื่องจากอร่อยไปเลย เนื้อเพลงเตือนใจยกคำสอนของพ่อว่าก่อนจะโกรธใครสักนิด ควรคิดก่อนให้ดี โกรธกันไม่เห็นจะดีตรงไหน ควรให้อภัยเป็นดีที่สุด
“...สิงโตที่อยู่หน้าวัด มันไม่เคยจะกัดกับใคร สิงโตที่อยู่หน้าโบสถ์ มันไม่เคยจะโกรธกับใคร ลูกเป็นสิงโตหน้าบ้าน ลูกอย่าไประรานกับใคร...”
เพลงนี้ซาวด์ดนตรีหนักไปทางอีเลคทรอนิคป็อบ มีความแปลกใหม่แห่งยุคสมัยด้วยการเติมซาวด์เสียงร้องแปลกๆเข้าไป ที่สำคัญคือมีการใส่ท่อนแร๊พ(ที่ยุคนั้นกำลังเริ่มเป็นที่นิยมในบ้านเรา)เข้ามาสลับสีสันกับเสียงร้องของพี่แจ้ได้อย่างน่าฟัง
อีกหนึ่งเพลงเร็วที่ถือเป็นเพลงดังในอัลบั้มนี้ก็คือ “ตายทั้งเป็น” จังหวะดนตรีผ่อนลงมาหน่อย ซาวด์ยังหนักไปทางอีเลคทรอนิกป็อบ เนื้อร้องว่าด้วยความรักที่ถ้าขาดเธอไปแล้ว พี่แจ้ก็อาจจะตายทั้งเป็นได้
สำหรับเพลงสนุกทั้งสามในแทรคที่ 1,2 และ 3 ที่ผมเขียนเล่ามานั้น พี่แจ้ยังคงเสียงดีไม่มีตกและยังคงรักษามาตรฐานเสียงร้องนุ่มหล่ออันทรงเสน่ห์ของตัวเองไว้ได้เป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ยังมีลูกอ้อนที่พี่แจ้แกใส่เพิ่มลงไปในเพลงเร็วมากกว่าในยุคที่เป็นนักร้องนำวงแกรนด์เอ็กซ์อยู่บ้างเหมือนกัน
นอกจากบทเพลงเร็วทั้งสามแล้ว อัลบั้มนี้ยังมีเพลงเร็วอย่าง “ยำโลก”(แทรค 8)ที่เนื้อหาออกไปทางเพลงเพื่อชีวิตเพื่อสังคม และ “จิ๊บ ร.ด.” (แทรค 9)ที่เป็นเพลงเดียวโทนๆในอัลบั้มนี้ที่พี่แจ้ไม่ได้ร้อง แต่ว่ามันเจ๋งใช่ย่อย กลายเป็นเพลงฮิตที่กลายเป็นลายเซ็นประจำตัวของ“พี่จิ๊บ : วสุ แสงสิงแก้ว”(ที่เข้ามาร่วมกับวงพลอยในชุดนี้) มาจนทุกวันนี้
ในชุดของขวัญยังมีเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้มคือเพลง“ของขวัญ”(แทรค 12 แทรคสุดท้าย) แม้ไม่ใช่เพลงดังมากมาย แต่เป็นเพลงที่มีความโดดเด่นมากเพลงหนึ่ง และเป็นอีกหนึ่งบทเพลงของพี่แจ้ผมชื่นชอบมากเป็นพิเศษ
ของขวัญเป็นการช่วยกันขับร้อง นำโดยพี่แจ้ สมาชิกวงพลอย โดยมีพี่โอมร่วมสมทบอีกหนึ่งเสียง ร่วมด้วยไลน์ประสานสไตล์อะแคปเปล่าที่ทำได้เก๋มาก ในขณะที่ภาคเนื้อร้องนั้นก็เยี่ยมไปด้วยเนื้อหาสดใสให้กำลังใจชวนเพลิดเพลิน ถือเป็นของขวัญที่น่ารักน่าฟังเป็นอย่างยิ่ง
“...เปิดเมื่อไหร่ จะพบกับแสงสว่าง ชี้นำทาง ให้เธอเดินก้าวหน้าไป เปิดเมื่อไหร่ จะพบทางเดินสดใส พร้อมทั้งแรงจากใจ ถึงใจมอบให้กับเธอ จงมั่นใจฉัน ทุกๆวันฟาดฟันกับอุปสรรค แม้ทุกนั้นจะหนักสู้ไป จงเชื่อฉันไว้ เพราะจริงใจยังเป็นเพื่อนเธอเสมอ ของขวัญที่มอบให้เธอ มีค่ากว่าสิ่งใด”
ย้ายอารมณ์มาพูดถึงเพลงช้ากันบ้าง อัลบั้มของขวัญ มีเพลงช้าๆ คือ “โลกนี้คือเธอ”(แทรค 5),”รักเอยอยู่ไหน”(แทรค 10),”ร้อน”(แทรค 11) และ“พิษรัก”(แทรค 16) เพลงเก่าอมตะของ“ครูสุรพล โทณวนิก”(ผู้แต่ง) ที่พี่แจ้นำมาขับร้องใหม่ด้วยเสียงนุ่มๆอ้อนๆ
นอกจากนี้ยังมีเพลงช้าเพลงดังอย่าง “ห้องสีขาว”(แทรค 7) ที่แต่งโดย ”กรวิก” ซึ่งได้นำเรื่องราวชีวิตจริงของหญิงสาวคนหนึ่งที่เก็บตัวอยู่ในห้องคนเดียวมาเขียนถ่ายทอดออกมาเป็นเพลงได้เศร้าบาดใจ
ห้องสีขาว เป็นเพลงให้กำลังใจต่อสู้ชีวิต อย่ายอมแพ้ ซึ่งพี่แจ้ร้องเพลงนี้ได้เศร้าบาดใจมาก เรียกว่าฉีกอารมณ์จากเสียงอ้อนสาวหวานซึ้งมาร้องในโทนเศร้าได้ดีทีเดียว
“...ห้องนั่นสีขาว แต่โลกเราไม่ใช่ โหดร้ายน่ารักมีอยู่คู่กัน แม้ถ้าเธอกล้าหาญ บุกฝ่าฟันปีนกำแพงกั้น ทุกวันสาวเจ้าจะพบ เพื่อนร่วมทาง...”
แล้วก็มาถึงบทเพลงที่ถือเป็นที่สุดของอัลบั้มนี้คือ “ที่สุดของหัวใจ”(แทรค 4) เพลงนี้พี่แจ้แต่งได้เพราะมาก ดนตรีขึ้นนำมาด้วยเปียโน มีเบสเล่นเสียงสูงโซโลหวานๆสอดรับ ตามด้วยเสียงซินธ์เลียนเสียงฮาร์โมนิก้า แล้วส่งต่อเข้าเพลงที่พี่แจ้ร้องถ่ายทอดออกมาได้อย่างเศร้า เหงา ซึ้ง แต่ว่าฟังเพราะจับใจ
“...แต่ถ้าพรุ่งนี้ ดวงใจยังโกรธ ฉันโทษใครได้ เป็นกรรมของใจ พบเธอโดนผลักไส ทำอย่างไรพรุ่งนี้
นับช้ำมากี่ครั้ง หัวใจยังไม่จำ ซ้ำยังยอมให้ทำ เพราะรักมากไป เพราะซื่อสัตย์ไป จึงช้ำใจ...”
ที่สุดของหัวใจ นอกจากจะเป็นหนึ่งในเพลงดังอมตะคู่บุญพี่แจ้ที่โด่งดังเหนือกาลเวลามาจนถึงทุกวันนี้แล้ว ยังเป็นบทเพลงแห่งการเปิดตำนานการใช้ชื่อ“ที่สุด”นำในอัลบั้มต่อๆมาของพี่แจ้อีกหลากหลายอัลบั้ม รวมถึงนี่ยังเป็นเพลงที่มีคนนำชื่อเพลงมาขยายผลในวงการต่างๆอีกมากมาย
***********************************************************
คลิกฟังเพลง ที่สุดของหัวใจ
*****************************************
หมายเหตุ : ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
- ปัจจุบันพี่แจ้เปิดร้านอาหาร “บ้านแสนรัก” อยู่บริเวณถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา
- เรื่องราวของพี่แจ้ยังไม่จบเพียงเท่านี้ โปรดติดตามตอนต่อไป
*****************************************
บทความแนะนำเพลงน่าสนใจย้อนยุค จะนำเสนอสลับกับบทความแนะนำเพลงน่าสนใจในสมัยนิยม
“หากข้ามคืนนี้ หัวใจไม่แหลก ยับเยินเสียก่อน จะไปอ้อนวอน ขอเธออย่าตัดรอน รอก่อนวันพรุ่งนี้ เคืองกันเรื่องไร พรากกันด้วยเหตุใด ฉันยังไม่เข้าใจ เพราะฉันใช่ไหม หรือเธอเปลี่ยนไป ไยถึงไม่เหมือนเดิม..”
เพลง“ที่สุดของหัวใจ” : ดนุพล แก้วกาญจน์
............
แม้จะก้าวมาเป็นศิลปินเดี่ยวในช่วงปลายยุค 80’s แต่“พี่แจ้ : ดนุพล แก้วกาญจน์” ก็ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดนักร้องคนดัง(มาก)แห่งยุค 80’s(พ.ศ.2523-2532) ที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึกไว้ เพราะก่อนหน้านั้น พี่แจ้ๆได้สร้างชื่อ สร้างฝีมือ ฝากเสียงหล่อทรงเสน่ห์มาตั้งแต่เมื่อครั้งสมัยเป็นนักร้องนำ“วงแกรนด์เอ็กซ์”แล้ว
ดังนั้นเมื่อพี่แจ้แยกทางจากแกรนด์เอ็กซ์มาเป็นศิลปินเดี่ยว ออกอัลบั้มแรก “ฝันสีทอง”( ก.พ. 2529)ผลก็คืออัลบั้มนี้ทำปรากฏการณ์ยอดขายเทปได้ถล่มทลายเกินล้านตลับ ส่งผลให้พี่แจ้เป็นนักร้องทะลุล้านคนแรก ทั้งในฐานะ(อดีต)นักร้องนำวงแกรนด์เอ็กซ์และในฐานะศิลปินเดี่ยว จนผมยกให้พี่แกเป็นนักร้องประเภท(เสียง)“หล่อทะลุล้าน”ซึ่งได้นำเสนอไปในตอนที่แล้ว
หลังโด่งดังสุดยอดเป็นนักร้องเพลงไทยสากลอันดับหนึ่งของเมืองไทย ชีพจรดนตรีของพี่แจ้ยังค้างฟ้าอยู่อีกหลายปี มีผลงานเพลงดังออกมาอีกมากหลาย แถมหลายเพลงเป็นมาสเตอร์พีซจัดอยู่ในขั้นบทเพลงไม่เคยตายที่ขึ้นหิ้งเป็นอมตะมาจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานในทุกวันนี้
โดยหลังความสำเร็จจากผลงานเดี่ยวอัลบั้มแรก “ฝันสีทอง”ยังไม่ทันจาง พี่แจ้ถือคติ “น้ำขึ้นให้รีบตัก-ตีเหล็กเมื่อยังร้อน” ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดที่สองตามต่อมาทันทีในปีเดียวกัน ในชื่อชุด“ของขวัญ”ภายใต้สังกัด “นิธิทัศน์ โปรโมชั่น”ที่ถือเป็นหนึ่งในค่ายเพลงตัวพ่อแห่งปลายยุค 80’s
อัลบั้มนี้พี่แจ้ยังคงทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ด้วยตัวเองเหมือนชุดที่แล้ว และยังคงใช้ทีมแบ็คอัพชุดเดิม คือ“วงพลอย” และ“พี่โอม : ชาตรี คงสุวรรณ” ยอดมือกีตาร์แห่งยุคจาก “ดิ อินโนเซ้นท์” ที่รู้ทาง รู้มือ กันเป็นอย่างดี ขณะที่นักแต่งเพลง ชุดนี้ก็ยังคงมี “กรวิก”(สันติ เศวตวิมล) ยอดนักแต่งเพลงแห่งยุค 80’s มาร่วมแต่งเพลงให้เหมือนเดิม
อัลบั้มของขวัญมีของขวัญที่พี่แจ้มอบให้แฟนเพลงทั้งหมด 12 เพลงด้วยกัน โดยมีเพลงเด่นๆที่ถือเป็นเพลงฮิตแห่งยุคสมัย ได้แก่
“อร่อยไปเลย” เพลงสนุกๆ ชื่อเพลงอาจชวนให้นึกถึงอาหารจานเด็ด แต่เป็นเพลงที่สอนใจเตือนใจคนได้ดีทีเดียวกับการยิ้มสู้ มองโลกในแง่ดี ไม่นินทาว่าใครและไม่หวั่นไหวเมื่อใครว่าเรา อ้อ!?! เพลงนี้ผมมีสิ่งชวนสังเกตเล็กๆอยู่ที่สำเนียงกีตาร์ของพี่โอม ซึ่งสำเนียงแบบนี้แหละตอนหลังมันได้กลายเป็นสำเนียงกีตาร์พิมพ์นิยมของค่ายแกรมมี่ที่พี่โอมไปทำงานเป็นเบื้องหลังอยู่นับเป็นสิบปีเลยทีเดียว
“สิงโตหน้าโบสถ์” คือเพลงเร็วอารมณ์ต่อเนื่องจากอร่อยไปเลย เนื้อเพลงเตือนใจยกคำสอนของพ่อว่าก่อนจะโกรธใครสักนิด ควรคิดก่อนให้ดี โกรธกันไม่เห็นจะดีตรงไหน ควรให้อภัยเป็นดีที่สุด
“...สิงโตที่อยู่หน้าวัด มันไม่เคยจะกัดกับใคร สิงโตที่อยู่หน้าโบสถ์ มันไม่เคยจะโกรธกับใคร ลูกเป็นสิงโตหน้าบ้าน ลูกอย่าไประรานกับใคร...”
เพลงนี้ซาวด์ดนตรีหนักไปทางอีเลคทรอนิคป็อบ มีความแปลกใหม่แห่งยุคสมัยด้วยการเติมซาวด์เสียงร้องแปลกๆเข้าไป ที่สำคัญคือมีการใส่ท่อนแร๊พ(ที่ยุคนั้นกำลังเริ่มเป็นที่นิยมในบ้านเรา)เข้ามาสลับสีสันกับเสียงร้องของพี่แจ้ได้อย่างน่าฟัง
อีกหนึ่งเพลงเร็วที่ถือเป็นเพลงดังในอัลบั้มนี้ก็คือ “ตายทั้งเป็น” จังหวะดนตรีผ่อนลงมาหน่อย ซาวด์ยังหนักไปทางอีเลคทรอนิกป็อบ เนื้อร้องว่าด้วยความรักที่ถ้าขาดเธอไปแล้ว พี่แจ้ก็อาจจะตายทั้งเป็นได้
สำหรับเพลงสนุกทั้งสามในแทรคที่ 1,2 และ 3 ที่ผมเขียนเล่ามานั้น พี่แจ้ยังคงเสียงดีไม่มีตกและยังคงรักษามาตรฐานเสียงร้องนุ่มหล่ออันทรงเสน่ห์ของตัวเองไว้ได้เป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ยังมีลูกอ้อนที่พี่แจ้แกใส่เพิ่มลงไปในเพลงเร็วมากกว่าในยุคที่เป็นนักร้องนำวงแกรนด์เอ็กซ์อยู่บ้างเหมือนกัน
นอกจากบทเพลงเร็วทั้งสามแล้ว อัลบั้มนี้ยังมีเพลงเร็วอย่าง “ยำโลก”(แทรค 8)ที่เนื้อหาออกไปทางเพลงเพื่อชีวิตเพื่อสังคม และ “จิ๊บ ร.ด.” (แทรค 9)ที่เป็นเพลงเดียวโทนๆในอัลบั้มนี้ที่พี่แจ้ไม่ได้ร้อง แต่ว่ามันเจ๋งใช่ย่อย กลายเป็นเพลงฮิตที่กลายเป็นลายเซ็นประจำตัวของ“พี่จิ๊บ : วสุ แสงสิงแก้ว”(ที่เข้ามาร่วมกับวงพลอยในชุดนี้) มาจนทุกวันนี้
ในชุดของขวัญยังมีเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้มคือเพลง“ของขวัญ”(แทรค 12 แทรคสุดท้าย) แม้ไม่ใช่เพลงดังมากมาย แต่เป็นเพลงที่มีความโดดเด่นมากเพลงหนึ่ง และเป็นอีกหนึ่งบทเพลงของพี่แจ้ผมชื่นชอบมากเป็นพิเศษ
ของขวัญเป็นการช่วยกันขับร้อง นำโดยพี่แจ้ สมาชิกวงพลอย โดยมีพี่โอมร่วมสมทบอีกหนึ่งเสียง ร่วมด้วยไลน์ประสานสไตล์อะแคปเปล่าที่ทำได้เก๋มาก ในขณะที่ภาคเนื้อร้องนั้นก็เยี่ยมไปด้วยเนื้อหาสดใสให้กำลังใจชวนเพลิดเพลิน ถือเป็นของขวัญที่น่ารักน่าฟังเป็นอย่างยิ่ง
“...เปิดเมื่อไหร่ จะพบกับแสงสว่าง ชี้นำทาง ให้เธอเดินก้าวหน้าไป เปิดเมื่อไหร่ จะพบทางเดินสดใส พร้อมทั้งแรงจากใจ ถึงใจมอบให้กับเธอ จงมั่นใจฉัน ทุกๆวันฟาดฟันกับอุปสรรค แม้ทุกนั้นจะหนักสู้ไป จงเชื่อฉันไว้ เพราะจริงใจยังเป็นเพื่อนเธอเสมอ ของขวัญที่มอบให้เธอ มีค่ากว่าสิ่งใด”
ย้ายอารมณ์มาพูดถึงเพลงช้ากันบ้าง อัลบั้มของขวัญ มีเพลงช้าๆ คือ “โลกนี้คือเธอ”(แทรค 5),”รักเอยอยู่ไหน”(แทรค 10),”ร้อน”(แทรค 11) และ“พิษรัก”(แทรค 16) เพลงเก่าอมตะของ“ครูสุรพล โทณวนิก”(ผู้แต่ง) ที่พี่แจ้นำมาขับร้องใหม่ด้วยเสียงนุ่มๆอ้อนๆ
นอกจากนี้ยังมีเพลงช้าเพลงดังอย่าง “ห้องสีขาว”(แทรค 7) ที่แต่งโดย ”กรวิก” ซึ่งได้นำเรื่องราวชีวิตจริงของหญิงสาวคนหนึ่งที่เก็บตัวอยู่ในห้องคนเดียวมาเขียนถ่ายทอดออกมาเป็นเพลงได้เศร้าบาดใจ
ห้องสีขาว เป็นเพลงให้กำลังใจต่อสู้ชีวิต อย่ายอมแพ้ ซึ่งพี่แจ้ร้องเพลงนี้ได้เศร้าบาดใจมาก เรียกว่าฉีกอารมณ์จากเสียงอ้อนสาวหวานซึ้งมาร้องในโทนเศร้าได้ดีทีเดียว
“...ห้องนั่นสีขาว แต่โลกเราไม่ใช่ โหดร้ายน่ารักมีอยู่คู่กัน แม้ถ้าเธอกล้าหาญ บุกฝ่าฟันปีนกำแพงกั้น ทุกวันสาวเจ้าจะพบ เพื่อนร่วมทาง...”
แล้วก็มาถึงบทเพลงที่ถือเป็นที่สุดของอัลบั้มนี้คือ “ที่สุดของหัวใจ”(แทรค 4) เพลงนี้พี่แจ้แต่งได้เพราะมาก ดนตรีขึ้นนำมาด้วยเปียโน มีเบสเล่นเสียงสูงโซโลหวานๆสอดรับ ตามด้วยเสียงซินธ์เลียนเสียงฮาร์โมนิก้า แล้วส่งต่อเข้าเพลงที่พี่แจ้ร้องถ่ายทอดออกมาได้อย่างเศร้า เหงา ซึ้ง แต่ว่าฟังเพราะจับใจ
“...แต่ถ้าพรุ่งนี้ ดวงใจยังโกรธ ฉันโทษใครได้ เป็นกรรมของใจ พบเธอโดนผลักไส ทำอย่างไรพรุ่งนี้
นับช้ำมากี่ครั้ง หัวใจยังไม่จำ ซ้ำยังยอมให้ทำ เพราะรักมากไป เพราะซื่อสัตย์ไป จึงช้ำใจ...”
ที่สุดของหัวใจ นอกจากจะเป็นหนึ่งในเพลงดังอมตะคู่บุญพี่แจ้ที่โด่งดังเหนือกาลเวลามาจนถึงทุกวันนี้แล้ว ยังเป็นบทเพลงแห่งการเปิดตำนานการใช้ชื่อ“ที่สุด”นำในอัลบั้มต่อๆมาของพี่แจ้อีกหลากหลายอัลบั้ม รวมถึงนี่ยังเป็นเพลงที่มีคนนำชื่อเพลงมาขยายผลในวงการต่างๆอีกมากมาย
***********************************************************
คลิกฟังเพลง ที่สุดของหัวใจ
*****************************************
หมายเหตุ : ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
- ปัจจุบันพี่แจ้เปิดร้านอาหาร “บ้านแสนรัก” อยู่บริเวณถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา
- เรื่องราวของพี่แจ้ยังไม่จบเพียงเท่านี้ โปรดติดตามตอนต่อไป
*****************************************
บทความแนะนำเพลงน่าสนใจย้อนยุค จะนำเสนอสลับกับบทความแนะนำเพลงน่าสนใจในสมัยนิยม